ทุกคนกลับมายังด้านหน้าของตำหนักสี่เหลี่ยมอีกครั้ง
โดยครั้งนี้ ทุกคนต่างก็ได้ตั้งชื่อเรียกขานใหม่ขึ้น ให้กับตำหนักแห่งนี้
วังเทพจันทรา
ผู้อาวุโสเก้ามองไปที่หลินหยุน และพูดขึ้นว่า: “เพื่อนเต๋าหลินหยุน ทำลายค่ายกลเถอะ! ”
โล่เสว่ฉีกับหยางเฟยเย่นทั้งสองคนมองไปที่หลินหยุนพร้อมกัน โดยที่มีความประหลาดใจอยู่บ้าง ซึ่งการที่ผู้อาวุโสเก้าเรียกเขาว่าเพื่อนเต๋านั้น นั่นแสดงว่าสถานะของหลินหยุนในใจของผู้อาวุโสเก้า ได้ยกระดับสูงขึ้นเทียบเท่ากับตัวเขาเองแล้ว
หลินหยุนถามขึ้นว่า: “คำมั่นสัญญาที่สำนักอู๋จี๋ยังคงมีผลเหมือนเดิมอยู่ไหม? ”
ผู้อาวุโสเก้าพูดว่า: “ยังคงมีผลเหมือนเดิมแน่นอน เพียงแค่นายสามารถทำลายค่ายกลนี้ได้ สิ่งของด้านในนี้นายสามารถที่จะเลือกได้สามอย่างตามความต้องการก่อนได้เลย! ”
“ตกลง! ”
หลินหยุนเดินขึ้นมาด้านหน้า ยื่นมือออกมาแล้วก็ปล่อยพลังทิพย์ โดยประตูของตำหนักสี่เหลี่ยมทันใดนั้น ก็ได้เปิดขึ้นทั้งหมด
“เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกัน! ”
“ใช่เลย ทำไมประตูบานนี้ถึงได้เปิดขึ้นอย่างอัตโนมัติล่ะ? ”
ทุกคนอุทานขึ้นเป็นระยะ ไม่เข้าใจว่าทำไมถึงเกิดเรื่องแบบนี้ขึ้นได้
เย่สวนฉีมีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง: “เขาได้ทำลายค่ายกลลงได้แล้วจริง ๆ เหรอ! ”
“นี่เป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
คิดถึงที่ว่าตนเองได้วางเดิมพันไว้กับหลินหยุน หน้าตาอันแก่ชราของเย่สวนฉีก็ได้ร้อนผ่าวขึ้น
หากว่าพ่ายแพ้แล้ว นั่นจะต้องคารวะทำความเคารพหลินหยุนเป็นอาจารย์เลยทีเดียว!
ถ้าอย่างนั้นคงจะอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก ต่อไปจะมีหน้าดำเนินชีวิตอยู่ในยุทธจักรได้อย่างไรกัน!
ที่จริงแล้วเหตุผลง่ายดายอย่างมาก ค่ายกลนิรันดร์กาลเป็นเพียงแค่ค่ายกลที่ไม่สมบูรณ์ หากคิดที่จะทำลายค่ายกลนี้ จะต้องจัดวางค่ายกลนิรันดร์กาลให้สำเร็จเสียก่อน
แต่ว่าเมื่อหลังจากที่จัดวางค่ายกลนิรันดร์กาลสำเร็จแล้ว พลังที่ใช้ปกป้องคุ้มครองค่ายกลนั้นก็จะเคลื่อนตัวออกจากภายในสู่ภายนอก ก็หมายความว่าได้ทำลายค่ายกลที่ปกป้องคุ้มครองวังเทพจันทราได้แล้วนั่นเอง
จากนั้นก็ปล่อยพลังทิพย์ในระดับเดียวกันออกมา ค่ายกลนิรันดร์กาลก็จะยอมรับในสถานะของคนผู้นี้ โดยที่คนผู้นี้ก็จะครอบครองสิทธิเฉพาะในการเข้าสู่ศูนย์กลางสำคัญของค่ายกล
หลินหยุนไม่ได้อธิบายใด ๆ และก็ไม่ได้ให้ความสนใจต่อเย่สวนฉีที่กำลังหน้านิ่วคิ้วขมวด โดยได้เดินผ่านเข้าไปด้านในอย่างไม่สะทกสะท้าน
ขณะที่อยู่ห่างจากตำหนักประมาณสิบกว่าเมตรนั้น หลินหยุนก็ได้กลิ่นไหม้เกรียมที่ฉุนเป็นอย่างมาก
หลี่อู๋จี๋ไม่พูดไม่จา รีบเดินตามติดไปทันที
ผู้อาวุโสเก้ากับผู้อาวุโสสามและคนอื่น ๆ ก็สบตาส่งสัญญาณซึ่งกันและกัน แล้วก็ค่อย ๆ เดินตามกันเข้าไป
ส่วนคนอื่น ๆ ที่เห็นดังนั้น ก็ได้รีบเดินตามเข้าไปด้วยเช่นกัน
ซูจื่อเหลียงส่งเสียงฮึอย่างเย็นชา และก็เดินติดตามอยู่ด้านหลังของทุกคน โดยที่จับจ้องสังเกตการเคลื่อนไหวของทุกคนอยู่ตลอดเวลา
โล่เสว่ฉีกับหยางเฟยเย่น กลับกลายเป็นอยู่ด้านหลังสุด ทั้งสองคนได้สบตาซึ่งกันละกัน โดยที่ต่างฝ่ายต่างก็ไม่ชอบหน้าของฝ่ายตรงข้าม จึงไม่ได้พูดอะไรกันสักคำ และรั้งท้ายเข้าสู่ภายในของตำหนัก
โดยคนสุดท้าย ก็คือปรมาจารย์เย่เย่สวนฉี
เดิมทีคิดว่าหลังจากที่หลินหยุนได้ทำลายค่ายกลลงแล้ว ก็จะมาดูถูกเหยียดหยามเขาในทันที พร้อมกับบีบบังคับให้เขาทำตามการวางเดิมพันที่ให้ไว้ โดยที่ใครจะรู้ว่าหลินหยุนเองไม่ได้เอ่ยถึงเรื่องนี้เลยสักนิด เหมือนกับว่าเขาได้หลงลืมเรื่องนี้ไปแล้วอย่างไรอย่างนั้น
เย่สวนฉีอดไม่ได้ที่จะยิ้มอย่างขมขื่นและพูดขึ้นว่า: “ข้าคิดว่าเขาไม่คู่ควรที่จะมาเป็นคู่ต่อกรของข้าได้ จนถึงตอนนี้ข้าถึงเข้าใจได้ว่า เดิมทีเขานั้นไม่เคยเห็นข้าอยู่ในสายตาเลยแม้แต่น้อย”
เย่สวนฉียิ้มอย่างขมขื่นด้วยสีหน้าท่าทางที่เศร้าซึม แล้วก็หันหลังเดินจากไป โดยแม้แต่ความคิดที่จะเข้าไปยังภายในของตำหนักเพื่อสำรวจค้นหาก็ไม่มีแล้ว
สภาพภายในตำหนัก ค่อนข้างย่ำแย่มากทีเดียว
จะบรรยายอย่างไรดี?
ซากปรักหักพัง เป็นเพียงซากปรักหักพังทั้งแถบ
วังเทพจันทราอะไรที่ไหนกัน อะไรที่ว่าเป็นถ้ำศักดิ์สิทธิ์ของเซียนป้ายเยว่ ไม่เห็นจะมีอะไรเลย เป็นเพียงแค่ซากปรักหักพังทั้งแถบ
ทุกสิ่งทุกอย่าง ต่างก็ถูกไฟเผาไหม้จนกลายเป็นผุยผงไปหมดแล้ว
ไม่มีสิ่งของอะไรที่หลงเหลืออยู่เลย
ทุกคนต่างยืนกันอยู่ที่ประตูของตำหนัก แล้วมองมายังสภาพที่เป็นอยู่นี้ พร้อมกับใบหน้าที่เต็มไปด้วยความผิดหวัง
“เป็นอย่างนี้ได้อย่างไรกัน? ”
ผู้อาวุโสเก้าก็มีสีหน้าท่าทางที่ตกตะลึง โดยพวกเขาพยายามอย่างเต็มที่จนสามารถทำลายเปิดค่ายกลได้ แต่กลับคิดไม่ถึงว่าผลลัพธ์จะออกมาเป็นเช่นนี้
“เคยมีคนได้เข้ามาก่อนหน้านี้หรือไม่? แล้วหลังจากที่ได้นำสิ่งของในที่แห่งนี้ออกไปหมดแล้ว ก็ได้ทำการจุดไฟเผาตำหนักแห่งนี้? ” หลี่อู๋จี๋ถามขึ้นด้วยความสงสัย
หลินหยุนพูดขึ้นว่า: “ไม่ใช่”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...