โล่เสว่ฉีจ้องมองสนามที่เหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่ล้อมรอบร่างที่ผอมแห้งเอาไว้ ใบหน้าที่เฉยชา เผยความกังวลออกมา
“สกปรก คนพวกนี้กล้าเรียกตัวเองว่านักบู๊อยู่อีกงั้นเหรอ?”
“เพื่อต่อกรกับคนนอกแค่คนเดียว คนทั้งโลกบู๊เจียงหนานกลับลงมือทั้งหมด!”
ถึงแม้จะโมโห แต่สิ่งที่มีมากกว่าก็คือความเป็นห่วง
“เขา เขาจะสู้ได้ไหม?”
ถึงแม้โล่เสว่ฉีจะเคยเห็นฝีมือของหลินหยุน แต่ นั่นเป็นแค่ตอนที่เผชิญหน้ากับผู้อาวุโสของสำนักอู๋จี๋ แต่ตอนนี้คนที่เขากำลังเผชิญอยู่เป็นเหล่าเจ้าบ้านทุกตระกูลของโลกบู๊เจียงหนาน
คนพวกนี้ ล้วนแต่เป็นหนึ่งในยอดฝีมือของโลกบู๊เจียงหนาน
หลินหยุนแทบจะไม่มีหวังที่จะชนะในการต่อสู้ครั้งนี้
“ไม่ได้ ข้าจะปล่อยให้เขาตายแบบนี้ไม่ได้!”
ใบหน้าที่งดงามของโล่เสว่ฉี เผยความแน่วแน่ออกมา
เป็นครั้งแรก ที่โล่เสว่ฉีหันไปมองโล่อู๋หมิงด้วยตัวเอง
นี่เป็นพ่อของเธอ แต่ ก็เป็นคนที่เธอเกลียดที่สุดเช่นกัน
ถ้าเกิดไม่จำเป็นจริงๆ โล่เสว่ฉีก็ไม่อยากพูดกับเขา
“เมื่อกี้ท่านต้องการจะดึงเขาเข้ามาในตระกูลถูกไหม?” จู่ๆโล่เสว่ฉีก็พูดขึ้นมา
แววตาของโล่อู๋หมิงเผยความตกใจออกมา ดูเหมือนจะแปลกใจที่ จู่ๆโล่เสว่ฉีก็เปิดปากพูดออกมา
“ใช่ เจ้าอยากให้ข้าช่วยเขางั้นเหรอ?” น้ำเสียงของโล่อู๋หมิง แฝงความดูถูกอยู่เล็กน้อย
“ช่วยเขา แล้วข้าจะยอมร่วมมือกับท่านทุกๆอย่าง! ฟังให้ชัดนะ คือร่วมมือ” โล่เสว่ฉีพูดด้วยใบหน้าเย็นชา
โล่อู๋หมิงจ้องโล่เสว่ฉี มองเธออยู่เป็นนาที อึ้งไปสักพักจากนั้นก็หัวเราะออกมา “เจ้าชอบเขางั้นเหรอ”
“นึกไม่ถึงจริงๆ เจ้ากลับมีคนที่ชอบอยู่ด้วย”
“แต่ว่า เขายังไม่มีค่าถึงขั้นที่ข้าต้องไปมีเรื่องผิดใจกับเหล่าเจ้าบ้านทั่วทั้งโลกบู๊เจียงหนาน ต่อให้เป็นตระกูลโล่ ก็ทำไม่ได้!”
โล่อู๋หมิงปฏิเสธโดยไร้เยื่อใย
“ถ้าเกิดเขาสามารถรอดพ้นศึกครั้งนี้ไปได้ ข้าสามารถคิดเรื่องที่จะดึงเขาเข้ามายังตระกูลโล่ได้” โล่อู๋หมิงจ้องมองร่างของหลินหยุนที่อยู่ในสนาม แล้วยิ้มด้วยเสียงดูถูก “แต่ว่า นั่นคงจะเป็นเรื่องที่เป็นไปไม่ได้”
โล่เสว่ฉีหลับตาลง ขนตายาวสั่นไม่หยุด แต่ กลับทำอะไรไม่ได้
“หลินหยุน ข้าพยายามเต็มที่แล้ว ถ้าเกิดเจ้าตาย งั้นข้าก็ไม่อยากมีชีวิตต่อแล้ว พวกเราค่อยไปเจอกัน ตรงปรโลก”
สาวน้อยเย่จื่อเชี่ยน ลุกขึ้นมา หันไปตะโกนด่าพวกที่อยู่ในสนามว่า “สกปรก ไร้ยางอาย พวกแกคนจากโลกบู๊เจียงหนาน เป็นพวกขี้แพ้ของโลกบู๊!”
“รวบรวมคนจากทั่วโลกบู๊เจียงหนาน เพื่อไปต่อกรกับชายหนุ่มแค่คนเดียว คนจากโลกบู๊เจียงหนานอย่างพวกแก ไม่คิดที่จะเหลือหน้าเอาไว้บ้างหรือไง!”
“พวกแกยังกล้าเรียกตัวเองว่านักบู๊อยู่อีกเหรอ เกียรติยศของนักบู๊โดนพวกแกทำลายไปจนหมดแล้ว”
เย่จื่อเชี่ยนโมโหจนขึ้นสมอง ถึงแม้เธอจะเป็นลูกหลานที่ถูกตระกูลทอดทิ้ง แต่ความยุติธรรมและเกียรติยศยังคงมีอยู่
ไม่เหมือนเหล่าเจ้าบ้านตระกูลใหญ่พวกนั้น ที่ในแววตามีเพียงแค่ผลประโยชน์
คำพูดของเย่จื่อเชี่ยน ทำให้เหล่านักบู๊มากมายต้องหน้าแดง หน้าร้อนผ่าว ก้มหน้าด้วยความรู้สึกผิด
แต่ว่า ฉีเฉิงคุนและเหล่าเจ้าบ้าน ยังไงซะเมื่อคนอายุมากก็จะกลายเป็นคนเจ้าเล่ห์ เพื่อที่จะไปให้ถึงเป้าหมาย พวกเขาไม่เลือกวิธีการ ไม่ว่าจะขาวสะอาดหรือสกปรก ขอแค่บรรลุเป้าหมายได้ก็พอ
“อย่าไปสนใจนาง รอให้ฆ่าเจ้าหนูนี้ก่อน ค่อยไปจัดการนางทีหลัง!” ฉีเฉิงคุนตะโกนเสียงต่ำ
“เพื่อป้องกันไม่ให้ศึกยืดเยื้อ รีบจัดการให้เสร็จๆเถอะ!”
พอได้รับคำสั่งด้วยเสียงที่เย็นชาฉีเฉิงคุน เหล่าเจ้าบ้านก็เหมือนกับเหล่านักบู๊ทั้งสิบแปดคนเมื่อกี้ เริ่มด้วยการโจมตีที่รุนแรงที่สุด
ปล่อยท่าไม้ตายที่ซ่อนเอาไว้ของตัวเองออกมา
การโจมตีครั้งนี้ เมื่อเทียบกับการโจมตีที่นักบู๊ทั้งสิบแปดคนปล่อยออกมา มันรุนแรงมากกว่าสิบเท่า
ทั้งสนามกีฬา เต็มไปด้วยชี่ทิพย์ที่รุนแรง ส่งเสียงเพล้งดังไปทั่วอากาศ นั่นเป็นเสียงที่เกิดจากชี่แท้ที่รุนแรงจนทะลุผ่านอากาศ
การโจมตีนี้ แทบจะรวมท่าไม้ตายของยอดฝีมือทั่วทั้งโลกบู๊เจียงหนานเอาไว้
หลินหยุนยืนอยู่ที่เดิม ราวกับเป็นเรือที่จู่ๆก็เจอกับคลื่นทะเลรุนแรง ทำให้เรือพลิกคว่ำได้ตลอดเวลา
เมื่อต้องเผชิญกับการโจมตีที่รุนแรงที่สุดของยอดฝีมือที่รวบรวมมาจากโลกบู๊เจียงหนาน หลินหยุนก็ไม่กล้าประมาท
ก้าวเท้าออกไปหนึ่งก้าว มือทั้งสองข้างวาดรูปวงกลมกลางอากาศ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...