อู่ซื่อหานถึงกับอุทานออกมาอย่างดูถูก: “โอ๋ๆๆ ทำไมฉันถึงได้เห็นคนกำลังพูดจาขี้โม้จนลอยฟ้าไปแล้วนะ !ทำไมนายไม่พูดโม้ให้ตายไปเลยล่ะ ?”
“บริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์เป็นอะไรกับนาย นายถึงได้บอกจะเลือกที่ไหนก็ได้ตามใจแบบนี้ นายคิดว่าตัวเองเป็นใครกัน ?เป็นประธานใหญ่หัวหยา กรุ๊ปหรือไง ?”
คนที่อยู่รอบๆ ต่างพากันส่ายหน้าอย่างระอา ด้วยความรู้สึกว่าครั้งนี้หลินหยุนนั้นพูดโอ้อวดเกินจริงไปแล้ว
ในขณะที่คนที่มีความสัมพันธ์ค่อนข้างดีกับหลินเสี่ยวลู่ ต่างก็มองไปยังหลินหยุนด้วยท่าทีแดกดัน
“หมอนี่ โอหังเกินหน้าไปแล้ว!คำพูดแบบนี้ยังกล้าพูดออกมาได้ วันนี้ประธานใหญ่ของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ก็มาด้วย เขาไม่กลัวว่าจะถูกลากขึ้นมาประจานเลยหรือไง ?”
“ประธานใหญ่บริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์อยู่ฐานะไหนแล้ว พวกเขาจะมาต่อเถียงกับเด็กนักเรียนคนหนึ่งได้ไงเล่า!”
“เพราะหมอนี่รู้จุดนี้ดี ถึงได้กล้าพูดใหญ่โตขนาดนี้ !”
หลี่หมิงกับโจวเจ๋หลุนรวมถึงเหล่าคนซุปเปอร์สตาร์ต่างพากันส่ายหน้าเบาๆ ด้วยสีหน้าที่แสดงออกถึงความดูถูก
ส่วนเฉิงต๋ากับหยวนเบียวและคนอื่นๆ ที่นั่งบนที่นั่งแขก ต่างก็ยิ้มออกมาอย่างเยาะเย้ย
“เจ้าหนุ่มนี่ พูดเกินจริงแล้ว!”
ครั้งนี้แม้แต่จางซือจู่กับอีหลิงพวกเขาต่างก็คิดว่าคำพูดโอ้อวดศักดาครั้งนี้ของหลินหยุนนั้นดูโม้จนเกินจริงไปแล้ว
ถึงแม้หลินหยุนจะเป็นปรมาจารย์หลิน แต่นั่นเป็นเพียงแค่ที่หลินโจวเท่านั้น ในขณะที่บริษัทหวนตี้และบริษัทเกนเนอร์นั้นเป็นสองในสามของบริษัทบันเทิงยักษ์ใหญ่ของประเทศจีน ซึ่งพวกเขาไม่มีทางไว้หน้าปรมาจารย์หลินแน่นอน!
“หลินหยุน นายเพลาๆ หน่อยเหอะ!คนตั้งเยอะตั้งแยะกำลังมองมาไม่เห็นหรือไง?เดี๋ยวจะหาทางจบเรื่องไม่ได้!” จางซือจู่กดเสียงต่ำลงพูดพร้อมกระตุกชายเสื้อหลินหยุนอย่างเบาๆ
ทางด้านอีหลิงเองก็ถึงกับนิ่งไปเลย ถึงแม้ว่าเธอจะเป็นคุณหนูของตระกูลอีจากเจียงหนาน แต่ว่าตระกูลอีกับวงการบันเทิงนั้นไม่ได้มีความเกี่ยวข้องกันเลย แล้วคนในวงการบันเทิงจะไว้หน้าตระกูลอีหรือเปล่านั้น เธอเองก็ยังไม่รู้เลย
“หลินหยุน อย่าพูดให้เรื่องมันล้นเกินไป แบบนี้เดี๋ยวจะจบเรื่องยังไงล่ะ!” อีหลิงกล่าวเตือนด้วยเสียงเบาๆ ที่ร้อนรน
ทางด้านหลินเสี่ยวลู่คอยสังเกตสีหน้าของพวกจางซือจู่และอีหลิงโดยตลอด และเมื่อเห็นแบบนั้นเธอก็ยิ่งเกิดความมั่นใจมากขึ้น
“เด็กน้อย พูดปากเปล่าแบบนี้ใครบ้างจะพูดไม่ได้ !ตอนนี้คนของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ก็อยู่ที่นี่ด้วย ถ้ามีปัญญาจริง ตอนนี้นายก็พิสูจน์ให้ฉันเห็นสิ !”
“หรือไม่อย่างนั้นนายก็ลองหาดาราระดับหนึ่งระดับสองมาสักคนก็ได้ ไม่จำเป็นต้องเป็นคนที่มีตำแหน่งสูงในโลกบันเทิง อย่างน้อยขอคนที่แกร่งกว่าฉันก็พอ !”
อู่ซื่อหานหัวเราะออกมา: “นี่นาย ได้ยินหรือยัง เงื่อนไขที่พี่เสี่ยวลู่ให้นายก็ถือว่าใจกว้างมากพอแล้ว ไม่จำเป็นต้องไปหาคนของบริษัทหวนตี้หรือบริษัทเกนเนอร์ ขอแค่สามารถหาดาราระดับหนึ่งหรือสองมาสักคน ที่เขาจะยอมพูดแทนนายก็พอแล้ว”
“ทำไม?นายคงไม่ใช่ว่าเงื่อนไขแค่นี้ก็ทำไม่ได้หรอกนะ?อย่างนั้นนายมาพูดโอ้อวดทำอะไรกัน ฉันไม่เชื่อว่าคนที่ทำเหมือนบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์เป็นของตัวเอง อยากจะเข้าก็เข้าได้ตามใจ แต่ไม่รู้จักดาราระดับหนึ่งระดับสองเลยหรอกนะ”
บริเวณรอบๆ มีคนหัวเราะเยาะออกมา: “ฮ่าๆ หมอนี่ คำโม้ถูกทำลายซะแล้ว!”
“นั่นสิ รอดูสิว่าเขาจะจบเรื่องนี้ยังไง”
ทางด้านฝั่งพวกของเถียนชุ่ยชุ่ยกับจางเหมิงก็ยังไม่กล้าเข้ามาใกล้หลินหยุน และคอยจับตามองอยู่ไกลๆ เท่านั้น
แต่ไม่ว่าอย่างไรเรื่องที่เกิดขึ้นที่นี่ พวกเธอก็เห็นและเข้าใจอย่างชัดเจน
จางเหมิงพูดขึ้น: “หลินหยุนถึงแม้จะเป็นปรมาจารย์หลิน แต่ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลยว่าปรมาจารย์หลินมีคนรู้จักในวงการบันเทิง ครั้งนี้ดูแล้วไม่มีใครช่วยกู้หน้าเขาแน่”
หวางหยู่หันถอนหายใจออกมา: “ใครจะไปรู้ได้เล่า?ยังไงซะพวกเรายืนดูอยู่ข้างๆ นี้ก็พอแล้ว คนระดับปรมาจารย์หลิน ต่อให้เขาจะได้รับความอับอายที่นี่ แต่พวกเราก็ไม่สามารถไปหัวเราะเยาะเขาอยู่ดี”
จุดนี้ เถียนชุ่ยชุ่ยนั้นเข้าใจได้เป็นอย่างดี ดังนั้นเธอเลยทำหน้านิ่ง ไม่พูดแสดงความเห็นใดทั้งสิ้น
จางซือจู่พูดขึ้นด้วยสีหน้ากังวล: “หลินหยุน เรื่องมาถึงตอนนี้แล้วคงต้องโทรไปหาพี่หยางหยิงแล้ว นายให้เธอช่วยหาใครสักคนมาช่วยกู้ห้านายหน่อยเถอะ”
“ไม่ต้องแล้ว” หลินหยุนตอบกลับอย่างราบเรียบ เตรียมจะโทรไปหาหลันโร่หลิน
แต่แล้วทันใดนั้นก็มีเสียงเนือยๆ หนึ่งดังแทรกขึ้นมา: “ฉันพอจะเข้าข่ายหรือเปล่า?”
เมื่อมองตามเสียงไป กลิ่นหอมกรุ่นที่พุ่งโชยออกมาจากตัวของหญิงสาวคนหนึ่งเธอดูมีความเป็นผู้ใหญ่และเด็ดเดี่ยวอย่างมาก พร้อมกับออร่าที่เปล่งประกายออกมาจากชุดสีแดง ซึ่งตอนนี้กำลังยืนอยู่ข้างๆ หลินหยุน
เธอเหลียวมองไปยังหลินเสี่ยวลู่ที่กำลังแสดงสีหน้าได้ใจอย่างเย็นชา พร้อมตวาดสายตามองตั้งแต่หัวจรดเท้า ก่อนจะพูดด้วยน้ำเสียงที่แฝงถึงความดูถูก : “เขาพูดถูก คุณน่ะไม่คู่ควร”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...