จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 574

สรุปบท บทที่ 574 ข้าไม่เชื่อว่าเขาคือปรมาจารย์หลิน: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 574 ข้าไม่เชื่อว่าเขาคือปรมาจารย์หลิน จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 574 ข้าไม่เชื่อว่าเขาคือปรมาจารย์หลิน คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

คาร์นอตวิลเลียมสลัดทิ้งท่วงท่าอันสง่างามของเขา ใบหน้าที่หล่อเหลาเปลี่ยนเป็นดุร้ายขึ้น

พระจันทร์เสี้ยวที่อยู่เบื้องหน้าของเขานั้นยังคงเคลื่อนตัวและหมุนวนไปมาอย่างไม่หยุด

“สังหาร! ”

คาร์นอตวิลเลียมตะโกนขึ้นเสียงดัง ทันใดนั้นพระจันทร์เสี้ยวก็ขยายใหญ่ขึ้นตามสายลม จนกลายเป็นพระจันทร์เสี้ยวสีเลือดขนาดใหญ่มหึมา แล้วพุ่งตรงเข้าไปฟาดฟันโล่อู๋จี๋ในทันที

โครม!

พลังอันมหาศาลราวกับลมพายุ พัดโหมไปทั่วทั้งตำหนักสี่วีรบุรุษ พวกเศรษฐีทั่วไปที่เข้ามาร่วมชมการประลองยุทธเหล่านั้น แต่ละคนต่างก็หวาดกลัวจนถึงกับต้องปิดตาลง เสื้อผ้าที่สวมใส่พัดปลิว ใบหน้าถูกลมแรงพัดเข้าใส่จนเกิดความเจ็บปวด

คาร์นอตวิลเลียมเหมือนกับว่าวที่เชือกด้ายขาด ถูกพัดจนกระอักเลือดและกระเด็นลอยไปไกล

โล่อู๋จี๋ก็ถูกพลังแรงกระแทกที่รุนแรง ถึงกับทำให้ต้องถอยหลัง

แต่ว่า เมื่อโล่อู๋จี๋ลงมาถึงที่พื้น ก็รีบขว้างไม้เท้าไปยังทิศทางที่คาร์นอตวิลเลียมตกลงสู่พื้นอีกครั้ง

“จบกัน! ” คาร์นอตวิลเลียมที่อยู่กลางอากาศ ซึ่งการถูกโจมตีเมื่อครู่นั้นก็ได้รับบาดเจ็บสาหัส ตอนนี้หมดเรี่ยวแรงที่จะต้านทาน ทำได้เพียงปิดตาลงเพื่อรอความตาย

“หา! ” อีหลิงทนดูต่อไปไม่ได้ หวาดกลัวจนต้องใช้มือปิดที่ดวงตาทั้งสองข้าง

เห็นว่าไม้เท้าของโล่อู๋จี๋ใกล้ที่จะทุบไปที่ศีรษะของคาร์นอตวิลเลียม คาร์นอตวิลเลียมเองกลับรู้สึกเบาใจลงบ้าง

เผ่าโลหิตมีพลังชีวิตที่แข็งแกร่ง จุดสำคัญของพวกเขาอยู่ที่หัวใจ ต่อให้ศีรษะถูกทำลายลง ก็ยังสามารถรักษาชีวิตเอาไว้ได้

แต่ว่า ถ้าหากไม้เท้านั้นทุบตีลงบนศีรษะของคาร์นอตวิลเลียม ถึงแม้ว่าจะไม่เสียชีวิต แต่ก็จะทำให้คาร์นอตวิลเลียมหลับใหลเป็นเวลากว่าร้อยปีจึงจะได้สติตื่นขึ้นมา

เวลานี้ เงาร่างหนึ่งรวดเร็วดั่งสายฟ้า ก่อนที่ไม้เท้าของโล่อู๋จี๋จะตกลงบนศีรษะของคาร์นอตวิลเลียม ก็ได้คว้าจับไม้เท้าที่โหดเหี้ยมนั้นเอาไว้

โล่อู๋จี๋ยืนอยู่กลางอากาศ มองไปยังผู้ที่มา ยิ้มอย่างเย็นชาเล็กน้อย: “ในที่สุดนายก็มาจนได้ ปรมาจารย์หลิน! ”

ขณะที่พูด ก็เก็บไม้เท้าคืนกลับไป

หลินหยุนก็ไม่ได้ขัดขวาง ปล่อยให้เขาเก็บคืนไป

หลินหยุนมองไปที่โล่อู๋จี๋อย่างไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก เขาสามารถรับรู้ได้ถึงชี่แท้อันแข็งแกร่งภายในร่างกายของโล่อู๋จี๋ได้ ซึ่งแข็งแกร่งดุดันยิ่งกว่าคู่ต่อสู้ทุกคนที่ได้เคยพบเจอมา

“เทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋” หลินหยุนพูดขึ้น

“ใช่ข้าเอง” โล่อู๋จี๋สีหน้าเย็นชา: “นายฆ่าลูกชายของข้า บังคับให้ข้าต้องออกจากการบำเพ็ญฝึกฝนก่อนเวลาที่กำหนด พวกเรามาคิดชำระบัญชีแค้นนี้กันเถอะ! ”

“นั่นเป็นเพราะเขาสมควรตาย” หลินหยุนกล่าว

โล่อู๋จี๋สีหน้าเปลี่ยนไป: “อย่างนั้นนายยิ่งสมควรตายมากกว่า! ”

หลินหยุนไม่พูดไม่จา แล้วได้เหาะขึ้นไปยังเวทีประลอง และยืนอยู่ด้านบนเวทีประลอง

โล่อู๋จี๋ก็เหาะตามขึ้นไปเช่นกัน โดยยืนอยู่ตรงข้ามของหลินหยุน

ขณะนี้ ทุกคนสามารถมองเห็นหน้าตาของหลินหยุนได้อย่างชัดเจน

“ทำไมถึงเป็นเขาไปได้! ” หูเฟยเป็นคนแรกที่อุทานขึ้น ใบหน้าเต็มไปด้วยความเหลือเชื่อ

หูเหวยซินขมวดคิ้วและถามขึ้นว่า: “นายรู้จักเขาเหรอ? ”

“แฟนใหม่ของลูกสาวคนโตของตระกูลอี เป็นลูกเขยที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิงที่เกาะผู้หญิงกิน” ขณะพูดถึงหลินหยุน ใบหน้าของหูเฟยก็เต็มไปด้วยความเหยียดหยาม

เมื่อคิดถึงตอนที่อีหลิงปฏิเสธตัวเขา แต่กลับไปเลือกลูกเขยที่แต่งงานเข้าบ้านฝ่ายหญิง จิตใจของเขาไม่ดีเอาอย่างมาก ทนไม่ไหวอยากที่จะอยู่ต่อหน้าอีหลิง แล้วดูถูกเหยียดหยามหลินหยุนอย่างรุนแรง เหยียบย่ำหลินหยุนให้จมปลักในดินโคลน และบ้วนน้ำลายใส่อีกด้วย

เพื่อให้อีหลิงเห็นอย่างชัดเจนว่า ผู้ชายที่เธอเลือกนั้นไม่ได้เรื่องได้ราวขนาดไหน เพื่อทำให้อีหลิงที่ปฏิเสธเขา รู้สึกเสียใจภายหลังอย่างมาก

“แต่ว่า ทำไมอยู่ดี ๆ ไอ้หนุ่มน้อยคนนี้ก็ขึ้นมาบนเวทีประลองได้ล่ะ? อีกทั้ง เมื่อครู่เขายังขัดขวางบรรพบุรุษตระกูลโล่เอาไว้ด้วย! ” หูเฟยมีสีหน้าท่าทางตกตะลึง

หูเหวยซินพูดเตือนขึ้นว่า: “เมื่อครู่บรรพบุรุษตระกูลโล่เรียกไอ้หนุ่มนั่นว่าปรมาจารย์หลิน! ”

“ปรมาจารย์หลิน? ” หูเฟยขมวดคิ้วเล็กน้อย

ทันใดนั้น เขาก็ตะลึงขึ้นโดยพลัน: “ปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน! ”

“เป็นไปได้อย่างไรกัน! ” หูเฟยมองไปที่เงาร่างอันเลือนลางของหลินหยุนที่อยู่บนเวทีประลองอีกครั้ง สีหน้าท่าทางหวาดผวา

อ้าวซี่ไห่ก็มีสีหน้าที่เหลือเชื่อ: “ปรมาจารย์หลิน ไอ้หนุ่มน้อยนี้ก็คือปรมาจารย์หลิน! ”

เสิ่นมี่ทราบดีว่าหลินหยุนมีความเป็นไปได้อย่างมากอย่างมากว่าคือปรมาจารย์หลิน แต่ว่า ภายในจิตใจกลับทำให้เธอรู้สึกต่อต้านกับเรื่องจริงดังกล่าวนี้ไปตามสัญชาตญาณ

ก่อนหน้านี้ที่เธอกล่าวเยาะเย้ยหลินหยุนนั้น พูดว่าหลินหยุนไม่เข้าใจอะไรเลยเกี่ยวกับการพนัน ชกมวย พูดว่าหลินหยุนไม่มองการณ์ไกล ไม่รู้จักไม่เข้าใจในวิชาบู๊

ถ้าหากหลินหยุนคือปรมาจารย์หลินตามคำร่ำลือจริง ๆ อย่างนั้นก่อนหน้านี้ที่เสิ่นมี่กระทำทุกอย่าง ไม่กลายเป็นเรื่องตลกน่าขันอย่างที่สุดอย่างนั้นเหรอ?

เวลานี้เสิ่นมี่รู้สึกอับอายขายหน้าเป็นอย่างมาก

“มี่เอ๋อ แม้แต่คุณเหยียนก็พูดแล้วว่า เขาก็คือปรมาจารย์หลิน ทำไมหนูยังจะไม่ยอมเชื่ออีกล่ะ? ” เสิ่นเหยียนถามขึ้นอย่างไม่เข้าใจ

เสิ่นมี่บังคับให้ตัวเองสงบจิตสงบใจลง

ผ่านไปสักพัก ถึงได้ควบคุมอารมณ์ที่วุ่นวายแปรปรวนในจิตใจลงได้ และพูดขึ้นอย่างเฉยชาว่า: “ไม่เป็นอะไร ก็แค่รู้สึกว่ารูปลักษณ์ของปรมาจารย์หลินตัวจริงกับที่ตัวเองจินตนาการไว้นั้นมันแตกต่างกันอย่างมาก ยากที่จะยอมรับมันได้ในทันที ผ่านไปชั่วครู่ก็คงจะดีขึ้นแล้ว”

เห็นว่าลูกสาวไม่เป็นอะไรแล้ว สายตาของเสิ่นเหยียนก็หันกลับไปยังเวทีประลองอีกครั้ง

ส่วนปรมาจารย์ป๋ายเห้อที่อยู่ด้านข้างของอีหยุ่น ตอนแรกถึงกับตกใจ จากนั้นก็หัวเราะฮ่าฮ่าเสียงดัง: “คุณอี ไอ้หนุ่มน้อยผู้นี้กล้าที่จะปลอมแปลงว่าเป็นปรมาจารย์หลิน เขารนหาที่ตายชัด ๆ! ”

อีหยุ่นขมวดคิ้ว มองไปยังปรมาจารย์ป๋ายเห้ออย่างจำยอม และก็ไม่อธิบาย ต่อให้อธิบายแล้วปรมาจารย์ป๋ายเห้อเองก็คงไม่เชื่อ

อาฉินกับอีหลิง ก็มองไปที่ปรมาจารย์ป๋ายเห้ออย่างน่าเศร้าใจ แต่ก็ไม่ได้พูดจาอะไร

ปรมาจารย์ป๋ายเห้อเหมือนกับรู้สึกว่าท่าทางของทุกคนแปลก ๆ ไป โดยได้กวาดสายตามองไปยังคนเหล่านั้น และพูดกับอีหยุ่นว่า: “ทำไมเหรอ? หรือว่าพวกท่านจะเชื่อว่าจริง ๆ ว่าเขาก็คือปรมาจารย์หลิน! ”

อีหลิงพูดขึ้นอย่างจริงจัง: “เขาก็คือปรมาจารย์หลิน”

ปรมาจารย์ป๋ายเห้อยิ้มเยาะอย่างเย็นชา: “คุณหนูอี ถ้าหากเขาคือปรมาจารย์หลิน อย่างนั้นทั่วทั้งโลกก็คงเป็นปรมาจารย์กันไปหมดแล้ว! ”

“ปรมาจารย์หลินตามที่ร่ำลือกัน นั่นเป็นถึงยอดฝีมือผู้เก่งกาจไม่เป็นสองรองใคร เขาเหมือนกับปรมาจารย์หลินตรงไหนกันล่ะ! ”

อีหลิงไม่พูดอะไรอีกแล้ว และได้มองไปยังคาร์นอตวิลเลียมที่ถือโอกาสกลับมายังที่นั่ง: “คุณเป็นอะไรไหม? หากรู้สึกว่าไม่ค่อยดีก็ไปโรงพยาบาลตรวจสอบดูสักหน่อย! ”

คาร์นอตวิลเลียมยักคิ้วให้กับอีหลิงเล็กน้อย: “เจ้าหญิงที่งดงาม คุณกำลังเป็นห่วงฉันอยู่ใช่ไหม? ในที่สุดคุณก็ซาบซึ้งต่อความจริงใจของฉันแล้วใช่หรือไม่ เตรียมที่จะยอมรับในตัวฉันแล้วใช่ไหม? ”

อีหลิงเหลือบตาขาวใส่อย่างจำใจ และไม่สนใจคาร์นอตวิลเลียมอีก: “ดูท่าทางแล้ว คุณคงจะไม่ตายหรอก”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์