โห้จินผิงจ้องโห้จินเย่น เขาเข้าใจสิ่งที่น้องสาวต้องการ ต่อให้โห้ซือหนันจะแต่งออกไป เธอก็ไม่ยอมปล่อยให้โห้ซือหนันใช้ชีวิตอย่างมีความสุข
แต่ว่า ถ้าเกิดงานแต่งนี้เกิดปัญหาขึ้นมา ตระกูลโห้ที่ลงทุนลงแรงจนได้สิทธิ์ในการค้าขายน้ำแห่งชีวิต ก็จะสูญเปล่าทันที
ถ้าเกิดอยู่ในมณฑลซีหนิง แล้วไม่ได้รับอนุญาตจากตระกูลกง ต่อให้ตระกูลโห้ของเขาจะเป็นตระกูลอันดับสองของมณฑลซีหนิง ก็ทำงานลำบาก
“น้องพี่ อย่าพูดจาเหลวไหล!ถ้าเกิดประโยคนี้ไปถึงหูพ่อของคุณชายกง เขาจะคิดกับคุณชายกงยังไง?” โห้จินผิงพูดเตือนสติ
โห้จินเย่นยิ้มด้วยเสียงเย็นชา ไม่ได้พูดอะไรอีก แต่ภายในใจกลับแอบหัวเราะเยาะพี่ชายตัวเองที่ไม่เข้าใจความคิดของลูกคุณหนูอย่างกงเห้า
กงเห้าตามจีบโห้ซือหนันมาโดยตลอด ตอนนี้โห้ซือหนันกลับโดนพ่อตัวเองแย่งไปก่อน เขาโมโหเป็นอย่างมาก พี่ใช้พ่อเขาในการกดดันเขา ไม่เพียงแค่ไม่มีประโยชน์ แถมยังเป็นการเพิ่มน้ำมันเข้าไปในกองเพลิง
อย่างที่คิดไว้ กงเห้าเตะประตูใหญ่อย่างรุนแรง แล้วตะโกนด่าเสียงดัง “โห้ซือหนันนางแพศยา ถ้าเกิดวันนี้มึงไม่มาอธิบายกับกูให้ชัดเจน กูจะไม่ไปไหนทั้งนั้น!”
โห้จินเย่นมองไปยังชั้นบนยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดว่า “น้องซือหนัน ถึงแม้พรุ่งนี้เธอจะแต่งเข้าตระกูลกง แต่จะทำตัวเป็นไม่รู้จักพี่ชายพี่สาวของตัวเองไม่ได้ถูกไหม?”
“พวกเราอุตส่าห์มาเยี่ยมเธอ แต่เธอกลับไม่ยอมให้เราเข้าไป ถ้าเกิดใครรู้เข้าจะโดนหัวเราะเยาะเอานะ!”
โห้จินผิงพอเห็นว่ากงเห้าต้องการจะเข้าไปให้ได้ จึงมีแต่ต้องทำตัวเป็นพี่ชายคนหนึ่ง หันไปตะโกนใส่ชั้นบนด้วยเสียงจริงจัง “น้องซือหนัน รีบเปิดประตูเดี๋ยวนี้ ให้คุณชายกงเข้าไป!การที่ปล่อยให้แขกอยู่ข้างนอก นี่ไม่ใช่วิธีการต้อนรับแขกของตระกูลโห้!”
ข้างในห้อง อันซินมองโห้ซือหนันด้วยความเป็นห่วง “ซือหนัน ทำยังไงกันดี? พี่ชายกับพี่สาวเธอก็มาด้วย”
โห้ซือหนันโกรธจนหน้าเขียว “โห้จินผิงกับโห้จินเย่นสองพี่น้องคู่นี้ ถึงขั้นนี้แล้วก็ยังไม่ยอมปล่อยฉันไป!”
ถึงแม้โห้ซือหนันจะโมโหอยู่ แต่ว่าใบหน้ากลับเต็มไปด้วยความสับสนอย่างเห็นได้ชัด และเห็นได้ชัดว่าหวาดกลัวสองพี่น้องคู่นี้เป็นอย่างมาก จนคิดอะไรไม่ออก
อันซินพูดว่า “ทำยังไงดี?เรื่องแบบนี้ต่อให้แจ้งความก็ไม่มีประโยชน์!”
โห้ซือหนันเอามือกอดอกอย่างแน่นหนา ผ่านไปสักพัก ก็กัดฟันพูดออกมาว่า “ฉันจะไปเปิดประตู ดูสิว่าพวกเขาจะทำอะไรฉันได้!”
โห้ซือหนันไปเปิดประตู หลินหยุนและอันซินตามหลังเธอมา เธอยืนอยู่หน้าประตู จ้องมองกงเห้าทั้งสามคนด้วยสายตาเย็นชา
“พวกมึงต้องการอะไร?” โห้ซือหนันตะโกนด้วยสีหน้าเย็นชา
ทั้งสามเหมือนจะนึกไม่ถึงว่า ข้างในบ้านโห้ซือหนันจะมีคนอื่นอยู่ด้วย จ้องมองหลินหยุนกับอันซิน แล้วอึ้งไปสักพัก
โห้จินเย่นยิ้มอย่างเจ้าเล่ห์แล้วพูดขึ้นมาทันทีว่า “ถึงว่าทำไมน้องซือหนันใช้เวลานานขนาดนี้ถึงยอมมาเปิดประตู ที่แท้ก็เก็บผู้ชายไว้ข้างในบ้านนี่เอง!”
กงเห้ามองหลินหยุนด้วยความโกรธ แล้วตะโกนถามว่า “นางแพศยา มันเป็นใคร?”
โห้ซือหนันโกรธจนหน้าแดง โห้จินเย่นนางปากหมา ไม่เคยพูดอะไรดีๆออกมาสักครั้ง
มองกงเห้าด้วยความโกรธ โห้ซือหนันพูดด้วยเสียงเย็นชา “เขาเป็นใคร มึงเกี่ยวอะไรด้วย! มึงมีสิทธิ์อะไรถึงได้มาตะโกนใส่หน้าฉัน?”
โห้จินผิงทำหน้าจริงจัง เหมือนพี่ชายคนหนึ่ง แล้วตะโกนว่า “โห้ซือหนัน ห้ามเสียมารยาทกับคุณชายกง!”
โห้จินเย่นยิ้มอย่างเย็นชา “คุณชายกง ได้ยินหรือยัง? เขาไม่สนใจจะอธิบายกับคุณด้วยซ้ำ ยังไงซะพรุ่งนี้เธอก็จะกลายเป็นแม่เลี้ยงของคุณแล้ว”
คำว่าแม่เลี้ยง จงใจลากเสียงยาวแล้วเน้นคำนี้ ฟังแล้วไม่สบอารมณ์เป็นอย่างมาก
กงเห้าเคยรับความอับอายแบบนี้ที่ไหน ทั้งๆที่ตอนแรกควรจะเป็นผู้หญิงของตัวเอง กลับกลายเป็นแม่เลี้ยงของตัวเองซะได้
ในฐานะที่เกิดเป็นคุณชาย จากนี้กงเห้าจะใช้ชีวิตต่อยังไง? นี่จะกลายเป็นเรื่องที่น่าอับอายไปชั่วชีวิตของเขา
กงเห้าทำสีหน้าดุร้าย บวกกับที่มีฤทธิ์ของเหล้า เห็นได้ชัดว่าไม่สนใจอะไรแล้ว ค่อยๆเดินเข้าไปหาโห้ซือหนัน มุมปากเผยรอยยิ้มชั่วร้ายออกมา “แม่เลี้ยง? มึงชอบตาแก่ในบ้านกูขนาดนั้นเลยเหรอ? มันมีอะไรดี? ตาแก่นั้นกล้าแย่งผู้หญิงของกู กูก็กล้ายุ่งกับผู้หญิงของมัน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...