จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 72

สรุปบท บทที่ 71 เห็นปุ๊บก็เข้าใจ: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

สรุปตอน บทที่ 71 เห็นปุ๊บก็เข้าใจ – จากเรื่อง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

ตอน บทที่ 71 เห็นปุ๊บก็เข้าใจ ของนิยายใช้ชีวิตเรื่องดัง จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดยนักเขียน จูผาซู่ เต็มไปด้วยจุดเปลี่ยนสำคัญในเรื่องราว ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยปม ตัวละครตัดสินใจครั้งสำคัญ หรือฉากที่ชวนให้ลุ้นระทึก เหมาะอย่างยิ่งสำหรับผู้อ่านที่ติดตามเนื้อหาอย่างต่อเนื่อง

บทที่ 71 เห็นปุ๊บก็เข้าใจ

บริเวณรอบนอกของบ่อนคาสิโน ถูกลูกน้องของทั้งสองฝ่ายและรปภ.ของเมืองศตวรรษต้าฮัวแยกตัวออกไป ผู้คนที่มาชมความสนุกได้รวมตัวล้อมรอบๆไว้

หวางเสี่ยวซีและเซี่ยหยู่เวยและคนอื่นๆ กว่าจะเบียดเข้ามาได้ และหาตำแหน่งที่ดีไว้ยืนดู

ไหนบอกว่าเคลียร์สถานที่แล้ว? ทำไมยังมีคนมากมายขนาดนี้!” หลี่เหยนบ่นพึมพำอย่างไม่พอใจ

“พวกคุณดูสิ หลินหยุนอยู่ข้างในจริงๆ!” หวางเสี่ยวซีชี้ไปที่อีหลิงที่นั่งอยู่กับหลินหยุน และอุทานเสียงเบา

จ้าวกางถามด้วยความประหลาดใจ “ทำไมหลินหยุนถึงนั่งใกล้กับเทพพนันหกนิ้ว? เขาคู่ควรเหรอ?”

เว่ยเทียนหมิงพูดด้วยใบหน้าที่เคร่งขรึม “พวกนายอย่าลืมสิ ครั้งนั้นที่พวกเราพนันกับเขา ผลสุดท้ายทำไมเทพพนันหกนิ้วจึงออกหน้าและต้องการร่วมมือกับเขา!”

หลี่เหยนกับจ้าวกางจ้องมองหน้ากัน

ทันใดนั้น จ้าวกางก็อุทานออกมา “คุณชายเว่ยคิดว่าเทพพนันหกนิ้วชอบทักษะการพนันของหลินหยุน และเชิญเขามาเป็นผู้ช่วยของท่านเส้!”

เว่ยเทียนหมิงพูดด้วยใบหน้าที่จริงจัง “นอกเหนือจากนี้ ฉันเดาไม่ออกจริงๆว่าเขามีค่าอะไรพอที่จะให้เทพพนันหกนิ้วหนุนหลังเขา!”

หลี่เหยนหัวเราะเยาะ “ทักษะการพนันแค่นั้นของเขา สู้กับคนที่เพิ่งเข้าสำนักอย่างพวกเรายังพอได้ แต่ถ้าเจอกับยอดฝีมือจริงๆ เขาไม่มีคุณสมบัติพอ!”

เว่ยเทียนหมิงส่ายหัว และพูดเสียงจริงจัง “ฉันก็หวังไว้อย่างนั้น แต่ว่า ในเมื่อเทพพนันหกนิ้วยอมลดตัวลงมาประจบเขา คงต้องเห็นสิ่งที่มีค่าบางอย่างในตัวเขาแน่นอน!”

จ้าวกางหัวเราะเบาๆ และพูดว่า “คุณชายเว่ย คุณอย่าให้คุณค่าเขามากเกินไป คุณชายอู๋ซวงไม่เพียงแต่หล่อเหลาและมีความเก่งกาจ แม้แต่ทักษะการพนันก็สมบูรณ์แบบ แค่ความสามารถอันน้อยนิดของหลินหยุน จะเป็นคู่ต่อสู้ของฉินอู๋ซวงได้ไง!”

“อีกอย่างคุณชายเว่ยไม่ได้สังเกตเหรอ หลินหยุนนั่งอยู่ด้านหลัง และข้างหลังท่านเส้มีปรมาจารย์ท่านหนึ่งแล้ว!”

หลี่เหยนหัวเราะเยาะอย่างดูถูก และพูดต่อ “ก็หมายความว่า หลินหยุนไอ้เศษสวะคนนี้เป็นเพียงตัวสำรองเท่านั้น ท่านเส้ไม่ได้ให้ความสำคัญเขาเลย!”

เว่ยเทียนหมิงมองคนที่นั่งอยู่บนเก้าอี้ หลินหยุนมีสีหน้านิ่งเฉย ใบหน้าเคร่งขรึม ไม่พูด

เขาดูออกว่าเส้เทียนหัวไม่แยแสหลินหยุน แต่ว่า เรื่องราวต่างๆอาจไม่ง่ายอย่างนั้น

เซี่ยหยู่เวยมองไปที่หลินหยุน ในแววตาเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เวลาผ่านไปโดยไม่ทันตั้งตัว แต่เดิมเป็นเพียงไอ้เศษสวะ แต่สามารถนั่งอยู่ข้างหลังผู้มีอิทธิพลอย่างเส้เทียนหัวได้

ในบ่อนคาสิโน พนักงานแจกไพ่เริ่มสับไพ่ ตามข้อตกลง เกมแรก คือการเล่นไพ่

อู๋กั๋วส้วงแตะหลินหยุน และกระซิบ “คุณหลิน เริ่มแข่งขันแล้ว!”

“เห็นแล้ว”หลินหยุนพูดเบาๆ ด้วยท่าทีสบายๆ ไม่ตื่นเต้นเหมือนอู๋กั๋วส้วง

พนักงานแจกไพ่สับไพ่ เทพพนันหวางสุ้นที่อยู่ข้างๆเส้เทียนหัว สีหน้าดูเคร่งเครียดขึ้นมา ตาทั้งสองข้างจ้องไปที่ไพ่อย่างจริงจัง

ปรมาจารย์ที่อยู่ข้างๆผู้มีอิทธิพลทั้งสองท่าน ท่าทีก็คล้ายๆกับหวางสุ้น และรู้สึกต้องใช้พลังมากกว่า

มีเพียงฉินอู๋ซวงเท่านั้นที่ยังคงดูผ่อนคลาย พร้อมกับรอยยิ้มจางๆที่มุมปาก และความรู้สึกดูหมิ่น

สิ่งที่เรียกว่าเทพพนัน พูดตามตรงก็คือมีความจำที่ยอดเยี่ยม เมื่อตอนที่พนักงานแจกไพ่กำลังสับไพ่ พวกเขาต้องใช้ความจำ เพื่อหาตำแหน่งของไพ่ที่สับ ว่าไปที่ไหน และแจกให้ใคร

คนที่ระดับความสามารถต่ำ จำได้เฉพาะไพ่ใบใหญ่เท่านั้น แจกถึงมือใคร ก็สามารถคำนวณไพ่ของฝ่ายตรงข้าม

คนที่ระดับความสามารถสูง โดยพื้นฐานแล้วไพ่ในมือของทุกคน สามารถประเมินได้ใกล้เคียงมาก

แต่ว่า ขั้นตอนการสับไพ่นั้นรวดเร็วมาก ความจำและความเร็วในการคำนวณของมนุษย์มีจำกัด ดังนั้นแม้แต่เทพพนันเหล่านี้ ก็ไม่สามารถคำนวณได้อย่างแม่นยำ

เว้นแต่ว่าจะเป็นซูเปอร์แมน มีความจำที่ยอดเยี่ยม แม่นยำและรวดเร็วกว่าเครื่องคิดเลข สามารถมีความแม่นยำได้ถึง100%

หลังจากสับไพ่เสร็จแล้ว พนักงานแจกไพ่จะวางไพ่ลงบนโต๊ะ

เส้เทียนหัวมองไปที่หวางสุ้น ราวกับต้องการคำตอบของเขา

หวางสุ้นพยักหน้า เส้เทียนหัวรู้สึกโล่งใจทันที มองฉินอู๋ซวงที่อยู่ตรงข้าม ยิ้มอย่างมีชัย และพูดว่า “ฉันพร้อมแล้ว แจกไพ่ได้หรือยัง?”

การได้ยินของเขาเวอร์เกินไปหรือเปล่า!

อู๋กั๋วส้วงที่นั่งอยู่ข้างหลังขมวดคิ้ว เขารู้สึกว่าเกมนี้เส้เทียนหัวตกอยู่ในอันตราย

เนื่องจากอู๋กั๋วส้วงเคยเล่นกับฉินอู๋ซวง โดยรู้ว่าฉินฮู๋ซวงจะไม่เล่นเกมที่ไม่มั่นใจ ในเมื่อเขากล้าที่จะตาม และยังรู้ไพ่ใบสุดท้ายของเส้เทียนหัว จึงพิสูจน์ให้เห็นว่าเขามีความมั่นใจในการชนะ

“คุณหลิน คุณคิดว่าใครจะชนะในรอบนี้?” อู๋กั๋วส้วงแกล้งถามแบบสบายๆ แต่จุดประสงค์ที่แท้จริงคือการทดสอบหลินหยุน

แม้ว่าอู๋กั๋วส้วงจะเคยได้เห็นทักษะการพนันของหลินหยุน แต่นั่นเป็นเพียงการแข่งขันเล็กๆ ระหว่างคนหนุ่มสาวไม่กี่คน ไม่อาจเปรียบเทียบกับการแข่งขันรายการระดับใหญ่เช่นนี้ได้

หลินหยุนไม่ได้มองไปที่ไพ่บนโต๊ะพนัน และพูดอย่างเด็ดขาดว่า “คนที่มีนามสกุลเส้ แพ้แน่นอน”

อู๋กั๋วส้วงถึงกับผงะ มองไปที่หลินหยุนและถามอย่างสงสัย “คุณหลินตัดสินอย่างไร?”

หลินหยุนพูดอย่างไม่แยแส “เห็นปุ๊บก็เข้าใจ”

อู๋กั๋วส้วงมองตามสายตาของหลินหยุน และมองไปที่โต๊ะพนัน เขาพบว่าเส้เทียนหัวและหวางสุ้นมีใบหน้าที่เคร่งเครียด ราวกับกำลังเผชิญหน้ากับศัตรู

แต่ว่า ฉินอู๋ซวงกลับมีใบหน้ายิ้มแย้ม มีความมั่นใจเต็มที่

ใครแพ้และใครชนะมองปุ๊บก็รู้ได้ทันที!

“คุณหลินนี่ฉลาดมาก ไม่จำเป็นต้องมองไพ่ มองจากโมเมนตัมก็สามารถตัดสินใครแพ้ชนะได้ ผมขอนับถือจริงๆ!” อู๋กั๋วส้วงแสดงความเคารพและชื่นชม

หลินหยุนทำตาเหลือกให้เขา และไม่พูด ในความเป็นจริงสิ่งที่หลินหยุนว่าเห็นปุ๊บก็เข้าใจนั้น ไม่ใช่พูดถึงเรื่องโมเมนตัม แต่มองเห็นไพ่ใบสุดท้าย

ครั้งหนึ่งเคยได้รับการขนานนามว่ากษัตริย์ชางฉอง แค่เทคนิคการมองที่ง่ายที่สุดยังใช้ไม่เป็น ถ้าเรื่องนี้แพร่ออกไปคงจะถูกหัวเราะเยาะตาย?

พูดอีกนัยหนึ่งคือหลินหยุนสามารถมองเห็นไพ่ใบสุดท้ายของทั้งสองอย่างรวดเร็ว ใครแพ้และใครชนะยังไม่ชัดเจนอีกเหรอ?”

อีหลิงที่อยู่ข้างๆ ใบหน้าที่สวยงามก็ได้แสดงความชื่นชมอีกด้วย “หลินหยุน คุณยอดเยี่ยมมาก! สามารถใช้วิธีการสังเกตสีหน้าคนมาใช้ในการพนัน ฉันขอนับถือคุณมาก!”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์