หลินตงเย่วพูดขึ้นอย่างเย็นชาว่า: “พี่สะใภ้ ที่คุณพูดแบบนี้มันช่างไม่สมเหตุสมผลเลย”
“ในตัวของพี่ชายรองของฉันมีสายเลือดของตระกูลหลินอยู่ คุณเป็นภรรยาของพี่ชายรอง แน่นอนว่าก็ต้องเป็นคนตระกูลหลิน”
“แต่ว่า บุตรบุญธรรมที่คุณรับมานั้นสำหรับพวกเราแล้ว เป็นเพียงแค่คนที่ไม่รู้จักประวัติความเป็นมา พวกเราไม่เข้าใจอะไรในตัวของเขา แล้วจะสามารถตกลงยอมรับให้เขาเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินได้อย่างไร! ”
หวางซูเฟินสีหน้าเคร่งเครียด และพูดอย่างเย็นชาขึ้นว่า: “นายต้องการจะรับทราบเข้าใจเรื่องอะไร? ฉันจะบอกกับนายเอง! ”
หลินตงเย่วพูดอย่างเย็นชาว่า: “อย่างน้อยต้องให้พวกเราทราบถึง ประวัติชีวิตของเขา? รวมถึง ตอนนี้เขามีหน้าที่การงานอะไร? ซึ่งไม่ใช่ว่าจะหาคนที่ไร้หน้าที่การงาน มาเป็นลูกหรอกนะ! ”
หวางซูเฟินจิตใจหนักอึ้ง ประวัติชีวิตของหลินหยุนแม้ว่าจะค่อนข้างระหกระเหินอยู่บ้าง แต่ก็คงไม่เป็นไร แต่ว่า หน้าที่การงานของหลินหยุน แม้แต่เธอเองก็ยังไม่ทราบอย่างชัดเจน
แต่ เธอทราบชัดเจนว่า หน้าที่การงานของหลินหยุนไม่ได้มีขนาดเล็กไปกว่าบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป
“หลินหยุนเด็กคนนี้ ประวัติชีวิตค่อนข้างระหกระเหิน ตั้งแต่เล็กอาศัยอยู่ที่สถานเลี้ยงเด็กกำพร้าจนเติบใหญ่ แต่การดำเนินชีวิตเป็นไปอย่างบริสุทธิ์เรียบง่าย ไม่มีข้อบกพร่องหรือเรื่องด่างพร้อยอะไร”
“สำหรับหน้าที่การงานของเขา ฉันยังไม่ได้สอบถาม ไม่ค่อยชัดเจนเท่าไหร่”
หลินตงเย่วยิ้มเยาะ: “แม้แต่เขาทำงานอะไรคุณเองก็ยังไม่รู้ แต่ก็กล้าที่จะรับมาเป็นบุตรบุญธรรม! พี่สะใภ้ คุณช่างรีบร้อนเกินไปหรือเปล่า! ”
เวลานี้ หลินโล่เฉินได้ส่งสายตาให้กับหลินเห้า
หลินเห้าพูดอย่างเย็นชาขึ้นทันทีว่า: “ฉันว่าคุณป้าหวางคงไม่ใช่ว่าไม่ทราบหน้าที่การงานของ หลินหยุนหรอก แต่คงอายหากที่จะพูดออกมาล่ะสิ! ”
“ให้ฉันเป็นคนบอกกับทุกคนเองก็แล้วกัน ที่จริงแล้วหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ดคนหนึ่งของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป จากนั้นก็ไม่รู้ว่าใช้วิธีการใด หลอกล่อให้คุณป้าหวางติดกับ แล้วให้คุณป้าหวางรับเขาเป็นบุตรบุญธรรม”
ทุกคนของตระกูลหลินแสดงท่าทางเหยียดหยามขึ้นในทันที: “ที่จริงแล้วก็คือบอดี้การ์ดของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปนั่นเอง! ”
“ตกลงว่าเรื่องนี้มีเบื้องหลังอะไรอยู่หรือไม่? บอดี้การ์ดคนหนึ่งกลับกลายมาเป็นบุตรบุญธรรมของประธานกรรมการบริษัทไปได้? ”
หลินหยุนมองไปยังหลินเห้า แอบพูดในใจว่า: “ในที่สุดก็มาแล้ว เดิมที พวกเขาคิดที่จะอาศัยตอนที่คุณแม่กำลังเสนอให้ฉันเข้าสู่ตระกูลหลิน แล้วโจมตีใส่ฉันอย่างหนักนั่นเอง! ”
หวางซูเฟินตวาดขึ้นอย่างเย็นชา: “เหลวไหล นายได้ยินใครที่พูดว่าหลินหยุนเป็นบอดี้การ์ดของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป? ”
หลินเห้ามองไปที่หลินโร่หลัน หลินโร่หลันก็พยักหน้าอย่างมีนัยยะสำคัญ
ทันใดนั้นหลินเห้าก็ยิ่งมีความมั่นใจมากขึ้น และพูดขึ้นอย่างกระหยิ่มยิ้มย่อง: “แน่นอนว่ามีผู้ที่ได้ยินมากับหูของตัวเอง ซึ่งคำพูดนี้ฉินหลันผู้ช่วยข้างกายของคุณเป็นคนพูดออกมาจากปาก จะเป็นความเท็จไปได้อย่างไร? ”
ฉินหลันออกมา และพูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “ฉันจะอธิบายให้ทุกคนฟัง เรื่องนี้ เป็นเพียงเรื่องในตอนที่ฉันกับหลินหยุนเพิ่งได้รู้จักกัน แล้วก็เกิดเหตุการณ์เข้าใจผิดกันเล็กน้อย”
หลินโร่สุ่ยยืนขึ้น และพูดด้วยความจริงจังว่า: “ถูกต้อง ฉันสามารถเป็นพยานได้! ”
หลินเห้าไม่ได้เสียเวลาพร่ำเพรื่อไปกับเรื่องนี้ต่ออีก แต่กลับยิ้มเยาะขึ้น และพูดว่า: “เขามีหน้าที่การงานอะไรพวกเราไม่ไปพูดถึงกันก่อน แต่ว่า ตระกูลหลินของพวกเราจะให้คนที่หาญกล้าบ้าบิ่น กำเริบเสิบสานไม่เห็นใครอยู่ในสายตาเข้ามาอยู่ในตระกูลได้อย่างไรกัน! ”
“เขาไม่เพียงแค่ทำร้ายเจี่ยงเฉิงตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน ในงานสุดยอดผู้มีอิทธิพลยังได้ไปล่วงเกินคุณชายนิ่งโหย่วฉายของตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงอีกด้วย! ”
“คนประเภทนี้ถ้าหากเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินแล้ว ใครจะไปทราบได้ว่าเขาจะนำพาปัญหาภัยพิบัติ มาให้กับตระกูลหลินมากแค่ไหน! ”
เมื่อพูดคำเหล่านี้ออกไป คนของตระกูลหลินทั้งหมดก็มีสีหน้าท่าทางที่เปลี่ยนไปทันที
“ตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันเป็นถึงอดีตเศรษฐีผู้ร่ำรวยที่สุดในจีน ส่วนตระกูลนิ่งแห่งเมืองหลวงยังมีอิทธิพลที่เหนือกว่าตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันอีกหลายเท่า แต่คิดไม่ถึงว่าเขาจะกล้าล่วงเกินคนของทั้งสองตระกูลนี้ ซึ่งช่างหาญกล้าบ้าบิ่นเสียจริงเชียว! ”
แม้แต่นายท่านตระกูลหลินเหล่านี้ นอกจากหลินซื่อเฉิงแล้ว ต่างก็มีสีหน้าที่เปลี่ยนไป
ถึงขนาดที่ว่า หวางซูเฟินกับหลินตงหัวเองก็ตะลึงไม่น้อยเช่นกัน
“นี่มันเป็นไปไม่ได้! หลินหยุนไม่ได้เป็นคนที่ไม่รู้จักแยกแยะลำดับความสำคัญสักหน่อย! บางทีอาจจะเป็นเพราะฝ่ายตรงข้ามจงใจข่มเหงรังแกหลินหยุน ดังนั้นหลินหยุนจึงต้องตอบโต้กลับไป! ” หวางซูเฟินพูดโต้แย้งขึ้น
หลินเห้ายิ้มอย่างมีเลศนัย แล้วมองไปที่หวางซูเฟิน พร้อมกับพูดถากถางขึ้นว่า: “คุณป้าหวาง คุณชายนิ่งไม่เพียงแค่ไม่ได้จงใจรังแกหลินหยุน แต่กลับยังจะทำดีต่อหลินหยุนด้วยซ้ำไป เดิมทีหลินหยุนสามารถที่จะอาศัยโอกาสนี้ผูกมิตรกับตระกูลนิ่งได้ แต่เขากลับทำให้คุณชายนิ่งโกรธแค้นแล้วก็จากไปเลย! ”
“คนที่บ้าระห่ำรู้แต่เพียงว่าทำให้ตนเองสะใจ โดยที่ไม่ได้คำนึงถึงผลประโยชน์ของตระกูลแบบนี้ จะคู่ควรเข้ามาอยู่ในตระกูลหลินของพวกเราได้อย่างไร! ”
หวางซูเฟินสีหน้าดูย่ำแย่ แต่เธอก็ไม่เชื่อในคำพูดของหลินเห้า
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...