จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 759

สรุปบท บทที่ 759 ดาบในศิลาออกจากฝักแล้ว: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

อ่านสรุป บทที่ 759 ดาบในศิลาออกจากฝักแล้ว จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ โดย จูผาซู่

บทที่ บทที่ 759 ดาบในศิลาออกจากฝักแล้ว คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย จูผาซู่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ความมืดมิดกับความสว่าง ต่างก็อยู่ตรงกันข้ามกันมาตั้งแต่โบราณกาลแล้ว

หมอผีฝรั่งและผีดูดเลือด ต่างก็อยู่ในค่ายสภามืดด้วยกัน เทพเจ้าที่พวกเขาบูชานับถือ ก็คือ ท่านจอมมารซาตาน

ในเทพนิยายที่ร่ำลือกันทางโลกตะวันตกนั้น ซาตานได้ต่อสู้กับเทพแห่งสว่าง อีกทั้งยังสามารถเอาชนะได้ และยังมีผู้ติดตามที่ซื่อสัตย์จงรักภักดีอีกจำนวนมากมายอีกด้วย

หมอผีฝรั่งและผีดูดเลือดพวกนี้ รังเกียจที่สุดก็คือเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์

ปฏิกิริยาตอบโต้ของเคลลี่และมาร์ควิสเอ็ดเวิร์ดนั้น สามารถแสดงให้เห็นถึงความยิ่งใหญ่ของเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์นั้นได้

“ฝ่ากางเขน!”

“อัศวินเข้าชาร์จ!”

อัศวินโต๊ะกลมทั้งสอง จับเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของพวกเขาขึ้นมา ด้วยพลังที่แข็งแกร่งจากพรของพระเจ้า ทำให้พวกเขารู้สึกว่าตัวเองตอนนี้ก็คือเทพแห่งสงครามที่ยิ่งใหญ่ที่สุดภายใต้ฟ้าดินแห่งนี้

พวกเขาเล็งไปยังหลินหยุน เริ่มบุกโจมตีอย่างสุดกำลัง

“ระวังนะ นั่นเป็นเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ หลีกเลี่ยงการปะทะกับพลังที่กล้าแกร่ง!” เฉินโก๋ซ่งพูดเตือนอยู่ข้างหลัง

หลินหยุนสีหน้าเรียบเฉย ไม่หลบไม่หลีกไปไหน ไม่ได้เห็นการจู่โจมของสองคนนี้อยู่ในสายตาเลย ก้าวขาออกไปข้างหน้า แล้วชกหมัดทุบออกไปหนึ่งที

“ท่าสยบเขา!”

เจียงเจิ้งฉีหัวเราะเยาะด้วยเสียงเย็นชาว่า “เจ้าเด็กนี่ ถึงกับใช้หมัดตัวเองไปปะทะกับเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์เชียว! ฮ่าๆ รนหาที่ตายชัดๆ!”

ชาวรัสเซียทั้งหลาย สายตาที่มองไปยังหลินหยุนนั้น ก็ค่อนข้างเหยียดหยามเล็กน้อย

“พิวรีน เจ้าเด็กน้อยชาวจีนคนนี้ประมาทเกินไปแล้ว เขาถึงกับใช้มือทั้งสองข้างไปท้าทายเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์!” อัศวินครึ่งคนครึ่งสัตว์ชาวรัสเซียคนหนึ่งหัวเราะเยาะอย่างเหยียดหยาม

พิวรีนพูดเสียงเข้มว่า “นิสัยเย่อหยิ่งอวดดีของชาวจีน ไม่รู้ว่าเมื่อไหร่จะแก้ได้สักที!”

แต่ว่า หลายคนที่เขาเคยเห็นการลงมือของหลินหยุนก่อนหน้านั้น กลับไม่มีท่าทีที่จะดูถูกหลินหยุนเลย

ได้แต่มองดูสถานการณ์ในสนามรบอย่างเงียบๆ สังเกตกระบวนท่าที่หลินหยุนใช้จู่โจม

โป้ง!

กำปั้นหมัดข้างเดียว สามารถรับดาบหนึ่งเล่มและหอกอีกหนึ่งเล่มไว้ได้

หลังจากนั้น ทั้งดาบและหอกต่างก็กระเด็นลอยออกไป

“ท่าแยกน้ำ!”

หลินหยุนยังไม่หยุดลงทันที ชกหมัดทุบออกไปอีกหนึ่งที

อัศวินโต๊ะกลมทั้งสองยังไม่ได้สติจากอาการช็อกเลย หมัดที่ทรงพลังมหาศาลของหลินหยุนนั้น ก็ทุบลงมาอีกครั้งหนึ่ง

โป้ง!

อัศวินโต๊ะกลมทั้งสอง ต่างก็ถูกทุบจนกระอักเลือดแล้วกระเด็นลอยออกไป ระหว่างนั้นยังสามารถได้ยินเสียงกระดูกที่แตกหักอีกด้วย

“เป็นไปได้ยังไง!”

คนที่ตะโกนเสียงดังตกใจออกมาคนแรกกลับเป็นเจียงเจิ้งฉี

“ทั้งสองคนนั้นเป็นถึงทายาทที่สืบทอดเครื่องรางศักดิ์สิทธิ์ของอัศวินโต๊ะกลมทั้งสิบสอง น่าจะเป็นอัศวินอัศวินโต๊ะกลมประจำรุ่นในปัจจุบัน พละกำลังสามารถเทียบเท่าปรมาจารย์โลกบู๊ระดับใหญ่เลยทีเดียว!”

“ทั้งสองคนร่วมมือกัน ถึงกับยังสู้หมัดทั้งสองของหลินหยุนไม่ได้เลย!”

เจียงเจิ้งฉีไม่อยากจะเชื่อเลย เขาทะนงตัวว่ามีพละกำลังที่ไม่ธรรมดา แต่ว่าเมื่ออยู่ต่อหน้าอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองแล้ว ก็ได้แต่จะหาทางหนีเอาตัวรอดอย่างเดียว ไม่เคยคิดกล้าที่จะต่อสู้กับฝ่ายตรงข้ามเลย

แต่ว่า หลินหยุนกลับทำได้ อีกทั้งยังง่ายดายเหมือนไม่ต้องออกแรงอะไรเลย

“สุดยอด ยอดเยี่ยมที่สุดเลย!”

เฉินโก๋ซ่งสีหน้าดีใจ “ในที่สุดฉันก็เข้าใจความตั้งใจของประธานาธิบดีแล้ว ฉันก็ว่าแล้วเชียว ประธานาธิบดีจะต้องดูคนไม่ผิดอย่างแน่นอน”

ห่าวจ้านสีหน้าตกตะลึง “โอ้แม่เจ้าโว้ย หลินหยุนเก่งกาจจริงๆเลย ชกไปแค่สองหมัดก็สามารถเอาชนะอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองได้แล้ว!”

“ฉันยังนึกว่าเจ้าเด็กนี่เป็นแค่ไม้ประดับ ดูดีแต่ใช้การไม่ได้เสียอีก! ที่ไหนได้คิดไม่ถึงว่า เขาถึงกับร้ายกาจขนาดนี้เชียว!”

ห่าวจ้านเป็นคนพูดไวทำไว คำพูดที่สรรเสริญพวกนี้ออกจากปากเขาแล้ว ไม่ได้ทำให้เกิดความรู้สึกที่ไม่ดีเลย กลับทำให้ทุกคนรู้สึกน่าเชื่อถือมากยิ่งขึ้น

อาร์เธอร์ค่อนข้างเซอร์ไพรส์ “พละกำลังของเจ้าเด็กนี่ แข็งแกร่งที่สุดเท่าที่ฉันเคยเจอมาเลย!”

เคลลี่หัวเราะเยาะด้วยเสียงแหลมเล็กของเธอ “ฮ่าๆๆ ในที่สุดก็ได้เห็นสุภาพบุรุษจอมปลอมที่ชอบทำตัวเป็นผู้ดีพวกนี้ถูกคนกระทืบสักที กระทืบได้ดีเลย!”

อาร์เธอร์ทำตาเขม็งใส่เคลลี่ “ไอ้พวกขยะที่ใช้ชีวิตอยู่แต่ในความมืด พวกที่ไม่มีหน้าไปพบผู้คนอย่างนี้ ยังจะกล้ามาเยาะเย้ยอัศวินโต๊ะกลมของพวกเราอีกเหรอ!”

“แน่จริง พวกแกก็ลองลุยดูเองสิ!”

เคลลี่โกรธจัด “ลุยก็ลุยสิ แกนึกว่าฉันไม่กล้าเหรอไง!”

คนเผ่าสว่างระดับเทพนั้น ก็คือความแข็งแกร่งอันสูงสุดที่ยังคงอยู่ของคนเผ่าสว่างนั่นเอง

อาร์เธอร์ก็ถูกแรงสะท้อนกลับที่รุนแรงนั้น กระแทกจนกระเด็นลอยออกไป

แต่ว่า ถ้าสามารถสังหารหลินหยุนแล้วแก้แค้นให้กับอัศวินโต๊ะกลมทั้งสองนั้นได้ ต่อให้ได้รับบาดเจ็บเล็กน้อยก็ถือว่าคุ้มค่าแล้ว

แต่ว่า หลังจากที่อาร์เธอร์ ตั้งตัวยืนขึ้นมาได้แล้วค่อยๆหันกลับไปมองหลินหยุนนั้น ก็รู้สึกอึ้งไปทันที

“เขา ถึงกับยังมีชีวิตอยู่! นี่เป็นไปได้ยังไง!”

ความแข็งแกร่งของดาบในศิลา อาร์เธอร์ย่อมรู้อยู่แก่ใจดี ตอนนั้น เขาเคยใช้ดาบในศิลาสังหารนักบู๊ระดับแดนเทพชาวจีนที่แข็งแกร่งคนหนึ่งไปแล้ว

แต่ว่า ตอนนี้เห็นได้ชัดว่าได้ฟาดลงตรงร่างของหลินหยุนที่ไม่ได้ป้องกันตัวอะไรเลย ส่วนหลินหยุนก็แค่ได้รับบาดเจ็บเพียงเล็กน้อยเท่านั้นเอง

“เจ้าหมอนี่ พละกำลังถึงขั้นระดับไหนกันแน่?” ในใจของอาร์เธอร์ อดไม่ได้ที่นึกสงสัยขึ้นมา

เคลลี่ก็รู้สึกเซอร์ไพรส์มาก “เทพแห่งสว่างที่สมควรตาย เขาถึงกับไม่เป็นอะไรเลย!”

“นี่เป็นไปได้ยังไง! นั่นเป็นถึงดาบในศิลาเชียวนะ! หรือว่าอาร์เธอร์ไอ้บัดซบนี่ เอาของปลอมมาหรือไง?”

ชาร์ลีชาวอเมริกาก็รู้สึกเซอร์ไพรส์เหมือนกัน “พลังอันยิ่งใหญ่ของดาบในศิลา สามารถที่จะผ่าทะลุเสื้อเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย นั่นก็หมายความว่า ร่างของเจ้าเด็กนี่ สามารถเทียบเท่ากับเสื้อเกราะที่แข็งแกร่งที่สุดได้เลย”

คนของรัสเซีย สีหน้าเต็มไปด้วยอาการช็อก

มนุษย์หมาป่าฮาร์ทก็ตะโกนร้องด้วยเสียงหวาดกลัวว่า “พิวรีน ฉันคงไม่ได้ตาฝาดไปนะ! เขาสามารถต้านทานดาบในศิลาของอาร์เธอร์ได้!”

“โอ้สวรรค์ เจ้าเด็กน้อยชาวจีนคนนี้ ทำให้ทุกคนช็อกได้จริงๆเลย!”

พิวรีนมองดูหลินหยุน พูดด้วยสีหน้าเคร่งเครียดว่า “ดูไปแล้ว สมาชิกทีมชาวจีนที่ส่งมาคราวนี้ พิเศษมากจริงๆเลย!”

สีหน้าของเจียงเจิ้งฉี กลับแสดงสีหน้าท่าทางที่เหลือเชื่ออย่างกล้ำกลืนฝืนทน ความแข็งแกร่งของดาบในศิลา ถึงแม้ว่าเขายังไม่เคยประสบด้วยตัวเองก็ตาม แต่ว่าก็เคยได้ยินมาก่อนแล้ว

ต่อให้เป็นพี่ชายของเขาเจียงร่อโจ๋อยู่ที่นี่ ก็ยังไม่กล้าพูดว่าสามารถที่จะต้านทานการโจมตีอย่างสุดฤทธิ์ของดาบในศิลานี้ได้เลย

แต่ว่าภายใต้สถานการณ์ที่หลินหยุนแข็งขืนรับมือการโจมตีของดาบในศิลานั้น ก็ยังสามารถสังหารสมาชิกทีมอังกฤษสองคนได้สำเร็จอีกด้วย

พลังความสามารถเช่นนี้ ทั่วทั้งประเทศจีน ก็คงหาไม่ได้อีกแล้ว

ต่อให้เจียงเจิ้งฉีที่ไม่เคยยอมรับหลินหยุนมาโดยตลอดเลย ตอนนี้ก็ไม่กล้าสงสัยอะไรในพลังความสามารถของหลินหยุนอีกต่อไปแล้ว

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์