บทที่ 69 ตอนนี้คุณเชื่อแล้วใช่ไหม
ผู้จัดการกาวขมวดคิ้ว มองหวางเสี่ยวซีที่อยู่ข้างๆ ราวกับถามเธอว่าเกิดอะไรขึ้น?”
หวางเสี่ยวซีทำอะไรไม่ถูก แสดงให้รู้ว่าเธอก็คาดไม่ถึงเช่นกัน
ผู้จัดการกาวสีหน้าเย็นชา มองไปที่อีหลิง และถามอย่างเคร่งขรึม “คุณจะพิสูจน์ได้อย่างไร? คุณมีบัตรเชิญหรือไม่?”
“ฉัน… …” อีหลิงพูดเพียงหนึ่งคำ แล้วหยุดพูดกะทันหัน เธอเข้ามาพร้อมกับหวางเสี่ยวซี จะมีบัตรเชิญได้ยังไง?
อีหลิงหันไปมองหวางเสี่ยวซีและคนอื่นๆ และพูดอย่างกังวล “พวกคุณออกมาพูดอะไรบ้างสิ!”
หวางเสี่ยวซีก้มหัวลง และมุดตัวเข้าไปในฝูงชน
ใบหน้าของเซี่ยหยู่เวยไม่แยแส พร้อมกับสายตาที่เย้ยหยัน ราวกับว่าต้องการให้หลินหยุนอับอาย
สำหรับหลี่เหยนและเว่ยเทียนหมิงและคนอื่นๆ ก็ยิ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะเป็นพยานแทนหลินหยุน
เมื่อเห็นพวกเขาไม่มีใครยื่นมือเข้ามาช่วย อีหลิงเหลือบมองพวกเขาอย่างดุร้าย
“ฉันไม่มีบัตรเชิญ แต่ฉันสามารถพิสูจน์ได้ว่าเขาไม่ใช่ขโมย!” อีหลิงพูดและมองผู้จัดการกาวด้วยท่าทีดื้อรั้น
หลินหยุนยืนอยู่ข้างหลังอีหลิงอย่างเงียบๆ มองไปที่ร่างบอบบางตรงหน้าเขา ครั้งแล้วครั้งเล่าที่เธอช่วยแก้ตัวให้เขา มีความอบอุ่นเข้ามาในหัวใจของเขา
“อีกชาติหนึ่ง คุณก็ยังคงมีจิตใจที่ดีงาม ไร้เดียงสา!
“น่าเสียดายที่โชคชะตาไม่ยุติธรรม ชาติที่แล้วคุณจบชีวิตลงอย่างอนาถ ในชาตินี้ ฉันจะช่วยเปลี่ยนชะตากรรมให้คุณ!”
ผู้จัดการกาวจ้องมองอีหลิงอย่างเย็นชา ในดวงตาแฝงด้วยความโหดร้าย “คุณไม่มีบัตรเชิญ ฉันยังไม่ได้ตรวจสอบว่าคุณเข้ามาได้อย่างไร คุณยังจะมาเป็นพยานให้เขา!”
“ฉันคิดว่าคุณสองคนเป็นพวกเดียวกันแน่นอน!”
เพื่อป้องกันไม่ให้อีหลิงพูดเรื่องที่ตนเองปล่อยหวางเสี่ยวซีและคนอื่นๆเข้ามาโดยพลการ ผู้จัดการกาวจึงตัดสินใจขับไล่อีหลิงและหลินหยุนออกไปโดยเร็วที่สุด
“ผู้จัดการจาง รีบไล่หัวขโมยทั้งสองที่แอบเข้ามาออกไป!” ผู้จัดการกาวตะโกนอย่างเย็นชา
หลี่เหยนและคนอื่นๆมีท่าทางพอใจ มองไปที่หลินหยุน เห็นความน่าสมเพชของเขาแล้วมีความสุขมาก
“ครั้งนี้ในที่สุดก็สามารถกำจัดไอ้เศษสวะอย่างหลินหยุนออกไปได้แล้ว” หลี่เหยนพูดอย่างตื่นเต้นมีความสุข
“แต่สำหรับอีหลิง… …” หวางเสี่ยวซีแสดงสีหน้าเป็นกังวล
เซี่ยหยู่เวยพูดอย่างเฉยชา “ไม่ต้องกังวล นี่เป็นสิ่งที่เธอเลือกเอง!”
“แต่ว่า อีหลิงก็จะถูกไล่ออกไปเช่นกัน!” หวางเสี่ยวซีแค่ต้องการกำจัดหลินหยุนออกไปจากพวกเขา ไม่คาดคิดว่าจะเอาอีหลิงเข้ามามีส่วนร่วมด้วย
จ้าวกางปลอบใจ “อย่าคิดมาก เธอเลือกหลินหยุนเอง แม้ว่าจะถูกไล่ออกไป เธอก็ต้องโทษตัวเอง!”
ถ้าอีหลิงไม่อยู่ หลี่เหยนก็รู้สึกเสียใจเล็กน้อย แต่เมื่อสามารถทำให้หลินหยุนอับอาย ความเสียใจนี้ก็ไม่สำคัญกับหลี่เหยน
หัวหน้าจางรีบสั่งรปภ.หลายคนทันที โดยเบ่งอำนาจและท่าทางไล่คน และพูดกับหลินหยุน “ทั้งสองคน เชิญออกไปได้แล้ว!”
สีหน้าผู้จัดการกาวแสดงความพึงพอใจ ขอเพียงแต่ไล่หลินหยุนและอีหลิงออกไปได้ จะได้ไม่มีใครรู้ว่าเขาเป็นคนปล่อยหวางเสี่ยวซีและคนอื่นเข้ามาโดยพลการ
“นางเด็กคนนี้ หาแต่เรื่องให้ฉันเดือดร้อน คราวหน้าไม่ว่าจะพูดยังไงก็ตอบตกลงไม่ได้!” ในใจผู้จัดการกาวรู้สึกแอบกลัว
อีหลิงมองหลินหยุน ใบหน้าที่สวยงามแสดงท่าทางขอโทษ “ขอโทษหลินหยุน ฉันช่วยคุณไม่ได้!”
หลินหยุนยิ้มเล็กน้อย และพูดว่า “คุณออกมาพูดแทนผม ผมก็รู้สึกซาบซึ้งมาก”
อีหลิงสีหน้าหดหู่ “แต่ฉันไม่สามารถเปลี่ยนแปลงอะไรได้ พวกเราก็ยังคงถูกไล่ออก”
หลินหยุนพูดเบาๆ “มันก็ไม่แน่เสมอไป”
ในขณะนี้ ทันใดนั้นก็มีเสียงตะโกนที่มีพลังอำนาจดังขึ้นจากด้านหลัง และดังก้องไปทั่วห้องโถงที่ว่างเปล่าอย่างไม่มีที่สิ้นสุด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...