สรุปเนื้อหา บทที่ 721 สภาพย่ำแย่ของเซี่ยเจี้ยนโก๋ – จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่
บท บทที่ 721 สภาพย่ำแย่ของเซี่ยเจี้ยนโก๋ ของ จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ในหมวดนิยายใช้ชีวิต เป็นตอนที่โดดเด่นด้วยการพัฒนาเนื้อเรื่อง และเปิดเผยแก่นแท้ของตัวละคร เขียนโดย จูผาซู่ อย่างมีศิลป์และชั้นเชิง ใครที่อ่านถึงตรงนี้แล้ว รับรองว่าต้องติดตามตอนต่อไปทันที
“ตระกูลเซี่ยเหรอ?”
เซี่ยเจี้ยนโก๋และเซี่ยหยู่เวยตอนแรกก็นึกสงสัย จากนั้นก็จ้องไปยังชายหนุ่มคนนั้นด้วยสีหน้าโกรธเคือง
“แกเป็นคนตระกูลเซี่ย อีกทั้งยังจำพวกเราได้ก่อนหน้านั้นแล้วใช่ไหม?” เซี่ยหยู่เวยจ้องหน้าชายหนุ่มคนนั้นด้วยสายตาเยือกเย็น
เมื่อเห็นว่าปิดบังต่อไปไม่ได้อีกแล้ว ชายหนุ่มคนนั้นก็เลยจำต้องยอมรับแต่โดยดี
“ไม่ผิดหรอก ฉันคือเซี่ยอิงเหา เซี่ยเจี้ยนลี่เป็นพ่อของฉันเอง!” ชายหนุ่มสีหน้าเย่อหยิ่งจองหอง ดูราวกับว่าฐานะของเขาเป็นที่น่าภาคภูมิใจ
เซี่ยเจี้ยนโก๋สีหน้าตกตะลึง “นายก็คือลูกชายของเซี่ยเจี้ยนลี่! ฉันคือลุงใหญ่ของนายนะ!”
เซี่ยเจี้ยนลี่ก็คือน้องรองของเซี่ยเจี้ยนโก๋นั่นเอง นั่นก็หมายความว่า ชายหนุ่มคนนี้จะต้อง เรียกเซี่ยเจี้ยนโก๋ว่าลุงใหญ่
แต่ว่า เซี่ยอิงเหากลับดูเหมือนไม่ยอมรับลุงใหญ่คนนี้ ยิ้มเยาะเย้ยแล้วมองดูเซี่ยเจี้ยนโก๋ด้วยสีหน้าที่เต็มไปด้วยดูถูกเหยียดหยาม “คุณก็เป็นแค่เศษสวะ มีสิทธิ์อะไรที่จะมาเป็นลุงใหญ่ของฉัน!”
“ต่อให้คุณโชคดีได้กลับเข้ามาในตระกูลเซี่ยอีกครั้ง ก็ยังคงเป็นเศษขยะเหมือนเดิม ตระกูลเซี่ยพวกเรา ไม่ต้อนรับเศษสวะอย่างคุณหรอก”
“แก.......กําเริบเสิบสาน!” เซี่ยเจี้ยนโก๋โกรธจนหน้าแดงไปหมด คิดไม่ถึงว่ายังไม่ทันกลับเข้าประตูตระกูลเซี่ยเลย ถึงกับถูกเด็กรุ่นหลังคนหนึ่งมาหยามเกียรติเสียแล้ว
เซี่ยหยู่เวยยืนอยู่ข้างๆพูดด้วยสีหน้าเยาะเย้ยว่า “ที่แท้นี่ก็คือวิธีการอบรมสั่งสอนลูกหลานของตระกูลเซี่ย เด็กรุ่นหลังคนหนึ่งถึงกับแสดงความหยาบคายไร้มารยาทกับผู้ใหญ่ได้ถึงเพียงนี้”
“ตระกูลแบบนี้ ก็คู่ควรที่จะได้ชื่อว่าเป็นตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนเหรอ? พ่อคะ ตระกูลเซี่ยที่พ่อใฝ่ฝันอยากจะกลับมาหาตลอดเวลา ก็คือสถานที่ที่ผลิตเศษขยะพวกนี้ออกมาเหรอ?”
เซี่ยหยู่เวยรู้สึกโกรธเคืองจริงๆ
เธอในฐานะหญิงสูงส่งที่น่าภาคภูมิใจคนหนึ่ง หยิ่งทะนงตัวว่าอยู่เหนือคนอื่น เพียงแต่เคยเสียเปรียบให้กับหลินหยุนเท่านั้น
ตอนนี้ยังไม่ทันเข้าไปตระกูลเซี่ยเลย ถึงกับถูกเด็กรุ่นหลังคนหนึ่งเหยียดหยามเสียแล้ว อีกทั้งยังต่อหน้าหลินหยุนอีกด้วย เซี่ยหยู่เวยจะทนไหวได้อย่างไร?
จึงไม่สนใจอะไรอีกแล้วว่าเขาจะเป็นตระกูลเซี่ยหรือตระกูลหลิ่ว เซี่ยหยู่เวยเวลาที่ด่าคนขึ้นมาละก็ ชัดถ้อยชัดคำไม่คลุมเครือเลย
ไม่เพียงแต่ด่าทอเซี่ยอิงเหาจนหน้าหงายไปเลย อีกทั้งยังด้อยค่าตระกูลเซี่ยว่าต่ำต้อยราวกับกองขยะอีกด้วย
เซี่ยอิงเหาก็ไม่ใช่พวกอันธพาลที่ใช้แต่กำลัง กลับไม่ได้รู้สึกโกรธอะไร แต่พูดเยาะเย้ยว่า “คุณว่าตระกูลเซี่ยเป็นขยะ งั้นแล้วใครกันล่ะ? ที่ร้องห่มร้องไห้จะเป็นจะตาย อยากขอกลับมาตระกูลเซี่ยให้ได้?”
“ถ้าพูดอย่างนี้แล้ว พวกคุณก็ยิ่งด้อยกว่าขยะเสียอีกใช่มั๊ย?”
“ฮ่าๆๆ......” พวกลูกน้องที่อยู่ข้างหลังของเซี่ยอิงเหา หัวเราะดังลั่น มองไปยังตระกูลเซี่ย ทั้งหลายด้วยความเย้ยหยัน
สีหน้าของเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็แดงขึ้น ก้มหน้าลงด้วยความละอายใจ
เซี่ยหยู่เวยอดไม่ได้ที่จะมองหน้าเซี่ยอิงเหา ดูเหมือนว่าเจ้าหมอนี่ไม่ใช่พวกหนุ่มเจ้าสำราญที่ไม่มีมันสมอง แต่ดูแล้วเป็นคนค่อนข้างมีเล่ห์เหลี่ยม
แต่ว่า เลห์เหลี่ยมเล็กน้อยแค่นี้ในสายตาของเซี่ยหยู่เวยแล้ว มันก็แค่เด็กอนุบาลเท่านั้นเอง
“ฮื่อ คิดอยากจะกลับมาตระกูลเซี่ยคือพ่อฉัน ไม่ใช่ฉัน! ตระกูลที่อบรมสั่งสอนลูกหลานออกมาอย่างแกแบบนี้ ฉันยังไม่อยากจะมองเลย”
“แต่ว่า ถึงแม้จะเป็นพ่อฉันก็ตาม ก็ไม่ใช่ว่าเห็นความสำคัญของตระกูลเซี่ยถึงจะกลับมาอีกครั้ง ที่เขากลับมา เพียงแค่อยากจะมาพิสูจน์ให้เห็นว่า ตระกูลเซี่ยเมื่อก่อนที่เคยดูถูกเหยียดหยามเขา แล้วขับไล่เขาออกจากตระกูลเซี่ยไป มันช่างโง่เขลาอะไรอย่างนั้น!”
เซี่ยอิงเหาพูดเยาะเย้ยว่า “แก้ตัวน้ำขุ่นๆ!”
“ฉันไม่อยากทำสงครามน้ำลายกับคุณ พวกคุณน่าจะเตรียมของขวัญวันเกิดให้กับปู่ของฉันแล้วสิ! รอให้ถึงงานวันเกิดของปู่ก่อน แล้วฉันจะดูว่าพวกคุณจะขายขี้หน้าคนอื่นยังไง”
เซี่ยอิงเหารู้สึกว่า ถ้าทำสงครามน้ำลายเขาคงไม่ใช่คู่ต่อสู้ของเซี่ยหยู่เวยอย่างแน่นอน จึงรีบยุติการเจรจาด้วยตัวเอง
หลินหยุนยืนดูอยู่ข้างๆได้แต่แล้วส่ายหน้า เป็นคนตระกูลเซี่ยเหมือนกัน ถึงกับช่วยเหลือคนนอกคนหนึ่งมารังแกคนตระกูลเซี่ยด้วยกัน
ดูเหมือนว่าต่อให้เซี่ยเจี้ยนโก๋จะสามารถกลับเข้าไปอยู่ตระกูลเซี่ยก็ตาม ก็รังแต่จะต้องแบกหน้ารับการถูกหยามเกียรติที่จะเกิดเพิ่มมากขึ้นเท่านั้นเอง
หลิ่วจื่อเทามองดูการรบกันเองภายในของตระกูลเซี่ย ส่วนหลินหยุนก็หยุดลง ไม่กล้าที่จะทำอะไรบุ่มบ่ามแล้ว
ทันใดนั้น กลับรู้สึกยิ่งได้ใจมากขึ้น
“ไอ้เด็กน้อย ที่แท้แกก็เป็นคนของตระกูลเซี่ยนี่เอง พวกแกคอยดูนะ ฉันจะต้องไปหาเจ้าบ้านของพวกแก เพื่อทวงคืนความยุติธรรมให้ได้!”
เซี่ยอิงเหาก็พูดเยาะเย้ยอยู่ข้างๆ “เจ้าหนู แกถึงกับกล้าทำร้ายคุณชายตระกูลหลิ่ว แกตายแน่เลย!”
“ฉันจะกลับไปบอกคุณปู่ เขาจะต้องขับไล่พวกแกออกจากตระกูลเซี่ยอีกครั้งอย่างแน่นอน!”
เซี่ยเจี้ยนโก๋สีหน้าขาวซีด ตระกูลหลิ่วเป็นผู้นำของตระกูลใหญ่การแพทย์แผนจีนทั้งเจ็ด แม้แต่ตระกูลเซี่ยก็ยังไม่กล้าล่วงเกินด้วย
ถ้าหากเซี่ยอิงเหากลับไปฟ้องละก็ ท่านเซี่ยก็จะต้องขับไล่เซี่ยเจี้ยนโก๋ออกจากตระกูลเซี่ยอีกครั้งหนึ่งจริงๆด้วย
เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดด้วยความโกรธว่า “เห็นชัดๆว่าคนพวกนั้นลงมือก่อน คุณไม่ไปหาพวกเขาชดใช้ค่าเสียหายให้ กลับมาเอากับพวกฉัน? คุณนี่มีเหตุผลหรือเปล่า?”
เจ้าของร้านแสยะยิ้ม “คุณชายตระกูลหลิ่วและตระกูลเซี่ย ฉันคงไม่กล้าไปยุ่งด้วย ไหนเลยจะกล้าไปเอาค่าเสียหายล่ะ!”
“แต่ว่าพวกแกก็ไม่เหมือนกันแล้ว รีบจ่ายค่าเสียหายข้าวของของฉันมาแต่โดยดี ไม่เช่นนั้นแล้วพวกคุณก็อย่าคิดหนีเลย!” เจ้าของร้านพูดด้วยความรำคาญ
“แกนี่รังแกคนอ่อนแอกลัวคนแข็งแรงกว่า!” เซี่ยเจี้ยนโก๋ ตะคอกด้วยความโกรธ
เจ้าของร้านก็หัวเราะฮ่าๆๆแล้วพูดว่า “คุณพูดถูกแล้วล่ะ ก็คือรังแกคนอ่อนแอแต่กลัวคน แข็งแรง รีบจ่ายเงินมาเสียดีๆ!”
หลินหยุนขี้เกียจไปตอแยกับคนถ่อนชาวบ้านเช่นนี้ จึงพูดอย่างเรียบๆว่า “จะเอาเท่าไหร่?”
เจ้าของร้านยิ้มอย่างเย็นชา “เฟอร์นิเจอร์ของฉันพวกนี้ล้วนแต่เป็นแบรนด์เนมทั้งนั้น ต่างก็มีราคาแพงมาก.......”
“คุณบอกมาเลยว่าจะเอาเท่าไหร่” หลินหยุนพูดตัดตอนเจ้าของร้าน
เจ้าของร้านพูดอย่างตกตะลึงว่า “ไอ้หยา ใจป้ำเสียด้วยนะ! หนึ่งแสน คุณมีไหมล่ะ?”
โจวเฟินโกรธจนหน้าดำ พูดด้วยความโมโห “แกคิดจะขูดรีดคนหรือ? ก็แค่ชั้นไม้สองตัว อย่างมากก็หนึ่งพันเท่านั้นแหละ จะถึงหนึ่งแสนได้ยังไงกัน!”
หลินหยุนพูดด้วยเสียงนุ่มนวลว่า “น้าเฟินครับ อย่าไปโมโหคนถ่อยแบบนี้เลย”
“เอาเลขที่บัญชีให้ฉัน ฉันจะโอนเงินไปให้”
โจวเฟินสีหน้าไม่พอใจ “เสี่ยวหยุน ต่อให้แกมีเงินก็ตาม แต่ว่าเห็นชัดๆว่าเขากำลังขูดรีดคนอยู่นะ!”
หลินหยุนยิ้มอย่างเรียบๆ “ไม่เป็นไรหรอก พวกเราไปกันเถอะ!”
หลังจากที่ออกจากตลาดแล้ว เซี่ยเจี้ยนโก๋ก็ถามว่า “เสี่ยวหยุน นายบอกว่าจะให้ตำราวิชาการฝังเข็มที่ดีกว่าวิชาฝังเข็มสาม อย่าลืมเสียล่ะ!”
“วางใจเถอะ ไม่ลืมหรอก” หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆ
“พวกคุณพักอยู่ที่ไหนเหรอ? ผมจะส่งพวกคุณกลับไป” หลินหยุนพูด
“พวกเราพักอยู่ที่โรงแรมชั่วคราว” โจวเฟินพูด
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
จบแค่นี้จริงดิ ไม่มั้ง เหมือนคนเขียนโดนตัดจบใน 5 ตอน อะไรกันนี่ อ่านถึงประมาณตอนที่ 1,500-1,600 พอละ หลังจากนั้นเละ ช่วงสุดท้ายนี่มั่วบ้านงานมั่ก ๆ...
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...