จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 722

หลินหยุนก็กลับไปยังโรงแรมพร้อมกับตระกูลเซี่ยสามคนพ่อแม่ลูก

โรงแรมก็ธรรมดามาก โจวเฟินกับเซี่ยเจี้ยนโก๋ก็พักด้วยกันหนึ่งห้อง เซี่ยหยู่เวยก็พักต่างหากคนเดียวอีกห้องหนึ่ง

ภายในห้องพัก เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดตำหนิเล็กน้อยว่า “หลินหยุน นายไม่ควรจะให้เงินเจ้าของร้านคนนั้นเลย!”

“นี่เห็นพวกเราเป็นเหยื่อรับเคราะห์ชัดๆเลยนะ!”

หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร ด้วยฐานะของเขา เป็นไปได้ยังไงที่เพียงแค่เงินหนึ่งแสน แล้วไปคิดเล็กคิดน้อยกับคนถ่อยชาวบ้านคนหนึ่ง

โจวเฟินพูดว่า “ไม่ต้องพูดแล้ว เงินก็ให้เขาไปแล้ว คุณยังจะไปเอาคืนมาได้อีกหรือไง!”

เซี่ยเจี้ยนโก๋จึงนิ่งเงียบไม่พูดอะไรอีก

โจวเฟินมองไปยังหลินหยุน แล้วยิ้มอย่างอบอุ่น “เสี่ยวหยุน คราวนี้ดีที่มีนายอยู่ด้วยไม่เช่นนั้นแล้ว อาจไม่แน่เซี่ยหยู่เวยจะถูกพวกเขาข่มเหงแล้วก็ได้!”

“ใช่สิ ตอนนี้นายพักอยู่ที่ไหนล่ะ? ย้ายมาพักกับพวกเราด้วยสิ!”

เซี่ยหยู่เวยเงยหน้าขึ้นมองดูหลินหยุนเล็กน้อย รอคอยคำตอบจากหลินหยุนด้วยความหวัง

เซี่ยเจี้ยนโก๋พูดว่า “เสี่ยวหยุน ในเมื่อนายอยู่เมืองหลวง งั้นงานวันเกิดของนายท่านครั้งนี้ นายจะต้องไปเป็นเพื่อนฉันด้วยนะ!”

“สภาพของฉันตอนนี้นายก็เห็นแล้ว ถ้าไปถึงงานวันเกิดแล้ว เซี่ยอิงเหาคนนั้นก็จะต้อง หาเรื่องกลั่นแกล้งฉันอย่างแน่นอนเลย”

อีกทั้ง นายก็ยังไปทำร้ายคุณชายของตระกูลหลิ่วอีกด้วย ตระกูลหลิ่วจะต้องมาแก้แค้นกับพวกเราแน่เลย นายจะไม่สนใจพวกเราไม่ได้แล้วนะ!”

“ยังมีอีกอย่างหนึ่ง เสี่ยวเวยตอนนี้เธอก็สำนึกผิดแล้ว นายก็ให้โอกาสเธอสักครั้งหนึ่ง อภัยให้เธอด้วยเถอะ!”

“ไม่ว่ายังไงก็ตาม พวกนายก็เป็นสามีภรรยากัน กว่าที่จะได้มาพบเจอกันต้องสะสมบุญมานับสิบปี กว่าจะได้มาเคียงคู่กันก็ต้องสร้างบุญมานับร้อยปี ระหว่างสามีภรรยาจะไม่มีความแค้นที่อยู่ข้ามคืน”

เซี่ยเจี้ยนโก๋ก็เริ่มแสดงบทบาทความเป็นพ่อตาที่เคารพแล้ว พูดอบรมสั่งสอนอย่างเต็มปากเต็มคำ

โจวเฟินก็พูดเตือนว่า “เสี่ยวหยุน ต้องโทษที่หยู่เวยดื้อรั้น ทำให้นายต้องเสียใจ แต่ว่า คราวนี้เธอรู้สึกสำนึกผิดแล้วจริงๆ นายก็ให้โอกาสเธออีกสักครั้งหนึ่งเถอะ!”

หลินหยุนกลัวที่สุดก็คือประเด็นนี้ ถึงแม้เซี่ยเจี้ยนโก๋สองคนพ่อลูกไม่ได้ดีกับเขาเท่าไหร่เลย แต่ว่าโจวเฟินกลับรักเขาเหมือนลูกในไส้คนหนึ่งก็ไม่ปาน

ยังมีอีกประเด็นหนึ่งก็คือ บุญคุณของตระกูลเซี่ยที่เลี้ยงดูเขามา

บุญคุณนี้ ไม่ว่าจะอย่างไร ก็ไม่สามารถลบล้างออกไปได้

มองดูสายตาที่รอคอยด้วยความหวังของโจวเฟิน คำพูดปฏิเสธของหลินหยุน ก็ยากที่จะเอ่ยปากพูดออกมาจริงๆ

จนปัญญาไม่มีทางเลือก เขาจึงได้แต่หาข้ออ้างเพื่อหลบหลีกชั่วคราว “ฉันจะไปเขียนตำราวิชาการฝังเข็มก่อน จะได้ไม่เสียเวลาในการหาของขวัญวันเกิดให้กับท่านเซี่ย”

พอพูดจบ หลินหยุนก็รีบเดินจากไป

“อ้าย......” โจวเฟินถอนหายใจเฮือก ทำตาถลนใส่เซี่ยหยู่เวยอย่างจนใจ

หลังจากที่หลินหยุนเดินออกไปจากประตูห้องแล้ว ก็ยังได้ยินเสียงพูดของโจวเฟินที่กำลังพูดสั่งสอนเซี่ยหยู่เวยอยู่บ้าง “แม่ก็บอกแต่แรกแล้วว่า เสี่ยวหยุนเป็นเด็กดีมาก แกก็ไม่เคยเชื่อเลย แล้วยังทำร้ายจิตใจเขาถึงขนาดนี้ ตอนนี้เสียใจก็สายไปเสียแล้ว”

หลินหยุนก็ไม่ได้ฟังต่อไปอีก เดินไปที่หน้าเคาน์เตอร์โรงแรมเพื่อเปิดห้องพักอีกห้องหนึ่ง จากนั้น ก็เริ่มเขียนตำราวิชาฝังเข็มสิบสามต้นฉบับออกมา

ระหว่างนั้น โจวเฟินก็เดินมาเคาะประตูเรียกหลินหยุนไปกินข้าว แต่ว่า หลินหยุนปฏิเสธอ้างว่ากำลังเขียนถึงตอนสำคัญอยู่ เพื่อเธอจะได้จากไป

เมื่อถึงตอนบ่าย หลินหยุนจึงได้เดินออกมาจากห้องพัก

แล้วเอาวิชาฝังเข็มสิบสามมอบให้กับเซี่ยเจี้ยนโก๋

เซี่ยเจี้ยนโก๋มองดูแวบเดียว ก็ตกตะลึงทันที

“นี่ นี่มันดูเหมือนวิชาฝังเข็มสามของหมอเทพเย่เลย แต่ว่า ล้ำเลิศกว่าวิชาฝังเข็มสามถึงสิบเท่าเลยทีเดียวนะ!”

อีกทั้ง ยังละเอียดกว่าวิชาฝังเข็มสามอีกด้วย ครอบคลุมทุกอย่าง ช่างเป็นผลงานชิ้นหนึ่งที่น่าอัศจรรย์จริงเลย!”

“ฉันกล้ารับรองเลยว่า ถ้าหากตำราวิชาฝังเข็มเล่มนี้ได้เผยแพร่ออกไปแล้วละก็ จะต้องเกิดการแย่งชิงอย่างบ้าคลั่งขึ้นในวงการการแพทย์จีนอีกครั้งอย่างแน่นอนเลย!”

คราวที่แล้ว วิชาการฝังเข็มปราณไท่ชิงของหลินหยุน ก็ได้ทำให้เกิดการแย่งชิงอย่างบ้าคลั่งในวงการแพทย์จีนขึ้นมาแล้วครั้งหนึ่ง

วิชาฝังเข็มสิบสามเล่มนี้ ล้ำเลิศกว่าวิชาการฝังเข็มปราณไท่ชิงเสียอีก อีกทั้งยังเป็นวิชาฝังเข็มที่เน้นด้านจิตวิญญาณโดยเฉพาะอีกด้วย นี่เป็นประเภทสาขาที่ขาดแคลนมากที่สุด ในประวัติศาสตร์การฝังเข็มของจีนทีเดียว

เมื่อไหร่ที่ถูกเผยแพร่ออกไป ก็ย่อมต้องเกิดการแย่งชิงกันอย่างบ้าคลั่งในวงการแพทย์เป็นธรรมดา

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์