เจี่ยงเฉิงมองดูหลินหยุนจากไปด้วยสีหน้าที่โหดเหี้ยม
จากนั้น เจี่ยงเฉิงก็ลุกขึ้นยืน เดิมทีใบหน้าที่หล่อเหลานั้น กลายเป็นหมองคล้ำจนดำมืดไปหมด
“ไอ้เด็กเวร ฉันจะทำให้แกมีชีวิตอยู่อย่างตายทั้งเป็นเลย!” ใบหน้าของเจี่ยงเฉิงบิดเบี้ยวไปหมด ภายในจิตใจเต็มไปด้วยความเคียดแค้นอย่างใหญ่หลวง
หลินโล่เฉินพูดว่า “คุณชายเจี่ยงครับ นั่นก็เป็นเพียงแค่ตัวตลกที่กระโดดโลดเต้นไปมาเท่านั้นเอง อาศัยความได้เปรียบชั่วขณะ ก็มักจะลำพองใจเป็นธรรมดา คุณก็อย่าเอามาใส่ใจเลยนะ”
เจี่ยงเฉิงสีหน้ามืดคล้ำ “ในโลกนี้ ยังไม่มีใครที่สามารถหยามเกียรติฉันแล้ว ยังสามารถมีชีวิตอยู่ในโลกใบนี้ได้เลย”
“ฉันจะทำให้เขาตายด้วยวิธีที่ถูกหยามเกียรติมากที่สุด ฉันจะทำให้ครอบครัวตระกูลเขาสลายกลายเป็นผงเถ้าถ่าน เพราะสาเหตุมาจากตัวเขาเอง”
เจี่ยงเฉิงมองไปยังหลินโล่เฉิน พูดด้วยเสียงเข้มว่า “ท่านพี่หลิน วันนี้ทำให้พวกคุณหัวเราะเยาะแล้ว คุณกลับไปก่อนเถอะ รอให้ฉันแก้แค้นให้เสร็จก่อน ค่อยไปหาพวกคุณทีหลัง”
หลินโล่เฉินขมวดคิ้ว “คุณชายเจี่ยงครับ ผมรู้สึกว่าการแก้แค้นของคุณกับเรื่องที่พวกเราจะร่วมมือกันนั้น มันไม่น่ามีผลกระทบอะไรกันเลยนะ”
เจี่ยงเฉิงพูดด้วยน้ำเสียงเย็นชาว่า “ก่อนที่ยังแก้แค้นไม่สำเร็จ คุณคิดว่าฉันยังมีกะจิตกะใจทำการค้าอีกเหรอ? พวกคุณกลับไปก่อนเถอะ ฉันก็ไม่ส่งแล้วนะ”
หลินโล่เฉินลุกขึ้นยืน “ในเมื่อเป็นเช่นนี้ งั้นพวกเราก็ขอลาก่อน”
“ไม่ไปส่งแล้ว” เจี่ยงเฉิงพูดอย่างเย็นชา
หลังจากที่คนตระกูลหลินทั้งสามออกจากตึกอาคารบริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดแล้ว หลินโร่สุ่ยก็บ่นอย่างไม่พอใจว่า “เจ้าเจี่ยงเฉิงคนนี้ ช่างใจแคบเสียเหลือเกิน ก็แค่ให้ พวกเราเห็นเขาคุกเข่าลงต่อหน้าคนอื่นเท่านั้นเอง ถึงกับไล่พวกเราออกมา แม้แต่ธุรกิจการค้าก็ไม่ทำแล้ว”
“ฮึ คนใจแคบ ฉันว่านะถ้าไม่ใช่เป็นเพราะว่าเขามีพ่อที่ดีแล้ว เบื้องหลังยังมีตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันสนับสนุนเขาอยู่ คนอย่างเขานี่ บริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดก็คงถูกเขาทำเจ๊งจนหมดสิ้นไปนานแล้ว”
หลินโร่หลันทำตาถลนใส่เธอ แล้วพูดอย่างเย็นชาว่า “แกนี่พูดมากจัง ถ้าแกยังไม่รู้จักควบคุมการพูดจาให้ดีแล้วละก็ ทีหลังจะไม่พาแกออกมาอีกเลย”
หลินโร่สุ่ยบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจว่า “ที่ฉันพูดก็เป็นความจริงทุกอย่าง”
“ถ้าไม่ใช่เพราะกฎเกณฑ์เก่าแก่ของตระกูลนั้นแล้ว หลังจากที่อายุครบสิบแปดปีแล้วจะต้องไปหัดทำธุรกิจการค้าละก็ พี่คิดว่าฉันอยากจะตามพี่มาเหรอ?”
“ไหนแกลองพูดอีกครั้งซิ!” ใบหน้าที่สะสวยของหลินโร่หลันเคร่งขรึมมาก สีหน้าที่เย็นชาและท่าทีที่ดูไม่เหมือนเป็นพี่สาวเลย แต่กลับดูเหมือนผู้ปกครองกำลังสั่งสอนเด็กอยู่
สำหรับพี่สาวคนนี้แล้ว หลินโร่สุ่ยก็ยังมีความเกรงกลัวอยู่บ้าง จึงไม่กล้าที่จะพูดต่อปากต่อคำอีก
หลินโล่เฉินพูดว่า “เอาเถอะ เรื่องนี้จะไปโทษน้องสุ่ยก็ไม่ได้ จะโทษก็ต้องโทษเจ้าเด็กที่เหิมเกริมคนนั้นมากกว่า”
หลินโร่หลันถามว่า “แล้วต่อจากนี้ไปจะทำอย่างไรดีล่ะ? ถ้าพวกเราต้องการจะขยายกิจการด้านอสังหาริมทรัพย์แล้ว บริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัดจึงเป็นพันธมิตรที่ดีที่สุดสำหรับพวกเราแล้ว”
หลินโล่เฉินครุ่นคิดอยู่สักพัก “ไม่เป็นไรหรอก ก็แค่รออีกสองวันเอง รอให้เจี่ยงเฉิงแก้แค้นลำเร็จแล้ว สภาพจิตใจย่อมดีขึ้นเป็นธรรมดา ถึงเวลานั้น พวกเราค่อยไปคุยกับเขา”
สายตาของหลินโล่เฉินแสดงออกถึงความดูถูก “ถ้าตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันเริ่มลงมือเมื่อไหร่ เจ้าเด็กนั่นคงรับมือไม่ไหวแม้แต่วันเดียว”
หลินโร่หลันยิ้มเล็กน้อย “ด้วยนิสัยของเจี่ยงเฉิงแล้ว ถ้าหากหลังจากที่เขาแก้แค้นสำเร็จแล้ว พวกเราเพียงแค่พูดยกยอเขาไม่กี่คำ เชื่อแน่ว่าเขาจะต้องให้เงื่อนไขที่ดีกับพวกเราอย่างแน่นอน”
หลินโล่เฉินแปะปาก “ใช่แล้ว พูดอย่างนี้ พวกเราก็น่าจะต้องขอบคุณเจ้าเด็กนั้นด้วยนะ”
หลินหยุนและหยางเทียนโย่วพาพ่อของหยางเทียนโย่วหยางปี้ต๋า รีบออกจากบริษัท เจียเฉิง พร็อพเพอร์ตี้ จำกัด แล้วเหมารถคันหนึ่งเดินทางกลับบ้านทันที
หลังจากที่มาถึงบ้านแล้ว หยางปี้ต๋าก็รีบพูดขึ้นว่า “เทียนโย่ว ลูกรีบไปเก็บข้าวของเลย พ่อติดต่อแม่แกแล้ว พวกเราจะรีบย้ายออกจากไปที่นี่!”
สีหน้าหยางเทียนโย่วไม่เข้าใจ “ทำไมเหรอ?”
หยางปี้ต๋าพูดด้วยสีหน้าเคร่งขรึมว่า “ถึงแม้เจี่ยงเฉิงจะปล่อยพ่อออกมาชั่วคราวแล้วก็ตาม แต่ว่า เขาจะต้องรีบตามมาแก้แค้นพวกเราทันที ถ้าตอนนี้ไม่หนีไป รอให้เจี่ยงเฉิงพาคนบุกเข้ามาหาพวกเราแล้ว ถึงตอนนั้นคิดจะหนีก็หนีไม่ทันแล้ว”
หยางเทียนโย่วมองไปยังหลินหยุน ดูเหมือนว่ากำลังขอฟังความคิดเห็นจากหลินหยุนอยู่
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “พวกคุณก็วางใจพักอยู่ที่นี่ไปก่อน ทางด้านตระกูลเจี่ยงทางนั้น ฉันจะช่วยแก้ปัญหาให้พวกคุณเอง”
หยางปี้ต๋ามองไปยังหลินหยุน “คุณน่าจะเป็นเพื่อนนักเรียนของหยางเทียนโย่วสินะ! ขอบคุณมากที่มาช่วยฉัน แต่ว่าเบื้องหลังที่สนับสนุนเจี่ยงเฉิงนั้นเป็นถึงตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันเลยนะ คุณสู้เขาไม่ได้หรอก!”
สีหน้าหลินหยุนไร้ความรู้สึก “สู้ได้หรือไม่ได้ ลองดูก่อนจึงจะรู้ ให้เวลาผมสามวันหลังจากสามวันแล้ว ถ้าหากเจี่ยงเฉิงยังไม่มาขอขมาถึงบ้านแล้วละก็ พวกคุณค่อยย้ายออกไปก็แล้วกัน”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...