หลังจากที่ฉินหลันจากไปแล้ว หลินหยุนก็เริ่มเตรียมตัวจัดการเรื่องราวบางอย่างให้เรียบร้อย
อย่างน้อยเขาไปเมืองหลวงคราวนี้ จะต้องใช้เวลานานสักระยะหนึ่งกว่าจะได้กลับมา
จัดการฝากฝังซูเหลียงจื่อให้อยู่ที่บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปต่อไป เพื่อปกป้องแม่แก่และพี่ฉินหลัน
หลินหยุนก็โทรศัพท์ไปหาซูหนัน สุดท้ายแล้วก็โทรติดต่อซูหนันไม่ได้เช่นเดิม
ไอ้หมอนี่ราวกับธาตุอากาศหายสาบสูญไปไม่เหลือร่องรอยเลย
แต่ว่าหลินหยุนเชื่อว่า ไม่น่าจะเกิดเรื่องอะไรขึ้นกับเขาได้ เขาได้ฝึกฝนวิชาพินาศไม่สิ้นสูญจนถึงขั้นสูงสุดของเขตแดนแล้ว ได้ชื่อว่าวิชาพินาศไม่สิ้นสูญ จุดที่แข็งแกร่งที่สุดของเคล็ดวิชาชุดนี้ก็คือการปกป้องชีวิตของตัวเอง
ขอเพียงแค่ยังมีลมหายใจอยู่ ก็สามารถฟื้นฟูร่างกายให้ดีขึ้นมาได้
รวบรวมสมาธิ หลินหยุนก็เพ่งดวงจิตเข้าไปในแหวนเก็บของ มองดูรากทิพย์พรสวรรค์ที่จัดเรียงไว้อย่างดีอยู่ภายในแหวนเก็บของ
เดิมทีหลินหยุนวางแผนไว้ว่า หลังจากจัดการกับตระกูลส้งแล้ว ก็จะเริ่มหลอมละลายรากทิพย์พรสวรรค์เพื่อจะได้ฝึกฝนร่างภูตป่าให้บรรลุอย่างสมบูรณ์เสียที
ดูไปแล้ว คงจะต้องรอให้กลับมาจากเมืองหลวงก่อน
“ใช่แล้ว รีบกลับมาเร็วไปหน่อย จนลืมผีดูดเลือดนั่นไปเลย”
แต่พอนึกถึงว่ามีปู่รองเติ้งคอยดูแลคาร์นอตวิลเลียมอยู่ ก็ไม่น่าจะมีปัญหาอะไร
สำหรับในวิทยาลัยนั้น หลังจากที่ฐานะของเขาถูกเปิดโปงแล้ว คาดเดาว่าพวกจางซือจู่ ก็คงไม่มีใครกล้าจะไปหาเรื่องพวกเขาอีกแล้ว
เมื่อดูโดยรวมแล้ว หลินหยุนก็ไม่มีอะไรที่น่าเป็นห่วงอีก
หลังจากนั้นสามวัน หลินหยุนก็นั่งรถไฟฟ้าไปยังเมืองหลวง
หลายชั่วโมงผ่านไป หลินหยุนก็ได้มาถึงศูนย์รวมเศรษฐกิจการเมืองสังคมวัฒนธรรมของประเทศจีนแล้ว
ลงจากรถแล้ว หลินหยุนก็โทรศัพท์ไปหาหงซานเหอ
หงซานเหอก็ให้หลินหยุนรออยู่ที่เดิม จากนั้นก็มีรถAudi A6สีดำคันหนึ่งขับเข้ามา คนขับรถเป็นชายหนุ่มที่ร่างกายแข็งแรงบึกบึน ดูไปแล้วท่าทางเรี่ยวแรงแข็งขัน
หลังจากหลินหยุนขึ้นรถแล้ว รถวิ่งไปประมาณสองชั่วโมงกว่า คนขับรถก็พาหลินหยุนไปส่งที่ค่ายทหารแห่งหนึ่งที่อยู่ชานเมือง
ที่นี่เป็นสถานที่เปลี่ยว อยู่ห่างไกลจากเมืองหลวง มีกำแพงสูงราวสองเมตรล้อมรอบพื้นที่ทั้งหมดนี้ไว้ มองไม่เห็นสภาพภายในเป็นอย่างไร คาดเดาว่าน่าจะเป็นฐานฝึกทหารแห่งหนึ่ง
หลินหยุนลงจากรถ จึงพบว่าตอนนี้เป็นเวลาพลบค่ำแล้ว
“เชิญครับ!” สีหน้าคนขับรถเคร่งขรึม ดูเหมือนไม่ค่อยเป็นมิตรสักเท่าไหร่
หลินหยุนก็เดินไปยังประตูทางเข้าด้วยสีหน้าท่าทางใจเย็น
คนขับรถก็แสดงบัตร จากนั้นทหารเฝ้ายามสองคนที่อยู่หน้าประตูก็เปิดให้เข้าไป แล้วยังทำความเคารพหลินหยุนทั้งสองคนด้วยท่ามาตรฐานของทหารอีกด้วย
ชายหนุ่มคนขับรถก็ทำความเคารพตอบ หลินหยุนก็ไม่แสดงท่าทีอะไร เดินตามหลังคนขับรถเข้าไปประตูทางเข้าด้วยสีหน้าเรียบเฉยไม่สะทกสะท้าน
ชายหนุ่มคนขับรถก็พาหลินหยุนไปยังห้องพักผ่อน
“คุณรออยู่ที่นี่ก่อน อย่าขยับตัวไปไหน ฉันจะไปรายงานท่านนายพลก่อน!”
พูดจบ ชายหนุ่มคนขับรถก็มองหน้าหลินหยุนด้วยสีหน้าเย็นชา แฝงด้วยความหมายข่มขู่ จากนั้นก็เดินจากไป
หลินหยุนหลับตาทั้งสองข้าง นั่งรอให้หงซานเหอมาถึง
สำหรับที่นี่คือสถานที่อะไร หงซานเหอจะวางแผนอะไรให้เขา หลินหยุนไม่เคยคิดมาก่อนเลย
คนมีฝีมือสูงส่งมักมีจิตใจที่ห้าวหาญ คนมีพละกำลังความสามารถ ไม่ว่าจะไปอยู่ที่ไหน ก็ไม่ใช่เป็นปัญหาทั้งนั้น
ในไม่ช้า หงซานเหอก็มาถึงแล้ว
มองหน้าหลินหยุนแวบเดียว แล้วพูดด้วยเสียงเคร่งขรึมว่า “ตามฉันมา”
แท้จริงแล้วที่นี่ก็เป็นฐานฝึกทหารแห่งหนึ่ง หงซานเหอพาหลินหยุนมาถึงตรงหน้าเฮลิคอปเตอร์พร้อมรบลำหนึ่ง
“ขึ้นไปสิ!” หงซานเหอพูดพลางมองหน้าหลินหยุน
นักบินที่อยู่ภายในเฮลิคอปเตอร์ ก็เปิดประตูห้องโดยสารออก หลินหยุนเดินนำหน้าขึ้นไปเป็นคนแรก หงซานเหอก็รีบตามหลังขึ้นไป
ฮู ฮู ฮู............
ใบพัดใหญ่มหึมาของเฮลิคอปเตอร์ก็หมุนอย่างรวดเร็ว จากนั้นก็บินขึ้นสู่ท้องฟ้า พาหลินหยุนและหงซานเหอออกจากฐานฝึกทหารไป
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...