จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 578

เสิ่นเหยียนมองไปที่อีหยุ่นด้วยรอยยิ้มอันขมขื่น ทำมือแสดงความเคารพ: “คุณอีชอบสิ่งของอะไรของตระกูลเสิ่นของข้า ข้าเต็มใจที่จะส่งมอบให้! ”

อีหยุ่นส่ายศีรษะ: “ข้ากับพี่เสิ่นไม่มีการทะเลาะวิวาทอะไรกัน ดังนั้นพี่เสิ่นไม่ต้องตื่นตระหนกอะไรไป ข้าไม่ต้องการอะไรทั้งสิ้น”

“คุณอีมีคุณธรรมเมตตา! ” เสิ่นเหยียนแสดงท่าทางเลื่อมใส

ดูท่าทางเมื่อครู่ของหูเหวยซิน และมาดูท่าทางของอีหยุ่นในตอนนี้ ช่างแตกต่างกันอย่างมากทีเดียว

อีหยุ่นทำมือแสดงความเคารพต่อหลินหยุน: “เรื่องของทางฝ่ายข้าได้เสร็จสิ้นลงแล้ว คุณหลิน ท่านยังมีเรื่องอะไรที่จะรับสั่งอีกไหม? ”

หลินหยุนมองไปที่เขา และพูดขึ้นว่า: “ไม่มี”

อีหยุ่นก็ได้กวาดสายตามองไปยังผู้มีอิทธิพลอำนาจท่านอื่น: “ทุกท่านยังมีปัญหาอะไรอีกไหม? ”

“ไม่มี”

เสิ่นเหยียนและคนอื่น ๆ แทบจะพูดขึ้นโดยพร้อมเพรียงกัน

ล้อเล่นไปได้ ตระกูลอีมีปรมาจารย์หลินคอยเป็นที่พึ่งให้ ใครกล้าที่จะมีข้อโต้แย้งกันล่ะ

อีหยุ่นก็เกียจคร้านไม่อยากที่จะทำเป็นเสแสร้งต่อไป จึงได้มองไปยังพิธีกรที่ตกใจแทบบ้าผู้นั้น: “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ ถ้าอย่างนั้นงานสี่วีรบุรุษก็จบสิ้นลงเพียงเท่านี้แล้วกัน! ”

พิธีกรจึงได้สติตื่นตัวขึ้น แล้วรีบเดินขึ้นไปบนเวทีประลองที่สภาพทรุดโทรม พร้อมกับประกาศเสียงดังว่า: “งานสี่วีรบุรุษในครั้งนี้ ได้จบสิ้นและปิดงานลงอย่างสมบูรณ์! ”

“แยกย้ายกันได้แล้ว! ”

“......”

ปิดงานลงอย่างสมบูรณ์? เกรงว่าคงจะไม่มีงานสี่วีรบุรุษครั้งไหนที่อลหม่านวุ่นวายได้เหมือนกับครั้งนี้แล้ว

แต่ว่า งานสี่วีรบุรุษในครั้งนี้ ชัดเจนว่าเป็นครั้งที่น่าตื่นตาตื่นใจ และมีสีสันมากที่สุดครั้งหนึ่งเลย

โดยเฉพาะกับคนธรรมดาทั่วไปแล้ว พวกเขาได้เห็นในสิ่งที่ไม่เคยพบเห็นมาก่อนในตลอดชีวิต

แต่ว่า คนเหล่านี้ทราบดีว่าสิ่งใดควรพูด สิ่งใดไม่ควรพูด ประสบการณ์ที่ได้พบเห็นในวันนี้ พวกเขาจะไม่พูดบอกให้กับคนนอกได้รับทราบแน่นอน

ทว่า ประสบการณ์ในวันนี้ เพียงพอที่จะเปลี่ยนแปลงชีวิตที่เหลือของพวกเขาจากนี้ต่อไป

พวกเศรษฐีและผู้ที่มีชื่อเสียงเหล่านั้น ได้พบเห็นถึงพลังความสามารถที่แข็งแกร่งและทรงพลังที่แท้จริง หลังจากที่กลับไปแล้ว คงจะไม่ยอมทนต่อสภาพธรรมดาทั่วไปอีกแน่นอน พวกเขาจะพยายามทำทุกวิถีทาง เพื่อแสวงหาพลังความสามารถที่แข็งแกร่ง

ต่อให้รุ่นของตนเองนี้ไม่สำเร็จ พวกเขาก็จะคิดหาทุกวิธีทางเพื่อให้รุ่นต่อไปแสวงหาต่อ เพื่อเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของสายเลือดทั้งหมด

นี่ก็คือความแข็งแกร่งของอารยธรรมชาวจีน และก็คือมรดกสืบทอดที่สำคัญที่สุดของอารยธรรมจีน

หลินหยุนกับอีหลิงได้ขอแยกตัวจากไปก่อนแล้ว แน่นอนว่า คาร์นอตวิลเลียมก็อยากที่จะติดตามไปกับพวกเขาด้วย ทำให้อีหลิงไม่ค่อยที่จะพึงพอใจ

ส่วนในสถานที่จัดงานสี่วีรบุรุษ เสิ่นมี่สาวงามผู้เย็นชา มองไปยังเงาร่างที่เดินจากไปของหลินหยุน แต่กลับมีสีหน้าท่าทางที่หงอยเหงา

เมื่อผู้ที่มั่นใจในตัวเองเป็นอย่างมาก โดยความมั่นใจของเธอนั้นได้ถูกฝ่ายตรงข้ามที่เธอดูถูกมองข้ามมาโดยตลอด ทำลายลงอย่างพินาศย่อยยับ ซึ่งสิ่งนั้นได้ล้มล้างความรู้สึกในมุมมองทั้งสามของชีวิตไปทั้งหมด ก็เหมือนกับว่าได้ชักนำสภาพจิตใจและจิตวิญญาณทั้งหมดของคนคนหนึ่งไปโดยหมดสิ้น

ส่วนที่เหลือ ก็มีเพียงแค่เปลือกนอกของร่างกาย

ตอนนี้เสิ่นมี่ก็เหมือนกับว่าหลงเหลือเพียงแค่เปลือกนอกของร่างกาย สภาพจิตใจและจิตวิญญาณทั้งหมด ต่างก็ติดตามไปกับการจากไปของหลินหยุนและก็สูญสิ้นไปทั้งหมด

เสิ่นเหยียนมองไปยังลูกสาวอันเป็นที่รักของตน โดยมีความกังวลใจอยู่บ้าง: “เสี่ยวมี่ หนูเป็นอะไรไปเหรอ? ”

ผ่านไปสักพักเสิ่นมี่ ถึงได้สติกลับคืนมา แต่ว่า แววตายังคงแข็งทื่ออยู่บ้าง: “ฉันไม่เป็นอะไร”

“ดีแล้ว งั้นพวกเรากลับกันเถอะ! ”

“อืม! ” เสิ่นมี่พยักหน้าราวกับเครื่องจักรกล

หลินหยุนพักค้างคืนอยู่ที่บ้านตระกูลอีอีกหนึ่งวัน จากนั้น ก็อำลาอีหลิง เดินทางกลับไปหลินโจว

แม้ว่าหลินหยุนจะต่อสู้เอาชนะโล่อู๋จี๋ได้อย่างง่ายดาย แต่ว่า ความแข็งแกร่งของโล่อู๋จี๋นั้น ก็ไม่เป็นที่ต้องสงสัยอย่างแน่นอน

สำหรับโล่อู๋จี๋เป็นเพียงแค่นักบู๊คนหนึ่งในโลกบู๊แห่งเจียงหนาน แล้วอย่างนั้นโลกบู๊โบราณที่ยังไม่เคยปรากฏให้เห็นมาก่อนล่ะ?

ก่อนหน้านี้สำนักอู๋จี๋ที่ปรากฏขึ้นที่วังเทพจันทรา พลังความสามารถของพวกผู้อาวุโสทั้งหลายนั้น เมื่อเปรียบเทียบกับชี่แท้ของนักบู๊แล้ว ก็ถือว่าสูงขึ้นไปอีกหนึ่งระดับขั้น

สำหรับที่อยู่เหนือขั้นปรมาจารย์ขึ้นไป ยังมีขั้นแดนตามที่ตำนานร่ำลือ ซึ่งขั้นแดนนั้นตกลงมีความแข็งแกร่งทรงพลังแค่ไหนกันแน่?

แม้ว่าหลินหยุนไม่เกรงกลัว แต่ ก็ไม่สามารถที่จะมองสถานการณ์ในแง่ดีต่อไปได้

หลินหยุนจำเป็นที่จะต้องเร่งรีบบำเพ็ญฝึกฝนอย่างรวดเร็ว เพื่อช่วงชิงกลับคืนสู่ขั้นสูงสุดให้เร็วที่สุด

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์