จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 557

พอผ่านไปไม่กี่วินาที คนที่อยู่ในสนามต่างก็หัวเราะออกมาอย่างบ้าคลั่ง

“เจ้าเด็กนี่บ้าหรือเปล่า? เขาบอกว่าจะท้าสู้กับทุกคน!”

“เจ้าเด็กนี่มาจากตระกูลไหนกันแน่? เขามาเล่นตลกใช่ไหม!”

“อุ๊ย ขำจะตายอยู่แล้ว เมื่อกี้ข้ายังคิดว่าเขามีฝีมืออยู่นิดหน่อย ดังนั้นถึงขึ้นไปเวที ช่างเถอะ ข้ายอมรับว่าพูดผิดไปแล้ว”

ฉีซือหย่วนชี้ไปที่หลินหยุนแล้วหัวเราะออกมา “พวกเจ้าได้ยินไหม เขาต้องการท้าสู้กับทุกคน!”

“ให้ตายเถอะ เจ้าเด็กนี่จะทำตัวเย่อหยิ่งเกินไปแล้ว ถึงว่าเขาถึงกล้าสั่งให้ไอ้ขยะจากตะวันตกคนนั้นมาทำร้ายข้า!”

“แต่ดูเหมือนข้าไม่จำเป็นต้องแก้แค้นเองแล้ว เขาฆ่าตัวเองชัดๆ!”

ลู่หนันสุนยิ้มด้วยความเย็นชา แววตาเต็มไปด้วยความดูถูก “ไอ้เจ้านี่ ชอบทำเรื่องเกินตัวจริงๆ! ไม่รู้จริงๆว่า เขามีชีวิตรอดมาจนป่านนี้ได้ยังไง”

ซิงจื่อเย่ยิ่งส่งเสียงเฮิงด้วยความเย็นชาและรำคาญ “พูดจาใหญ่โตไม่รู้จักอายหรือไง!”

ฉีเฉิงคุนรู้สึกเบิกบาน ใบหน้าเต็มไปด้วยความตื่นเต้น “เจ้าเด็กนี่ กระโดดออกมาเองนะ เขากลับต้องการท้าสู้กับทุกคนที่อยู่ในสนาม ฮ่าๆ ครั้งนี้ข้าคงไม่ต้องเปลืองแรงเองแล้ว”

คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าอ้าปากค้าง ผ่านไปสักพักถึงยอมหุบลง

“ไม่จริงมั้ง! จะเล่นใหญ่เกินไปหรือเปล่า! เขาเคยคิดไหมว่าถ้าเกิดแพ้ขึ้นมาล่ะ?” คาร์นอตวิลเลียม แดร็กคิวล่าบ่นพึมพำ

“อย่าพูดจาซี้ซั้ว หลินหยุนจะต้องชนะอย่างแน่นอน! ฉันเชื่อใจเขา” อีหลิงตะโกนเบาๆ มองหลินหยุนที่อยู่ในสนาม ด้วยใบหน้าชื่นชม

แววตาของโล่เสว่ฉีเผยความกังวลออกมาเล็กน้อย ถึงแม้เขาจะเคยเห็นฝีมือของหลินหยุนมาก่อน แต่ว่า หลินหยุนแค่คนเดียว จะท้าสู้กับทุกคน

นี่ นี่มันจะเสี่ยงเกินไปหน่อย

โล่อู่หมิงจ้องมองหลินหยุนที่ยืนกลางสนามอยู่เงียบๆ แววตาเผยความสนใจออกมา “เจ้าเด็กนี่ช่างน่าสนใจจริงๆ หลายสิบปีมานี้ เจ้าเป็นคนแรกที่กล้าท้าสู้กับทุกคนในสนาม!”

“หวังว่าฝีมือของเจ้า จะไม่ทำให้ข้าผิดหวังนะ”

หนิวและหลี่หยวนหว้าจ้องมองหลินหยุน ยิ้มด้วยใบหน้าเย็นชา

“เจ้าหนู สมองแกโดนกระทบกระเทือนหรือเปล่า? ท้าสู้กับทุกคน เจ้าลองกลับไปส่องดูในกระจกสิ ว่าเจ้าคู่ควรหรือเปล่า!”

“รีบไสหัวไปซะ อย่ามาก่อกวนกับต่อสู้ของพวกเรา!” หลี่หยวนหว้าพูดด้วยเสียงเย็นชา

ผู้ประกาศก็พูดออกมาว่า “สุภาพบุรุษท่านนี้ ที่นี่ไม่ใช่ที่ล้อเล่นของท่าน ขอให้คุณกลับไปยังที่นั่งของตัวเองเดี๋ยวนี้!”

หลินหยุนไม่ได้ถอย ค่อยๆเดินเข้าไปข้างใน มองหนิวและหลี่หยวนหว้า แล้วพูดด้วยเสียงเรียบๆว่า “ข้าจะลงมือแล้ว พวกเจ้าระวังให้ดี”

หนิวหัวเราะเสียงดังด้วยไม่ใส่ใจว่า “ลงมือเลยซิ? คิดจะทำให้คุณปู่คนนี้จั๊กจี้หรือไง? เด็กที่ขนยังไม่ขึ้น ยังกล้ามาทำตัวกร่างต่อหน้าคุณปู่อีก!”

“หลี่หยวนหว้าจ้องมองหลินหยุนด้วยสายตาเย็นชา “รนหาที่ตายชัดๆ!”

ทั้งสองไม่ได้ฟังคำเตือนของหลินหยุนแม้แต่น้อย

หลินหยุนก็ไม่ได้ใส่ใจ เดินไป พร้อมกับปล่อยหมัดออกไป

เป็นหมัดที่เรียบง่าย ไม่มีออร่าใดๆ ราวกับเป็นมวยไท่เก๊กที่พวกคุณลุงคุณป้าฝึกซ้อมในสวนสาธารณะ แต่ความเร็วเหนือกว่าพวกคุณลุงอยู่นิดหน่อย

ทุกคนไม่ได้ใส่ใจกับการโจมตีของหลินหยุน แถมยังมีคนมากมายกำลังหัวเราะเยาะอยู่ หัวเราะหลินหยุนว่านั่นเรียกว่าการโจมตีได้งั้นเหรอ

หนิวหัวเราะเสียงดัง “เจ้าหนู แกไม่ได้กินข้าวหรือไง? นี่เรียกว่าการโจมตีงั้นเหรอ ต้องการให้คุณปู่คนนี้สอนไหมว่าอะไรเรียกว่าการโจม......”

พูดยังไม่ทันจบประโยค จู่ๆหนิวก็โดนการโจมตีที่รุนแรงจนปลิวออกไป

หนิวที่มีร่างกายหนักเกือบสองร้อยกิโล ปลิวออกไปหลายสิบเมตร จากนั้นก็ไปหล่นอยู่ตรงกลางสนามหญ้าอย่างรุนแรง ทำให้สนามหญ้ามีหลุมออกมา

จากนั้น หนิวก็สลบไป ไม่ลุกขึ้นมาอีก

คนทั้งสนามอึ้งจนตัวแข็งทื่อ!

ครั้งที่แล้ว เพราะทุกคนตกใจการคำพูดโอ้อวดของหลินหยุน

ส่วนครั้งนี้ ตกใจกับฝีมือที่หลินหยุนแสดงออกมา!

“นี่มันเป็นไปได้ยังไง!”

“เมื่อกี้ข้าตาฝาดไปหรือเปล่า?” นักบู๊คนหนึ่งขยี้ตาตัวเอง กำลังหาเหตุผลอธิบายให้กับตัวเอง

“เจ้าไม่ได้ตาฝาด ข้าเองก็เห็น เจ้าเด็กนั้นแค่หมัดเดียวก็ซัดหนิวที่เป็นถึงแดนพรสวรรค์สูงสุดปลิวไปหลายสิบเมตร จนสลบตายคาที่!” นักบู๊คนหนึ่งพูดด้วยเสียงหนักอึ้ง

ใบหน้าของฉีซือหย่วนเต็มไปด้วยความตะลึง ร้องตะโกนออกมาทันที “นี่มันเป็นไปได้ยังไง? เจ้าเด็กนั้นใช้วิชามารอะไรกันแน่!”

“เขาจะเอาชนะหนิวได้ยังไง!”

หน้าของลู่หนันสุนก็เต็มไปด้วยความตะลึง อ้าปากค้าง จ้องมองหลินหยุนที่อยู่บนสนามด้วยตาไม่กะพริบ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์