จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 642

ฉินหลันพาหลินหยุนมาถึงห้องทำงานของหวางซูเฟิน

หวางซูเฟินกำลังนั่งดูเอกสารอยู่ เมื่อเห็นว่าเป็นหลินหยุน ก็พูดโดยไม่ได้เงยหน้าขึ้นมอง “นั่งสิ!”

ฉินหลันพูดว่า “ผู้อำนวยการคะ งั้นฉันออกไปก่อนนะ”

“ไปเถอะ!” หวางซูเฟินเงยหน้าขึ้นพูด

หลินหยุนก็ไม่เกรงใจ นั่งลงบนเก้าอี้ที่อยู่ด้านข้าง

เขารู้นิสัยของหวางซูเฟินดี ถ้าเธอแสดงท่าทีเกรงใจเป็นพิเศษแล้วละก็ งั้นก็แสดงว่าเธอเห็นคนคนนั้นเป็นคนอื่นคนไกล

แต่ถ้าเธอพูดกับใครตรงไปตรงมา ไม่เกรงใจเลย กลับแสดงให้เห็นชัดว่า เธอถือว่าคนนั้นเป็นคนกันเอง

โดยทั่วไปแล้วทุกคนมักจะเคยชินที่จะทำเช่นนี้ เมื่อเวลาอยู่ต่อหน้าคนกันเองแล้ว นิสัยก็มักจะปล่อยวาง ไม่ค่อยระวังตัว ไม่ไปสนใจเรื่องเล็กๆน้อยๆพวกนั้นเลย

แต่ตรงข้ามหากเมื่อเวลาอยู่ต่อหน้าคนอื่นแล้ว กลับกลายเป็นเด็กหนุ่มสาวที่มีมารยาทดีงามครบทุกกระเบียดนิ้วขึ้นมาทันที

“มีธุระอะไรมาหาฉันล่ะ?” หวางซูเฟินวางเอกสารในมือลง ถามพลางมองไปยังหลินหยุน

หลินหยุนพูดว่า “นานแล้วที่ไม่ได้มาเยี่ยมท่านผู้อำนวยการแล้ว มาจงโจวคราวนี้ จึงมาเยี่ยมท่านโดยเฉพาะ”

สายตาของหวางซูเฟิน แสดงออกถึงความสงสัย

เธอมักจะมีความรู้สึกที่แปลกประหลาดต่อหลินหยุนเป็นอย่างมาก ในใจของเธอรู้ดีว่า หลินหยุนเป็นบุคคลที่อันตรายมาก

เพราะว่า หลินหยุนไม่ใช่คนธรรมดาทั่วไป

หวางซูเฟินคิดอยากจะรักษาระยะห่างกับหลินหยุนเอาไว้ แต่ว่า ทุกครั้งที่ได้เห็นหน้าหลินหยุนแล้ว กลับลืมสิ่งที่ตัวเองตั้งใจไว้ก่อนหน้านั้นจนหมดสิ้น

อีกทั้งเธอมักจะอดไม่ได้ ที่เกิดความรู้สึกผูกพันบางอย่างที่มีต่อหลินหยุนขึ้นมาเสมอ

หวางซูเฟินไม่รู้ว่านี่เป็นเพราะสาเหตุอะไร

แต่ว่าหลินหยุนกลับรู้ดีว่า นั่นเป็นเพราะว่าแม่ลูกจิตผูกพัน เป็นเพราะสายใยความผูกพันระหว่างสายเลือดนั่นเอง

“คุณกับฉันไม่ได้เกี่ยวข้องเป็นญาติสนิทมิตรสหายอะไรกันเลย มาเยี่ยมฉันจากแดนไกลโดยเฉพาะอย่างนี้ ช่างมีน้ำใจดีงามเหลือเกิน” หวางซูเฟินพูดด้วยความเกรงใจ

หลินหยุนไม่อยากจะพูดเรื่องไร้สาระกับหวางซูเฟิน จึงถามอย่างตรงไปตรงมาว่า “ใช่แล้ว ผู้อำนวยการหวางครับ ช่วงนี้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปเจอปัญหาอะไรหรือเปล่าครับ? ทำไมผมจึงรู้สึกว่าในบริษัทมีอะไรบางอย่างแปลกๆไป”

หวางซูเฟินพูดด้วยรอยยิ้มว่า “อย่าพูดเหลวไหล บริษัทอยู่ดีๆ จะมีปัญหาอะไรได้ล่ะ”

“เอาล่ะ ถ้าไม่มีธุระเรื่องอื่นแล้ว คุณก็กลับไปเถอะ! ฉันยังมีงานยุ่งมากอยู่เลย”

หลินหยุนพยักหน้า สายตาทั้งคู่ก็จ้องมองไปยังหวางซูเฟินอย่างไม่กะพริบตา ดูเหมือนคิดอยากจะค้นหาเบาะแสอะไรบางอย่างจากดวงตาของเธอ

“ได้ ถ้าไม่มีเรื่องอะไร งั้นก็ดีที่สุดแล้ว แต่ว่า ถ้าหากเกิดเรื่องอะไรขึ้นมาละก็ อย่าลืมโทรศัพท์มาหาผมด้วยนะ”

“ตกลง ฉันจะจำเอาไว้” น้ำเสียงของหวางซูเฟินรู้สึกดูเหมือนพูดขอไปที

“งั้นผมขอตัวกลับก่อนครับ!” หลินหยุนลุกขึ้นแล้วเดินจากไป

เมื่อเดินออกจากบริษัทแล้ว ในใจของหลินหยุนก็ยังแอบคิดหาสาเหตุอยู่

ตระกูลส้งก็ถูกเขาทำลายไปแล้ว บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปตอนนี้เป็นลูกพี่ใหญ่ในแวดวงธุรกิจการค้าของจงโจวทั้งหมด ตามหลักแล้วก็ไม่น่าจะมีเรื่องอะไรที่จะทำให้บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปจะต้องประสบปัญหาลำบากอะไรเลย

นอกเสียจากว่า ตระกูลหวางจะลงมือเองอย่างทุ่มสุดตัวเต็มที่

ด้วยพลังอำนาจของสี่ตระกูลยิ่งใหญ่แล้ว บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปย่อมไม่สามารถที่จะต้านทานไว้ได้เป็นธรรมดา

แต่ว่า ถ้าหากตระกูลหวางจะลงมืออย่างเต็มที่จริงๆละก็ สิ่งแรกที่พวกเขาอยากจะจัดการไม่ควรจะเป็นบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป แต่กลับจะต้องเป็นตัวหลินหยุนเองถึงจะถูก

“เอาเถอะ ในเมื่อแม่แก่ไม่ยอมพูด งั้นฉันก็ไม่จำเป็นที่ต้องไปบีบคั้นอีกแล้ว”

รอให้เกิดปัญหาขึ้นมาก่อน แล้วค่อยหาวิธีจัดการก็แล้วกัน

หลินหยุนก็ขี้เกียจไปเสียเวลาเดาส่งเดชอีกแล้ว

หลังจากหลินหยุนกลับไปแล้ว ฉินหลันก็กลับมาที่ห้องทำงานของหวางซูเฟิน

“ผู้อำนวยการคะ ทำไมถึงไม่อยากให้เขารู้ละคะ?” น้ำเสียงของฉินหลันรู้สึกจนใจเล็กน้อย

หวางซูเฟินพูดว่า “อย่าไปบอกเขาเลย เจ้าเด็กนี่ทำอะไรวู่วามเกินไป เรื่องของตระกูลส้งคราวที่แล้ว ทำฉันตกใจแทบตาย”

“ถ้าบอกเขาไป ยากที่จะรับประกันได้ว่าเขาจะไม่ก่อเรื่องวุ่นวายขึ้นมาอีก”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์