จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 680

“ฮ่าๆ ขำกลิ้งเลย! เจ้าเด็กนี่ขี่ม้าไม่เป็นเลยนี่!”

“จริงๆเลย ขี่มาไม่เป็นยังกล้ามาประลองแข่งกับหลิ่วจื่อเฉิงอีก หลิ่วจื่อเฉิงนั้นเคยได้รับรางวัลรองชนะเลิศจากการแข่งขันตามกติกามาแล้วนะ!”

สีหน้าหลินเห้าสะใจเมื่อเห็นคนอื่นเดือดร้อน หัวเราะเสียงดังแล้วพูดว่า “อีกประเดี๋ยวรอดูว่าเขาจะไสหัวออกไปยังไง! หลิ่วจื่อเฉิงคงไม่ปล่อยเขาไปอย่างง่ายดายหรอก!”

หลินโร่หลันไม่มีอะไรจะพูด สายตาที่รังเกียจยิ่งเห็นชัดมากขึ้น “ฉันจะไม่ยอมให้หลินโร่สุ่ยไปอยู่กับคนแบบนี้เป็นอันขาด!”

หลินโล่เฉินก็แอบส่ายหน้า คิดในใจว่า “ดูไปแล้ว อาสะใภ้หวางที่บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปนั้น สายตาก็ไม่แหลมคมเท่าไหร่เลย ถึงกับรับคนแบบนี้มาเป็นลูกบุญธรรมได้! คงคิดถึงลูกชายจนเสียสติไปแล้ว”

สีหน้าของหลินโร่สุ่ยรู้สึกเสียใจ “นี่ ถ้ารู้แต่แรกว่าพี่หลินหยุนขี่ม้าไม่เป็นละก็ ยังไงฉันก็จะต้องขัดขวางเขาให้ถึงที่สุดเลย!”

หลิ่วจื่อเฉิงหันไปมองหลินหยุนที่วิ่งตามมาอย่างช้าๆ ก็หัวเราะเสียงดังด้วยความเหยียดหยามทันที “ฮ่าๆ เจ้าเด็กนี่ ที่แท้ก็กระจอกอย่างนี้นี่เอง!”

“งั้นแกก็รอรับความพ่ายแพ้ไปเถอะ! ฉันไปก่อนล่ะ!”

หลิ่วจื่อเฉิงตะคอกเสียงดัง “ไป!”

ม้าสีเลือดที่อยู่ใต้หว่างขาก็ส่งเสียงร้อง แล้ววิ่งพุ่งไปข้างหน้าอย่างรวดเร็ว

หลินหยุนยังคงวิ่งตามมาข้างหลังอย่างไม่รีบร้อนเช่นเดิม จนกระทั่งอีกร้อยเมตรหลิ่วจื่อเฉิงก็กำลังจะถึงเส้นชัยแล้ว แต่ว่า ทันใดนั้น ม้าของหลิ่วจื่อเฉิงนั่งหมอบลงกับพื้นไม่ยอมขยับไปไหนเลย

“เกิดเรื่องอะไรขึ้นกันแน่? หลิ่วจื่อเฉิงกำลังเล่นอะไรอยู่? หรือว่าเพราะเห็นว่าตัวเองกำลังจะชนะ เลยจงใจหยุดรออยู่กับที่ไม่เดินหน้าต่อ เพื่อจะหยามน้ำหน้าหลินหยุนเหรอ?”

“หลิ่วจื่อเฉิงนี่ ยังไม่รีบวิ่งเข้าเส้นชัยอีก เล่นบ้าบออะไรกันอยู่!”

ทุกคนต่างก็นึกว่าหลิ่วจื่อเฉิงจงใจที่จะยืนอยู่กับ เพื่อรอหยามน้ำหน้าหลินหยุน

แต่ว่า หลินหยุนที่นั่งอยู่บนหลังม้านั้น กลับยิ้มมุมปาก แล้ววิ่งไปข้างหน้าอย่างช้าๆต่อไป

หลิ่วจื่อเฉิงจึงลงมาจากหลังม้า เดินวนดูรอบๆตัวม้า ในใจก็สงสัยว่า “ม้าตัวนี้เป็นอะไรไป น่าจะไม่สบาย ทำไมจู่ๆถึงไม่ยอมวิ่งต่อไปล่ะ!”

หลิ่วจื่อเฉิงไม่เพียงแต่ฝีมือการขี่ม้ายอดเยี่ยมแล้ว ก็ยังศึกษาเรื่องเกี่ยวกับม้าอีกด้วย

เขาเดินวนดูรอบๆเพื่อตรวจเช็คม้าตัวนี้ ก็พบว่าหมาตัวนี้ก็ยังปกติเหมือนเดิมทุกอย่าง

“พรรคพวก รีบลุกขึ้นมาเร็ว!”

หลิ่วจื่อเฉิงก็กระโดดขึ้นขี่บนหลังม้าจับบังเหียนม้าไว้แน่น แล้วตะโกนเสียงดังว่า “ไป!”

แต่ว่า ไม่ว่าเขาจะใช้วิธีอะไร ม้าตัวนั้นก็ยังคงหมอบอยู่กับพื้นไม่ขยับเขยื้อนเลย

“ไอ้เวรเอ้ย นี่มันเรื่องอะไรกันแน่!” หลิ่วจื่อเฉิงร้อนรนจนเหงื่อท่วมหัว แต่ว่าก็ไม่เข้าใจว่าเกิดอะไรขึ้น

หลินหยุนก็วิ่งไล่ตามอยู่ข้างหลังต่อไปอย่างช้าๆ จนกระทั่งจวนจะไล่ตามหลิ่วจื่อเฉิงทันแล้ว

ผู้ชมทั้งหลายก็รู้สึกร้อนใจ หลินเห้าก็ตะโกนด่าทอว่า “ไอ้หลิ่วจื่อเฉิงเล่นอะไรวะ หลินหยุนเจ้าเด็กนั่นจวนจะไล่ตามทันแล้ว!”

“ก็นั่นน่ะสิ หลิ่วจื่อเฉิงนี่เขาทำอะไรกันอยู่นะ? นี่ไม่ใช่เวลาที่จะเล่นแบบนี้ เผื่อว่าเกิดแพ้ขึ้นมาละก็ คงขายขี้หน้าคนทั่วเมืองเลย!”

หลินโล่เฉินขมวดคิ้วเล็กน้อย เขาสังเกตเห็นว่าเรื่องไม่ได้ง่ายขนาดนั้น ดูเหมือนว่าหลิ่วจื่อเฉิงกำลังเจอปัญหายุ่งยากแล้ว

ชั่วพริบตาเดียว หลินหยุนก็ขี่ม้าผ่านหน้าหลิ่วจื่อเฉิงไป แล้วหันไปมองด้วยสายตาเรียบเฉย จากนั้นก็วิ่งเข้าสู่เส้นชัยไป

หลินหยุนนั้นไม่เหมือนกับกำลังแข่งม้าอยู่ มันเป็นการเดินเล่นชัดๆ

แต่ว่า ม้าของหลิ่วจื่อเฉิงก็ยังคงหมอบอยู่กับพื้นไม่ยอมลุกขึ้นมาเลย หลิ่วจื่อเฉิงที่พบจุดจบแบบโศกนาฏกรรมก็ได้แต่ยืนทำตาปริบๆมองดูหลินหยุนเข้าสู่เส้นชัยไป

“เย้! สุดยอดไปเลย!” หลินโร่สุ่ยตะโกนร้องด้วยความดีใจ เธอไม่นึกไม่ฝันเลยว่า หลินหยุนถึงกับชนะแล้ว

หลินเห้าสีหน้าไม่อยากจะเชื่อ “ไม่ใช่มั้ง หลิ่วจื่อเฉิงถึงกับแพ้เลยเหรอ?”

“นี่เป็นไปได้ยังไงกัน!”

พวกคนตระกูลหลินทุกคน สีหน้าแต่ละคนพูดอะไรไม่ออก ฝีมือการขี่ม้าของหลิ่วจื่อเฉิงนั้น ทุกคนก็เคยเห็นกับตามาแล้ว แต่ว่าสุดท้ายกลับต้องพ่ายแพ้ให้กับหลินหยุน

“ผีหลอกล่ะมั้ง!”

ในใจทุกคนต่างก็รู้สึกหงุดหงิดไม่ได้ดั่งใจ

“ผลการแข่งขันนี้ มันเหลือเชื่อจริงๆเลย!”

หลิ่วจื่อเฉิงเตะไปที่ตัวม้าอย่างแรงด้วยความโกรธแค้น ตะโกนด่าทอว่า “แกมันสัตว์เดรัจฉาน ไอ้เด็กเวรนั่นให้ประโยชน์อะไรแกไว้ แม้แต่แกยังไปเข้าข้างมันเลย!”

แต่ว่าม้าสีเลือดที่ทำยังไงก็ไม่ยอมลุกขึ้นมาเมื่อครู่นั้น ถูกหลิ่วจื่อเฉิงเตะไปหนึ่งที ก็ส่งเสียงร้องดังออกมา แล้วลุกขึ้นยืนทันที

ทำให้หลิ่วจื่อเฉิงกลิ้งตกลงไปกับพื้น

“แม้งเอ้ย!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์