ได้ยินอีหยุ่นนำหลินหยุนมาเปรียบเทียบกับผู้อาวุโสโล่ ปรมาจารย์ป๋ายเห้อก็หัวเราะอย่างเย็นชา: “คุณอี ข้าคิดว่าคุณคงจะถูกปีศาจครอบงำแล้วล่ะ! แม้แต่คุณฉีเองก็ยังไม่ใช่คู่ต่อกรของชายชรา ผู้นี้ หากไอ้หนุ่มน้อยนั่นขึ้นมาประลองต่อสู้ ก็คงจะถูกตบจนตายคาที่! ”
อีหยุ่นทราบว่าปรมาจารย์ป๋ายเห้อมีอคติกับหลินหยุน จึงขมวดคิ้วเล็กน้อย โดยที่ไม่ได้ตอบอะไรกลับไป
แต่ว่า แม้แต่อาฉินเองก็ยังไม่กล้ายืนยันว่าปรมาจารย์หลินจะสามารถเอาชนะได้ ดูเหมือนว่าพลังความสามารถของผู้อาวุโสคนนี้ คงจะอยู่ในระดับขั้นที่สูงมากจริง ๆ
เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างหนัน มีสีหน้าท่าทางที่เคร่งขรึม โดยมองไปที่ปรมาจารย์ เหยียนที่อยู่ด้านข้าง และถามขึ้นว่า: “ถ้าหากนายขึ้นเวทีประลอง จะมีความมั่นใจมากแค่ไหน? ”
ปรมาจารย์เหยียนส่ายศีรษะ: “ไอ้คนแซ่ฉีสามารถรับมือได้หนึ่งกระบวนท่า ส่วนข้าอย่างมากคงจะรับมือได้สามกระบวนท่า”
เสิ่นเหยียนตกตะลึง: “นึกไม่ถึงว่าชายชราคนนี้จะแข็งแกร่งมากขนาดนี้! ”
ปรมาจารย์เหยียนมองไปที่ผู้อาวุโสโล่ หรี่ตาลงเล็กน้อย: “ข้ารู้สึกว่าเขาคล้ายกับคน ๆ หนึ่ง เทพแห่งทวนในตำนานโลกบู๊แห่งเจียงหนาน โล่อู๋จี๋! ”
“เทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋ นั่นเป็นถึงบุคคลระดับเดียวกันกับเทพกระบี่เยนหนานเทียน และเทพแห่งสงครามเจียงร่อโจ๋! ” สีหน้าท่าทางที่หยิ่งผยองของเสิ่นมี่ ในที่สุดก็เผยให้เห็นถึงความตกตะลึงออกมา
เสิ่นเหยียนไม่อยากที่จะเชื่อ: “มันคงเป็นไปไม่ได้! เทพแห่งทวนโล่อู๋จี๋ แม้แต่ในโลกบู๊ ก็เป็นถึงบุคคลในตำนาน ตระกูลหูจะสามารถเชิญเขามาได้อย่างไรกัน! ”
“นอกจากนี้ ในเมื่อโล่อู๋จี๋ได้รับการขนานนามว่าเทพแห่งทวน แล้วทวนยาวของเขาไปอยู่ที่ไหนกันล่ะ? ”
ปรมาจารย์เหยียนมองไปที่ไม้เท้ารูปร่างแปลกประหลาดที่อยู่ในมือของผู้อาวุโสโล่ และพูดอย่างจริงจังว่า: “ไม้เท้าด้ามนั้น บางทีอาจจะเป็นทวนยาวของเขาก็เป็นได้! ”
เสิ่นเหยียนมองดูเล็กน้อย: “จะว่าไป มันก็เหมือนกับทวนยาวจริง ๆ ด้วย! ”
จนถึงเวลานี้อ้าวฉางคง ยังคงอยู่ในสภาพที่ตกตะลึง ยังไม่ได้สติกลับคืนมา
เขาจินตนาการไม่ออกจริง ๆ โดยคิดไม่ถึงว่าคุณฉีจะถูกโจมตีจนพ่ายแพ้ภายใต้กระบวนท่าเดียว
อีกทั้ง ยังเป็นไอ้แก่ที่มีอายุแปดเก้าสิบปีแล้วด้วย!
การเชื้อเชิญให้คุณฉีมาเข้าร่วมได้นั้น เขาถึงกับต้องจ่ายเงินไปจำนวนมหาศาล!
“ซี่ไห่ นี่มันเป็นความจริงใช่ไหม? ” อ้าวฉางคงที่ยังคงงงงวยได้ถามลูกชายที่นั่งอยู่ด้านข้าง
ใบหน้าของอ้าวซี่ไห่ ก็เต็มไปด้วยความตกตะลึงเช่นเดียวกัน พยักหน้าแล้วพูดว่า: “พ่อ คุณฉีแพ้แล้ว! ”
อ้าวฉางคงนั่งเซ็งอยู่บนเก้าอี้ พร้อมกับสีหน้าท่าทางที่หงอยเหงาเศร้าซึม: “จบกันแล้ว! ”
ผู้อาวุโสโล่อยู่บนเวทีประลอง โดยยังคงสภาพที่แก่หงำเหงือก เหมือนกับคนแก่ที่ใกล้จะตาย
“ยังมีผู้ใดอีก? ” ผู้อาวุโสโล่สีหน้าเฉยชา โดยกวาดสายตามองที่เย็นชาไปยังทุกคน
ไม่มีใครกล้าที่จะพูดขึ้น
อีหยุ่น เสิ่นเหยียน อ้าวฉางคงผู้มีอิทธิพลอำนาจทั้งสามคน ทั้งหมดต่างก็มีสีหน้าท่าทางเคร่งเครียด เก็บเงียบไม่พูดไม่จา
หูเหวยซินหัวเราะอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง: “ปรมาจารย์โล่มีพลังวิชาที่เก่งกาจไม่เป็นสองรองใคร! ”
หลังจากนั้น หูเหวยซินก็มองไปที่อ้าวฉางคงและพูดว่า: “อ้าวฉางคง พวกเรายังมีบัญชีแค้นอีกอย่างที่ยังไม่ได้คิดชำระ! ”
“ส่งคนออกมาเลย! ”
อ้าวฉางคงสีหน้าหม่นหมอง แล้วมองไปยังนักบู๊วัยกลางคนที่อยู่ด้านข้าง นี่เขาก็ต้องจ่ายเงินจำนวนมหาศาลในการเชิญมาด้วยเช่นกัน
“คุณหลี่......”
อ้าวฉางคงยังไม่ทันจะพูดจบ นักบู๊วัยกลางคนผู้นั้นก็ได้พูดแย้งเขาขึ้นมาว่า: “คุณอ้าว เงินมัดจำที่คุณได้ชำระให้กับข้า ข้าจะคืนกลับทั้งหมด คนผู้นี้มีพลังความสามารถที่แกร่งกล้ามาก ข้าไม่ใช่คู่ต่อกรของเขา แม้ว่าจะขึ้นเวทีประลอง ก็เหมือนเป็นการสร้างความอับอายขายหน้าให้กับตนเอง”
อ้าวฉางคงมองไปยังนักบู๊อีกคนหนึ่ง ใบหน้าที่ประหม่าของนักบู๊คนนั้นขาวซีดไปหมดแล้ว
อ้าวฉางคงไม่ได้สอบถามแล้ว ถามไปก็เปล่าประโยชน์ ยอมพ่ายแพ้ไปเลยแล้วกัน
หูเหวยซินหัวเราะอย่างภาคภูมิใจยกใหญ่ จากนั้น ก็มองไปที่เสิ่นเหยียน: “น้องเสิ่น เมืองไห่ติ้งของนายข้าถูกใจกับมันแล้ว ส่งคนขึ้นมาประลองเถอะ! ”
เสิ่นเหยียนมองไปที่คุณเหยียน สายตาบ่งบอกเป็นนัยถึงการสอบถาม
คุณเหยียนพูดว่า: “ข้าไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเขา แต่ว่า ข้าเต็มใจที่จะต่อสู้อย่างเต็มที่เพื่อคุณสักตั้ง เพื่อตอบแทนบุญคุณที่เคยช่วยชีวิตเอาไว้! ”
เสิ่นมี่พูดอย่างหนักแน่นว่า: “ไม่ได้ ในเมื่อรู้ว่าจะต้องพ่ายแพ้ ทำไมจะต้องเอาชีวิตของคุณเหยียนเข้าแลกด้วย! ”
เสิ่นเหยียนพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “เสี่ยวมี่พูดได้ถูกต้อง แพ้ก็คือแพ้ ก็เพียงแค่สูญเสียผลประโยชน์ไปบ้างเล็กน้อย ถ้าหากจะต้องเอาชีวิตของคุณเหยียนเข้าแลก นั่นจะเป็นการสูญเสียที่ยิ่งใหญ่มากกว่า”
คุณเหยียนสีหน้าท่าทางเคร่งขรึม แล้วทำการคารวะแสดงความเคารพต่อเสิ่นเหยียน: “บุญคุณของคุณเสิ่น ข้าไม่สามารถตอบแทนได้ จากนี้ต่อไปชีวิตนี้ของข้า เป็นของคุณเสิ่น มีอะไรรับสั่ง ข้าจะบุกน้ำลุยไฟ อย่างไม่เกรงกลัวความตาย! ”
“คุณเหยียนเกรงใจกันเกินไปแล้ว รีบลุกขึ้นเถอะ! ” เสิ่นเหยียนรีบประคองคุณเหยียนให้ลุกยืนขึ้น
“หูเหวยซิน คราวนี้นับว่านายแน่มาก ข้ายอมแพ้! ” เสิ่นเหยียนอยู่ฝั่งตรงข้ามของเวที แล้วพูดตะโกนให้กับหูเหวยซิน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...