จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 490

สรุปบท บทที่ 490 คุณก่อเรื่องใหญ่แล้ว: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 490 คุณก่อเรื่องใหญ่แล้ว – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 490 คุณก่อเรื่องใหญ่แล้ว ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

“โห้จินผิง เรียกคนมา ไม่ต้องสนว่ามันเป็นใคร ทำให้มันพิการซะ!” ในมณฑลซีหนิงแห่งนี้ กงเห้าเป็นใหญ่มาโดยตลอด ปกติไม่มีใครกล้ามีเรื่องกับเขา เคยโดนแบบนี้ที่ไหนกันล่ะ?

บวกกับฤทธิ์เหล้าที่อยู่ในร่างกายของเขา ฝ่ามือของหลินหยุนยังไม่เพียงพอที่จะทำให้เขาได้สติ แถมยิ่งเป็นการเพิ่มความโกรธให้กับเขาอีก

เวลาที่เหล่าคุณชายออกไปเที่ยว ส่วนใหญ่จะพาบอดี้การ์ดไปด้วย เหตุผลที่ไม่ได้ติดตามเขามา ก็เพราะกงเห้ากับโห้จินผิงคิดว่า ในมณฑลซีหนิงแห่งนี้ คงไม่มีใครกล้าทำอะไรพวกเขา

พวกเขานึกไม่ถึงว่าจะเจอคนนอกอย่างหลินหยุน

โห้จินผิงหันไปตะโกนใส่คนข้างหลัง “รีบออกมาเร็วเข้า คุณชายกงโดนคนทำร้ายแล้ว”

ตรงมุมมืด จู่ๆผู้อาวุโสสองคนปรากฏตัวออกมาด้วยความเร็วสูง พุ่งออกมาหลายคน ยืนอยู่ตรงหน้าของกงเห้าเรียบร้อยแล้ว จ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาเย็นชา

พอเห็นว่ากงเห้าพาบอดี้การ์ดมาด้วย อันซินกับโห้ซือหนัน รีบเดินไปอยู่ข้างๆหลินหยุน

โห้ซือหนันไม่รู้ความแข็งแกร่งของหลินหยุน มีความกังวลเล็กน้อย รีบตะโกนใส่กงเห้าด้วยเสียงเย็นชา “กงเห้า มึงคิดจะทำอะไร พวกเขาไม่ใช่คนของมณฑลซีหนิง ถ้าเกิดมึงกล้าทำอะไรพวกเขา จะต้องกลายเป็นเรื่องใหญ่แน่นอน มึงเองก็ต้องเดือดร้อนไปด้วย!”

กงเห้าไม่สนใจแม้แต่น้อย ตะโกนใส่ผู้อาวุโสทั้งสองคนว่า “ทำให้มันพิการซะ!”

หลินหยุนจ้องมองสักพัก สองคนนี้เป็นนักบู๊ที่อยู่ในแดนพรแสวงสูงสุด พอถึงช่วงอายุของพวกเขา ทั้งชาตินี้ก็คงไม่มีวันทะลุถึงพรสวรรค์ เพราะงั้นจึงต้องลดตัวลงมาเป็นบอดี้การ์ดของคนอื่น

ทั้งสองมองหลินหยุนสักพัก สัมผัสชี่แท้จากตัวของหลินหยุนไม่ได้แม้แต่น้อย จึงมองเขาด้วยสายตาดูถูก

“เจ้าหนุ่ม อย่าหาว่าพวกเรารังแกคนอ่อนแอ ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่แกไม่ดูตาม้าตาเรือ มีเรื่องกับคนที่ไม่ควรมีเรื่อง!”

พอพูดจบ หนึ่งในผู้อาวุโสก็พุ่งไปหาหลินหยุนด้วยความเร็วสูง ปล่อยหมัดใส่หน้าอกของหลินหยุน

ผู้อาวุโสอีกคนไม่ได้บุกเข้ามา เขารู้สึกว่าการต่อกรกับคนธรรมดาคนหนึ่ง แค่คนเดียวก็เพียงพอแล้ว

สีหน้าของโห้ซือหนันเต็มไปด้วยความหวาดกลัว “เจ้าเฒ่าคนนี้แข็งแกร่งขนาดนี้เลยเหรอ คราวนี้จบสิ้นแล้ว”

“อันซิน เธอรีบหนีไปซะ กงเห้าบ้าไปแล้ว! ถ้าเกิดหนีไปได้ จะต้องคืนความเป็นธรรมกับเพื่อนคนนี้ของเธอได้อย่างแน่นอน!” โห้ซือหนันรีบหันไปพูดกับอันซิน

อันซินพอจะเข้าใจความแข็งแกร่งของหลินหยุนอยู่เล็กน้อย พูดด้วยน้ำเสียงไม่ทุกข์ร้องว่า “อย่าเพิ่งรีบร้อน ดูก่อนค่อยว่ากันอีกที”

หลินหยุนมองผู้อาวุโสคนนั้นพักหนึ่ง ไม่เห็นการโจมตีของเขาอยู่ในสายตาด้วยซ้ำ แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “แกพูดถูกแล้ว อย่าหาว่าฉันรังแกคนอ่อนแอก็แล้วกัน ถ้าจะโทษก็ต้องโทษที่แกไม่มีตาม้าตาเรือ”

บูม!

พอรอจนผู้อาวุโสคนนั้นเข้ามาใกล้ๆ หลินหยุนก็ใช้ฝ่ามือตบออกไป ผู้อาวุโสคนนั้นโดนตบจนปลิวออกไป กระแทกลงบนพื้น แล้วชีวิตก็จบลง

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!” ผู้อาวุโสอีกคนทำหน้าตกใจ ทั้งๆที่สัมผัสชี่แท้จากตัวของหลินหยุนไม่ได้แม้แต่น้อย ทำไมถึงแข็งแกร่งขนาดนี้!

“เข้าไปสิว่ะ!จะยืนทำซากอะไร? ยังจะบอกอีกว่าตัวเองเป็นนักบู๊อะไรนั่นอีก คนเดียวสู้ได้สิบคน เหลวไหลสิ้นดี เห็นได้ชัดว่าเป็นแค่ขยะสองคน!” กงเห้าตะโกนด่าทออยู่ข้างหลัง

ใบหน้าของผู้อาวุโสคนนั้นแดงก่ำ ตอนนี้นั่งหลังเสือแล้วลงได้ยาก มีแต่ต้องใช้พลังทั้งหมด เพื่อโจมตีหลินหยุน

บูม!

เขาเองก็เหมือนกับผู้อาวุโสเมื่อกี้ โดนตบจนปลิวออกมา

กงเห้าถุยออกมา “นักบู๊ห่าเหวอะไรว่ะ นี่มันขยะชัดๆ สู้เด็กที่มาจากข้างนอกไม่ได้ด้วยซ้ำ!”

จนถึงตอนนี้ กงเห้าดูเหมือนจะยังไม่รู้ว่าตัวเองกำลังอยู่ในอันตรายขนาดไหน

หรือจะบอกว่า กงเห้ามั่นใจมากว่า ถ้าเกิดอยู่ในมณฑลซีหนิงแห่งนี้ มีแต่เขาที่รังแกคนอื่น ไม่มีใครกล้าทำอะไรเขา

สีหน้าของโห้ซือหนันเต็มไปด้วยความประหลาดใจ กุมมือของอันซินแล้วพูดด้วยความดีใจแล้วพูดว่า “อันซิน เพื่อนเธอคนนี้เก่งจังเลย!นักบู๊พวกนั้น ได้ยินมาว่าตระกูลกงใช้เงินจ้างมาในราคาสูง แต่เขากลับสามารถเอาชนะทั้งสองคนได้อย่างง่ายดาย!”

อันซินยิ้ม ไม่ได้พูดอะไร จ้องมองหลินหยุนด้วยความซาบซึ้ง แล้วพูดในใจว่า “ดูเหมือนว่าการที่พาหลินหยุนมาในครั้งนี้ จะเป็นความคิดที่ฉลาดมาก”

หลินหยุนค่อยๆเดินเข้าไปหากงเห้า ดูเหมือนจะรับรู้ได้ถึงแรงกดดัน กงเห้าเริ่มหวาดกลัวเล็กน้อย ถอยหลังกลับไปเรื่อยๆ

“มึง มึงคิดจะทำอะไร?”

ในเวลาแบบนี้ การขอร้องคงไม่ได้ผล มีแค่ต้องข่มขู่อีกฝ่าย ให้อีกฝ่ายรู้สึกหวาดกลัว แบบนั้นอีกฝ่ายจะได้ยอมปล่อยตัวเอง

“ไอ้หนุ่ม มึงคิดให้ดีๆ กูเป็นคนของตระกูลกง ถ้าเกิดวันนี้มึงกล้าแตะต้องกู มึงและตระกูลของมึง จะต้องรับการโจมตีจากตระกูลกงในมณฑลซีหนิง!”

“ถ้าเกิดมึงยอมปล่อยกู เรื่องนี้กูจะถือซะว่าไม่เคยเกิดขึ้น กูจะไม่หาเรื่องผู้หญิงคนนั้นอีก ถ้าเกิดมึงชอบมึงก็เอาไปเลย”

“มึงคิดให้ดีๆ”

ตรรกะการคิดของกงเห้านั้นถูกต้อง แต่น่าเสียดายที่เขาเลือกใช้ผิดคน

“ยังจะกล้าขู่ฉันอีก” หลินหยุนยกขาขึ้นมา แล้วเหยียบเข้าไปยังหว่างขาของกงเห้าอย่างรุนแรง

กงเห้าร้องตะโกนเหมือนกับหมูที่ถูกเชือด

โดนทุบไข่จนแหลกละเอียด!

โห้จินผิงที่ยืนข้างๆแค่เห็นก็รู้สึกเจ็บแล้ว ตอนที่หลินหยุนกวาดสายตามองมาที่เขา เขากลับปิดหว่างขาของตัวเองโดยอัตโนมัติ รู้สึกเสียวตรงหว่างขา

“ไปซะ!” หลินหยุนตะโกนเบาๆ เตะกงเห้าออกนอกประตูใหญ่

“แก แก......” โห้จินผิงชี้นิ้วใส่หลินหยุน อยากจะพูดอะไรสักอย่าง แต่พอเห็นสายตาที่เย็นชาของหลินหยุน จู่ๆก็รู้สึกเย็นที่คอ จนพูดไม่ออกแม้แต่คำเดียว

ไม่กล้าพูดใส่หลินหยุน โห้จินผิงจึงมีแต่ต้องเอาความโกรธมาระบายใส่โห้ซือหนัน

“โห้ซือหนัน แกคบเพื่อนได้ดีจริงๆ! ครั้งนี้แกทำให้ตระกูลกงโกรธจริงๆแล้ว แกเตรียมตัวรอพ่อมาจัดการแกได้เลย!”

โห้จินเย่นจ้องมองโห้ซือหนันด้วยใบหน้าชั่วร้าย แล้วพูดด้วยเสียงเย็นชาว่า “น้องซือหนัน ครั้งนี้เธอทำให้ผิดหวังจริงๆ เธอกล้าร่วมมือกับคนอื่น จนทำให้คุณชายกงพิการ!”

“เธอเตรียมตัวรับความโกรธจากพ่อและตระกูลกงซะเถอะ!”

พอพูดจบ ทั้งสองก็รีบพยุงกงเห้าที่กำลังร้องด้วยความเจ็บปวด และหนีออกจากคฤหาสน์

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์