สมาชิกทุกคนในตระกูลเซี่ย เห็นเจ้าบ้านของตัวเองคำนับผู้นำสมาคมกู่ รู้อยู่แก่ใจว่า ผู้นำสมาคมกู่กับเซียงเซิงตันเฉิน เป็นตัวจริง
เซี่ยหยู่เวย ถึงกับเชิญเซียงเซิงตันเฉินมาที่บ้านตระกูลเซี่ยได้จริงๆ
แม้แต่ ผู้นำสมาคมกู่ซึ่งเป็นอาจารย์ของเซียงเซิงตันเฉิน ก็ได้รับเชิญมาเช่นกัน
ไม่สิ ฟังน้ำเสียงของเซียงเซิงตันเฉินและผู้นำสมาคมกู่ ดูเหมือนพวกเขาจะไม่ได้รับเชิญมา
แต่ว่า ริเริ่มมาเยี่ยมเยียนหมอเทพหลินเอง
สมาชิกทุกคนในตระกูลเซี่ย สายตาที่จ้องมองไปที่หลินหยุน ชั่วขณะก็ตกตะลึงอยู่พักหนึ่ง!
ผู้นำสมาคมกิตติมศักดิ์ของสมาคมโอสถ ดำรงอยู่ในฐานะตัวแทนในโลกทางการแพทย์ที่ล้ำเลิศ เพียงแต่ว่า หลินหยุนได้ให้ผู้นำสมาคมกู่เรียกตัวเองว่าหมอเทพหลิน และมาที่บ้านตระกูลเซี่ยเพื่อคำนับเขาด้วยตัวเอง
ยิ่งไปกว่านั้น หมอเทพคนนี้ ดูเหมือนจะอายุเพียง20ต้นๆเท่านั้น
นี่……
สมาชิกทุกคนในตระกูลเซี่ยไม่สามารถจินตนาการได้ ว่าหลินหยุนเป็นใครและมีทักษะทางการแพทย์วิเศษเพียงใด
นายท่านเซี่ยทักทายกู่หมิงซานกับเซียงเซิงตันเฉินอย่างกระตือรือร้น ต่อหน้าทั้งสองคน นายท่านเซี่ยวางตัวได้ต่ำต้อยมาก
ไม่ใช่ว่านายท่านเซี่ยเอาใจมากเกินไป แต่เป็นเพราะสถานะของสองคนนี้อยู่ในโลกทางการแพทย์นั้นมีระดับสูงเกินไปจริงๆ!
สมาชิกทุกคนในตระกูลเซี่ย พร้อมด้วยนายท่านเซี่ย ได้กล่าวทักทายกู่หมิงซานและลูกศิษย์ ทั่วทั้งตระกูลเซี่ย เนื่องจากทั้งสองคน ยุ่งมากจนไม่สามารถปลีกตัวออกมาได้
แต่กู่หมิงซานและเซียงเซิงตันเฉิน ได้ยืนเคียงข้างหลินหยุนตลอด และพูดคุยกับหลินหยุน
ทำให้นายท่านเซี่ยอิจฉาริษยามาก
สมาชิกทุกคนในตระกูลเซี่ย ยิ่งไม่ต้องพูดถึง แววตาแต่ละคนที่มองหลินหยุนนั้น เหมือนกำลังจะลุกเป็นไฟ
หลายคน ริเริ่มในการเข้าหาเซี่ยเจี้ยนโก๋ โดยถามเกี่ยวกับประวัติความเป็นมาของหลินหยุน
เซี่ยเจี้ยนโก๋เรียกลูกเขยให้ทุกคนได้ยิน เมื่อเห็นสายตาของฝูงชนที่จ้องมองเต็มไปด้วยความอิจฉาริษยา เซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกได้ระบายความอึดอัดในใจ!
ความคับข้องใจที่สะสมมานานหลายสิบปี ได้ระบายออกมาทันที
ดังนั้นเซี่ยเจี้ยนโก๋รู้สึกตื่นเต้นดีใจมากจนคุมอารมณ์ไม่อยู่ ซ่อนตัวอยู่ในมุมห้องและแอบร้องไห้ ร้องไห้ด้วยความดีใจ!
สำหรับเซี่ยหยู่เวย ยืนอยู่รอบนอก ยืนเงียบๆและมองหลินหยุนที่ถูกล้อมรอบไปด้วยกู่หมิงซานและเซียงเซิงตันเฉิน
แม้จะอยู่ข้างบุคคลสองคนที่อยู่ระดับสูงสุดในโลกทางการแพทย์ แต่ท่าทีของหลินหยุนยังคงเฉยชา พูดคุยกับพวกเขาสองอย่างใจเย็น
โดยส่วนใหญ่แล้ว พวกเขาสองคนจะคุยมากกว่า หลินหยุนฟัง และนานๆจะพูดสองสามคำ ทำให้กู่หมิงซานและเซียงเซิงตันเฉินนั้นรู้สึกประหลาดใจ และพยักหน้าตลอด
หลังจากพูดคุยกันสักพัก เดิมทีใบหน้าของเซียงเซิงตันเฉินค่อนข้างเย่อหยิ่ง แต่ตอนนี้เลือนหายไปหมดแล้ว มองไปที่หลินหยุน ใบหน้าเต็มไปด้วยความเคารพ
ท้ายที่สุด ทัศนคติที่ทั้งสองมีเหมือนนักเรียนกับครู ปฏิบัติเช่นนั้นต่อหลินหยุน
ในใจเซี่ยหยู่เวย ไม่มีความตกใจแล้ว แต่รู้สึกชินชาเล็กน้อย
ในช่วงเวลานี้ หลินหยุนได้สร้างปาฏิหาริย์ต่อหน้าเธอมากเกินไป เปลี่ยนสิ่งที่เป็นไปไม่ได้ให้เป็นไปได้
และปาฏิหาริย์ส่วนใหญ่นั้น เธอได้เห็นมากับตาตัวเอง และประสบกับตัวเอง
ถ้าตอนนั้นเธอไม่ถอนหมั้นในที่สาธารณะ เกียรติยศและความเคารพนับถือที่คนอื่นมีให้หลินหยุนนั้น เธอก็ต้องมีส่วนร่วมด้วย
แต่ว่า ตอนนี้ไม่เพียงแต่เกียรติยศเหล่านี้ไม่เกี่ยวข้องกับเธอ มันยังเหมือนกับพื้นรองเท้าที่ฉีกขาด ตบบนใบหน้าของเธออย่างรุนแรง
“ฉันไม่เต็มใจ!”
“หลินหยุน ถ้าก่อนหน้านี้นายบอกฉันทุกอย่าง ฉันจะไปถอนหมั้นในที่สาธารณะได้อย่างไร! ฉันจะยืนข้างหลังนาย เพื่อช่วยจัดการความสัมพันธ์ระหว่างบุคคล และเพิ่มพูนผลประโยชน์สูงสุด”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...