เฉิงเฉินขมวดคิ้วแน่น จ้องมองเติ้งเจียหลุนด้วยใบหน้าที่จริงจัง: “หลินหยุนคือเพื่อนของฉัน”
เธอพูดประโยคนี้ออกมาด้วยท่าทีที่มั่นคง
เติ้งเจียหลุนยิ้มเยาะออกมา: “คุณก็เป็นเพียงคนที่ถูกเชิญมาเท่านั้น ต่อให้เขาจะเป็นเพื่อนของคุณ แล้วมันจะยังไง?”
“ที่เป็นงานฉลองของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ ไม่ใช่งานของเฉิงเฉินอย่างคุณ ส่วนพวกนักเรียนที่ไม่ได้มีความเกี่ยวข้อง ก็รีบไสหัวออกไปซะ!”
คำพูดนี้ของเติ้งเจียหลุนทำเอาเหล่านักเรียนที่แอบเข้ามาดูงานเพื่อความสนุกสนานต่างเกิดความตื่นตระหนกไม่น้อย
จางซือจู่ตะคอกออกมาอย่างไม่พอใจ: “ได้ไงกัน!พวกเรามีบัตรเชิญ นามีสิทธิ์อะไรมาไล่พวกเราออกไป!”
เติ้งเจียหลุนชำเลืองมองเขาด้วยความดูถูก ก่อนจะตอบกลับอย่างเย็นชา : “บัตรเชิญหนึ่งใบ สามารถเข้ามาได้แค่คนเดียวเท่านั้น ถ้าเกิดว่าพวกนายเอาบัตรเชิญออกมาคนละใบได้ อย่างนั้นฉันก็จะให้เขาอยู่ที่นี่ต่อได้”
“พวกนายโชว์ออกมาได้หรือเปล่าล่ะ?”
เห็นได้ชัดเลยว่าเติ้งเจียหลุนจะเข้าใจเป็นอย่างดีเรื่องที่เหล่านักเรียนใช้บัตรเชิญใบเดียวร่วมกันเข้ามาในงาน
จางซือจู่ถึงกับหน้าแดง พูดอะไรไม่ออกสักคำ เพราะว่าพวกเขานั้นอาศัยบัตรเชิญของฉินโส่วเข้ามา
ฉินโส่วพูดขึ้นอย่างเย็นชา: “ที่นี่ไม่ได้มีกฎนี่ว่าบัตรเชิญหนึ่งใบสามารถเข้ามาได้หนึ่งคนเท่านั้น ขนาด รปภ.ยังไม่ได้ห้ามอะไร นายมีสิทธิ์อะไรมาพูดแบบนี้ !”
เติ้งเจียหลุนแหงนหน้าขึ้นเล็กน้อย ก่อนจะพูดอย่างโอ้อวด : “เพราะว่าที่นี่คือมณฑลซีไห่ ฉันบอกว่าบัตรเชิญหนึ่งใบสามารถเข้ามาได้คนเดียว อย่างนั้นคนต่อไปก็ไม่มีสิทธิ์เข้ามา”
หยิ่งผยอง เจ้าบงการ อวดดี!
ท่าทางของเติ้งเจียหลุน ทำเอาทุกคนถึงกับตกใจ !
“เติ้งเจียหลุนโคตรทรงอำนาจเลย”
“ที่เขาพูดก็ไม่ผิด ที่นี่คือมณฑลซีไห่ เป็นเขตของตระกูลเติ้ง”
“มณฑลซีไห่เป็นเขตชายแดนทางตะวันตกเฉียงเหนือของจีน ตระกูลเติ้งทำธุรกิจที่นี่มานานหลายปี จนมีอำนาจเหนือการปกครองของภาครัฐ ซึ่งฐานอำนาจของตระกูลเติ้งนั้นได้หยั่งรากลึกไปแล้ว”
“ฉันได้ยินมาว่าตระกูลเติ้งแอบสร้างกองทัพส่วนตัวในมณฑลซีไห่ด้วยแหละ”
“จริงหรือเปล่าเนี่ย?ถ้าเป็นอย่างนั้นจริงก็ไม่แปลกที่เติ้งเจียหลุนจะจองหองขนาดนั้น !”
จากเสียงซุบซิบของทุกคนดูเหมือนว่าจะไม่มีกล้าตำหนิเรื่องความเย่อหยิ่งของเติ้งเจียหลุนเลย
หลินเสี่ยวลู่และอู่ซื่อหานจ้องมองไปที่สายตาของเติ้งเจียหลุน ก็รู้สึกชื่นชมอย่างมาก ดาราที่กล้าเย่อหยิงขนาดนี้ ดูแล้วคงจะมีแค่เติ้งเจียหลุนคนเดียวเท่านั้น
ทั้งหลินเสี่ยวลู่และอู่ซื่อหานต่างพากันเหลียวไปมองหลินหยุนด้วยความเย้ยหยัน พร้อมกับหัวเราะเยาะในใจ : “หื้ม หมอนี่กล้ามาท้าทายเติ้งเจียหลุนในซีไห่ ดูแล้วเป็นการหาเรื่องใส่ตัวเองแท้ๆ !”
หูเกอที่นั่งอยู่บริเวณทีนั่งแถวที่หนึ่ง ขมวดคิ้วพูดขึ้นมา: “ไอ้โห้ ในซีไห่ไม่มีกล้าไปท้าทายกับตระกูลเติ้งเลย ครั้งนี้ เฉิงเฉินมีปัญหาแน่”
โห้เจี้ยนหวาตอบกลับ: “ไม่เป็นไรหรอก เป้าหมายของเติ้งเจียหลุนคือเจ้าหนุ่มนั่น อย่างนั้นก็คงจะไม่สร้างความลำบากอะไรกับเฉิงเฉิน”
“อีกอย่างเวลากลางวันแสกๆ แบบนี้ มีหรือที่เติ้งเจียหลุนจะกล้าลงมือทำร้ายตน ?อย่างมากก็แต่ทำให้เจ้าหนุ่มนั่นอับก็คงไม่มีอะไรแล้ว”
หลินหยุนจ้องมองเติ้งเจียหลุนที่ตัวเย่อยหยิ่งไร้ที่ติ พร้อมถามด้วยสีหน้าเฉยเมย : “ถ้าหากว่าฉันไม่ไปล่ะ?นายคิดจะทำอะไร?”
เติ้งเจียหลุนตอบกลับอย่างยิ้มเยาะ: “อย่างนั้นฉันก็จะให้ รปภ.มาลากนายออกไป!”
“พอได้แล้ว!” เฉิงเฉินตะเบ็งเสียงอย่างเย็นชา พร้อมทำหน้าครึ้มเดินก้าวไปข้างหน้าหนึ่งก้าว ถลึงตากว้างใส่เติ้งเจียหลุน ก่อนจะพูดขึ้นอีกครั้งอย่างเฉยชา: “ต่อให้ที่นี่เป็นพื้นที่ของตระกูลเติ้งของคุณ แต่วันนี้เป็นงานรวมกิจการของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ คุณไม่มีสิทธิ์มาตัดสินใจแทนพวกเขา”
“การเข้าออกของหลินหยุน คุณไม่มีสิทธิ์มายุ่งเกี่ยว”
เติ้งเจียหลุนพูดเยาะเย้ยด้วยสีหน้าที่จองหอง: “งั้นก็บังเอิญแล้ว ผมก็เป็นดาราในสังกัดของบริษัทหวนตี้ ตอนนี้ผมจะไล่เขาออกไป คุณยังมีอะไรจะพูดอีกหรือเปล่า ?”
เฉิงเฉินเดินหน้าขึ้นไปอีกก้าว แล้วบังหน้าหลินหยุนเอาไว้ ก่อนจะจ้องเติ้งเจียหลุนเขม็ง พร้อมพูดอย่างไม่มีท่าทีว่าจะถอย: “ที่นี่คืองานเลี้ยงฉลองการรวมกิจการของบริษัทหวนตี้กับบริษัทเกนเนอร์ ถือเป็นงานเลี้ยงของโลกบันเทิง ไม่ใช่งานเลี้ยงในตระกูลเติ้งของคุณ ถ้าเกิดว่าคุณอยากจะอาละวาดสร้างความวุ่นวาย เชิญคุณกลับไปอาละวาดที่บ้านคุณโน่น ที่นี่ไม่ใช่ที่ให้คุณมาใช้อำนาจ !”
คำด่านี้เฉิงเฉินค่อนข้างรุนแรง ทำให้เติ้งเจียหลุนอับอายจนเกิดความฉุนขึ้นมา : “คุณมันหาที่ตาย!”
“เอาสิ นึกว่าฉันกลัวคุณหรือไง!” เฉิงเฉินไม่ยอมอ่อนข้อเลยแม้แต่น้อย พร้อมตอกกลับเขาทันที
ครั้งนี้เติ้งเจียหลุนโมโหขึ้นมาจริงๆ ทั้งยังตะโกนเรียก รปภ.ที่อยู่ด้านนอกอีกด้วย : “รปภ. เข้ามาเอาไอ้คนนี้ออกไป !”
รภป.สองนายรีบวิ่งเข้ามาทันทีที่ได้ยินเสียง ซึ่งทั้งหมดนี้ได้รับความสนใจจากทุกคนอย่างมาก
“คุณชายเติ้ง มีอะไรหรือเปล่าครับ?” รภป.นายหนึ่งปั้นยิ้มออกมา พร้อมกล่าวถามอย่างประจบสอพลอ ดูจากท่าทีแล้วเหมือนว่าเขาจะรู้จักกับเติ้งเจียหลุนอยู่แล้ว
เติ้งเจียหลุนชี้นิ้วไปที่หลินหยุน พูดด้วยรอยยิ้มสะใจ : “คนคนนี้ไม่มีบัตรเชิญ พวกนายลากตัวเขาออกไปซะ !”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...