จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 718

สรุปบท บทที่ 718 คุณคือที่สุดของวิชาการแพทย์: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

บทที่ 718 คุณคือที่สุดของวิชาการแพทย์ – ตอนที่ต้องอ่านของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอนนี้ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่ ถือเป็นช่วงเวลาสำคัญของนิยายใช้ชีวิตทั้งเรื่อง ด้วยบทสนทนาทรงพลัง ความสัมพันธ์ของตัวละครที่พัฒนา และเหตุการณ์ที่เปลี่ยนโทนเรื่องอย่างสิ้นเชิง บทที่ 718 คุณคือที่สุดของวิชาการแพทย์ จะทำให้คุณอยากอ่านต่อทันที

ได้ยินว่าอาการป่วยของตนเองหายดีแล้ว สีหน้าท่าทางของนายท่านนิ่ง ก็ยังคงไม่มีอาการดีอกดีใจอะไรขึ้นแม้แต่น้อย

ซ้ำยังใช้สายตากลวง ๆ มองไปที่หลินหยุน เหมือนกับว่ายังคงอยู่ในความฝัน ยังไม่ได้สติตื่นขึ้นมา

หลายปีมานี้ ทนทุกข์ทรมานกับอาการป่วยอย่างหนัก ทำให้หลายครั้งในช่วงกลางคืน ได้ตกใจตื่นขึ้นมาจากความฝัน

โดยมีความคาดหวังอยู่ตลอดเวลาว่า สักวันหนึ่งอาการป่วยของตนเอง จะต้องสามารถรักษาให้หายดีได้

แต่ว่า ก็รอคอยคาดหวังมานานหลายปี สุดท้ายก็ต้องพบกับความผิดหวังในทุกครั้งไป

ต่อให้ตอนนี้สิ่งที่คาดหวังนั้นประสบความสำเร็จดั่งหวังแล้ว นายท่านนิ่งก็ยังคงไม่กล้าที่จะเชื่อว่านี่คือความจริง! ”

หลินหยุนสามารถเข้าใจถึงสภาพจิตใจของนายท่านนิ่งได้ จึงเพียงแค่ยืนอยู่ด้านข้างอย่างเงียบ ๆ โดยไม่พูดอะไร เพื่อให้เวลานายท่านนิ่ง ปรับตัวปรับสภาพจิตใจอย่างเพียงพอ

หลิ่วหยวนคิดที่จะพูดออกมา แต่ก็ถูกกู่หมิงซานขัดขวางเอาไว้ โดยที่ทำสัญญาณมือแสดงท่าทางไม่ให้ออกเสียง

หลิ่วหยวนจึงได้กลืนคำพูดที่กำลังจะพูดออกมานั้น กลับคืนเข้าไป และยืนรออยู่ด้านข้าง

ในที่สุด นายท่านนิ่งก็ได้ถอนหายใจยาว และพูดขึ้นด้วยเสียงสั่นว่า: “เปิดไฟเถอะ! ”

“รับทราบ! ”

นิ่งเฟิ่งเซียนเปิดไฟด้วยตัวเอง โดยแสงไฟคือไฟสีเหลืองที่มีแสงนุ่มนวล ไม่สว่างจ้าเกินไปนัก แต่สามารถมองเห็นสิ่งต่าง ๆ ได้ ซึ่งแสดงว่า เป็นไฟที่จัดเตรียมไว้ให้กับนายท่านนิ่งโดยเฉพาะ

นายท่านนิ่งเห็นใบหน้าที่ชัดเจนของหลินหยุนเป็นครั้งแรก

แม้ว่าเพียงฟังจากน้ำเสียงของหลินหยุน เขาก็คาดเดาได้ถึงประมาณอายุของหลินหยุน

แต่ว่า เมื่อตอนที่มองเห็นตัวตนที่แท้จริงกับตาของตนเองแล้ว นายท่านนิ่งอดไม่ได้ที่จะตกตะลึงขึ้นในทันที

“ว่ากันว่า ฮีโร่เกิดจากวัยรุ่น! ”

“คิดไม่ถึงว่า หมอชื่อดังในประเทศจำนวนมาก ต่างก็ไม่สามารถทำให้ข้าหลุดพ้นออกจากอาการป่วยได้ แต่กลับเป็นเด็กหนุ่มรุ่นหลัง ที่สามารถรักษาโรคของข้าให้หายเป็นปกติได้! ”

“หนุ่มน้อย นายต้องการให้ข้าตอบแทนนายอย่างไร? ”

นายท่านนิ่งสีหน้าท่าทางจริงจัง เห็นได้ชัดว่าเขาต้องการที่จะขอบคุณหลินหยุนจริง ๆ

ทั้งสามคนของตระกูลนิ่ง ต่างก็มองมาที่หลินหยุน

ถ้าหากหลินหยุนต้องการเงิน อย่างนั้นก็ถือว่าเป็นเรื่องง่ายที่สุด แต่ว่า จากสถานะของหลินหยุน ไม่ขาดแคลนเงินอย่างแน่นอน

ทางนิ่งเฟิ่งเซียนก็เคยเสนอที่จะแนะนำคู่ครองให้ แต่ก็ถูกหลินหยุนปฏิเสธ

นิ่งเฟิ่งเซียนคิดไม่ออกจริง ๆ ว่า ตระกูลนิ่งยังมีสิ่งของอะไร ที่หลินหยุนให้ความสนใจ

หลินหยุนมองไปที่นิ่งโหย่วหรง และพูดขึ้นว่า: “ฉันไม่ต้องการสิ่งใดตอบแทน”

“หากต้องการที่จะขอบคุณ ก็ขอบคุณลูกหลานของคุณเถอะ เป็นเพราะความกตัญญูรู้คุณของ พวกเขา ที่ทำให้ฉันซาบซึ้งใจ”

หลังจากที่จัดการเรื่องเสร็จแล้ว ก็ไม่เปิดเผยคุณความดีและชื่อเสียง

ในเมื่อเป็นเช่นนี้หลินหยุนก็ไม่ปิดบังคุณความดีและชื่อเสียง แต่กลับเป็นการนำบุญคุณนี้ตอบแทนคืนให้กับนิ่งโหย่วหรง

นับว่าเป็นการตอบแทนบุญคุณในชาติที่แล้ว ที่เธอได้คอยดูแลเขา

นิ่งเฟิ่งเซียนและคนอื่น ๆ ก็เบาใจลงได้บ้าง

ยังดีที่หลินหยุนไม่ได้เอ่ยปากร้องขออะไรมากมาย เพราะพวกเขาเองก็กังวลใจอยู่บ้างเช่นกัน

นายท่านนิ่งพูดขึ้นด้วยสีหน้าจริงจังว่า: “จะทำอย่างนี้ได้อย่างไรกัน! ”

“นายรักษาอาการป่วยให้ข้าแล้ว ก็คือผู้มีพระคุณของข้า ถ้าหากว่านายไม่รับอะไรตอบแทน คงจะทำให้ข้าลำบากใจ”

“นายสนใจสิ่งของอะไรในตระกูลนิ่งของข้า เพียงแค่พูดมา ข้าจะเป็นคนตัดสินใจเอง เพื่อมอบให้กับนาย! ”

ด้านข้าง นิ่งเฟิ่งเซียนกระซิบพูดว่า: “ท่านพ่อ เขาเป็นถึงปรมาจารย์หลินแห่งหลิงหนาน ตระกูลนิ่งของพวกเรา ไม่แน่ว่าอาจจะไม่อยู่ในสายตาของเขาก็เป็นได้! ”

นายท่านนิ่งตกใจ โดยมองไปที่หลินหยุนอย่างตกตะลึง และพูดขึ้นทันทีว่า: “เป็นอย่างนี้นี่เอง! ”

เดิมทีคิดว่านายท่านนิ่งถูกกล่าวโจมตีแล้ว จึงไม่ต้องการพูดถึงเรื่องสิ่งของตอบแทนอีก

แต่ว่า หลังจากที่เขาไตร่ตรองสักครู่แล้ว ก็พลันพูดขึ้นว่า: “แบบนี้แล้วกัน แม้ว่านายอาจจะมองข้ามตระกูลนิ่งของเรา แต่ข้านั้นเป็นผู้ที่แบ่งแยกบุญคุณและความแค้นออกจากกันอย่างชัดเจน ซึ่งสิ่งของตอบแทนไม่ว่าอย่างไรข้าก็จะต้องให้นาย”

“โดยที่ข้าจะไม่ให้สิ่งของอะไรกับนาย แต่ข้าจะให้คำมั่นสัญญากับนายแทน ถ้าหากต่อไปนายมีความจำเป็นอะไร ตระกูลนิ่งของพวกเราเต็มใจที่จะช่วยเหลืออย่างเต็มที่”

นิ่งโหย่วฉายตกใจ ยิ้มอย่างขมขื่นและพูดขึ้นว่า: “คุณปู่ สิ่งตอบแทนของท่านนี้ มีค่ามากกว่าสิ่งอื่นใดอีก! ”

นิ่งโหย่วหรงก็ขมวดคิ้วเล็กน้อย แต่ว่า ในที่สุดก็ไม่ได้พูดอะไร

นิ่งเฟิ่งเซียนขมวดคิ้วอย่างหนัก คำมั่นสัญญาของนายท่านนี้ เปรียบได้กับเป็นการส่งมอบตระกูลนิ่งออกไปให้แล้ว

ศัตรูของหลินหยุนคือใคร? กี่คนที่อยู่ในห้อง ต่างก็รู้อย่างชัดเจน

นั่นก็คือตระกูลหวางตระกูลอันดับหนึ่งของสี่วงศ์ตระกูลขนาดใหญ่ในจีน

“มีเพียงผู้ที่เข้าใจในทักษะวิชาการแพทย์อย่างลึกซึ้งและมีความมั่นใจสูงเท่านั้น จึงกล้าที่จะใช้วิธีการจัดการจากเรื่องที่ยากให้เป็นเรื่องที่ง่ายแบบนี้ โดยที่ฉันเองหมกมุ่นอยู่กับวิชาการแพทย์มาเป็นทศวรรษ แต่ก็ยังคงไม่สามารถทำแบบนายได้ หากจะพูดว่านายเป็นสุดยอดคนใหม่ของวงการแพทย์แล้ว ก็คงจะไม่ผิดนัก! ”

กู่หมิงซานไม่ใช่แค่ชื่นชมยกย่องรู้สึกกับหลินหยุน แบบธรรมดาเท่านั้น

“ขออนุญาตแนะนำตัวอย่างเป็นทางการ ฉันคือกู่หมิงซาน ตอนนี้คือผู้นำกิตติมศักดิ์ของสมาคมโอสถ! ถ้าหากมีโอกาส หมอเทพหลินจะต้องมาเป็นแขกของเราสักครั้ง เพื่อจะได้พูดคุยแลกเปลี่ยนทักษะวิชาการแพทย์ด้วยกัน”

แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ทราบว่าสมาคมโอสถคือองค์กรอะไร แต่ว่า สำหรับคำว่ากิตติมศักดิ์แล้ว เขาค่อนข้างที่จะเข้าใจเลยทีเดียว

ไม่ว่าจะเป็นผู้อำนวยการก็ดี หรือผู้นำก็ตาม แต่เมื่อมีคำว่ากิตติมศักดิ์อยู่ด้านหน้าแล้ว ก็แสดงว่าคนผู้นี้มีเป็นที่รู้จักอย่างแพร่หลาย และมีชื่อเสียงโด่งดัง

และจากที่ได้สนทนากับกู่หมิงซานในเวลาสั้น ๆ แล้ว หลินหยุนก็สามารถรับรู้ได้ถึงวิชาการแพทย์ที่สูงส่งของกู่หมิงซาน และรวมถึงจิตใจที่กว้างขวาง

ด้วยเหตุนี้จึงสรุปได้ว่า ในวงการแพทย์กู่หมิงซานผู้นี้ คงจะเป็นบุคคลที่ยิ่งใหญ่ไม่น้อยเลยทีเดียว

“หากมีโอกาส ฉันจะต้องไปอย่างแน่นอน” หลินหยุนพูดขึ้น

“ตกลง เมื่อถึงตอนนั้น ฉันจะต้อนรับเป็นอย่างดี! ” กู่หมิงซานพูดขึ้นด้วยความดีใจ

“นายท่านนิ่ง เจ้าบ้านนิ่ง ฉันกู่หมิงซานขอตัวกลับก่อนแล้ว ขอลา! ”

นิ่งเฟิ่งเซียนรีบพูดขึ้นว่า: “หมอเทพกู่ ฉันจะไปส่งท่าน! ”

หลิ่วหยวนกำลังย้อนระลึกถึงเรื่องราวเมื่อครู่นี้ ที่กู่หมิงซานได้พูดขึ้น

โดยเฉพาะคำพูดที่ว่า ใช้ชี่แท้ขับเลือดให้ออกมาจากร่างกาย

ตอนนั้นหลิ่วหยวนตกตะลึงเป็นอย่างมาก อย่างนั้นคงต้องใช้ชี่แท้จำนวนมากเท่าไรกันล่ะ!

เดิมทีหลิ่วหยวนก็เป็นนักบู๊ เพียงแต่มีความสามารถที่ต่ำต้อย ซึ่งหลายปีมานี้ยังคงวนเวียนอยู่ในระดับขั้นแดนพรแสวง

สำหรับความยากในการใช้ชี่แท้ขับเลือดทั้งหมดให้ออกมาจากร่างกายนั้น เขาเข้าใจอย่างชัดเจน

นั่นคงไม่สามารถที่จะทำได้เลย นอกเสียจากว่าเป็นปรมาจารย์นักบู๊

ก็หมายความว่า เด็กหนุ่มที่อายุยี่สิบต้น ๆ ที่อยู่เบื้องหน้าผู้นี้ ไม่เพียงแค่เป็นหมอเทพเท่านั้น ยังจะเป็นปรมาจารย์บู๊อีกด้วย!

เป็นหมอเทพไม่น่าเกรงกลัวเท่าไร เป็นปรมาจารย์บู๊ก็ไม่น่าเกรงกลัวเท่าไรเช่นกัน ตระกูลหลิ่วของเขามีสถานะเป็นถึงหนึ่งในเจ็ดตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีน โดยในตระกูลของเขามีปรมาจารย์มากมาย และก็มีหมอเทพมากมายด้วย

แต่ว่า ตระกูลหลิ่วที่มีขนาดใหญ่เช่นนี้ กลับไม่มีหมอเทพระดับปรมาจารย์เลยสักคนเดียว

นั่นแสดงว่า ผู้ที่มีความสามารถทั้งสองด้านนี้ผนึกรวมกันนั้น ช่างมีจำนวนที่น้อยมาก

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์