จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 763

สรุปบท บทที่ 763 อัปยศอดสู: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 763 อัปยศอดสู จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 763 อัปยศอดสู คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

คนหนึ่งเป็นปรมาจารย์อันดับหนึ่งเมื่อสามสิบปีที่แล้ว ส่วนอีกคนแค่หนุ่มน้อยอายุยี่สิบกว่าๆ

ถึงแม้ช่วงนี้ปรมาจารย์หลินจะมีชื่อเสียงมากๆในโลกบู๊ แต่หลงอีรู้สึกว่าหลินหยุนมีโอกาสชนะน้อยมาก

ไม่ใช่เพราะหลงอีมีอคติต่อหลินหยุน เหตุผลจริงๆคือหลินหยุนยังหนุ่มมากเกินไป

ในแดนของโลกบู๊ พลังนั้นจะอัตราสัดส่วนโดยตรงกับอายุ หลินหยุนยังอายุน้อยมาก พลังที่เขาฝึกฝนมาจะสู้เยนหนานเทียนได้ยังไง?

แต่หลงอีไม่กล้าพูดขัดประธานาธิบดีจีน เพราะเขาคือผู้นำของชาวจีน การตัดสินใจของเขาจะต้องไม่ผิด

"ฉันจะไปบอกให้สมาชิกของหน่วยมังกรในเจียงหนานเฝ้าจับตามองเยนหนานเทียนไม่ให้คลาดสายตา"

ประธานาธิบดีจีนพูด:"คุณไปที่นั่นเลย ให้เครื่องบินส่งคุณไป ถ้าจำเป็นจริงๆ ถึงแม้ต้องข่มขู่เยนหนานเทียนก็ไม่เป็นไร ยังไงก็ต้องรอจนกว่าหลินหยุนกลับมา"

"ได้ครับ!"หลงอีรับคำสั่งเสร็จก็เดินออกไปทันที

ในสุสานของเยนเป่ยเฟยกับเยนหมิงหยู่ในเจียงหนาน

บนถนนขึ้นภูเขา มีคนกลุ่มหนึ่งกำลังเดินอยู่

เยนหนานเทียนใส่เสื้อผ้าสีขาว เดินอยู่ด้านหน้าสุด เขามีสีหน้าปกติและสง่างาม

ทั้งๆที่เขาอายุเกือบร้อยปีแล้ว แต่ดูแล้วกลับเหมือนวัยกลางคน

ด้านหลัง คือหลินตงเย่วและคนอื่นๆ และผู้คุมนักโทษ

ในระหว่างทาง มีคนหนุ่มสาวหลายคนในตระกูลหลินคิดจะหลบหนี เมื่อโดนเยนหนานเทียนฆ่าตายไปแล้วสองคน คนที่เหลือก็ไม่กล้าหลบหนีอีก

นายท่านหลินซื่อเฉิง ใช้ไม้เท้าและเดินโซเซ

ผู้อาวุโสอีกสี่คนของตระกูลหลิน ก็ไม่ต่างอะไรจากเขา พวกเขาเดินจนเหนื่อยและหอบ

ถนนขึ้นภูเขาที่คดเคี้ยว ด้วยสภาพร่างกายของอาวุโสทั้งห้าคนของตระกูลหลิน ถ้าต้องขึ้นภูเขาอย่างนี้ มันเป็นความทุกข์ทรมานมากๆ

แต่เยนหนานเทียนเคยสั่งไว้แล้ว ห้ามไปช่วยพยุงอาวุโสห้าคนนี้ พวกเขาต้องเดินด้วยตัวเอง

เมื่อเดินถึงกลางภูเขา อาวุโสหลายคนเดินไม่ไหวแล้ว

อาวุโสหลายคนนั่งลงกับพื้นและไม่ยอมเดินอีก

หานเจียวเจียวที่เป็นผู้คุมนักโทษรีบพูดทันที:"นายท่าน รีบๆยืนขึ้นและเดินไปข้างหน้า อย่าทำให้พวกเราต้องเดือดร้อน!"

เนื่องจากพวกเขาห้าคนเป็นผู้อาวุโสที่สุดในตระกูลหลิน ถึงแม้หานเจียวเจียวคนที่ปากร้ายใจดำ แต่ก็ไม่กล้าพูดจาหยาบคายมากจนเกินไป

หลินซื่อเฉิงพูด:"คุณไปบอกเขา พวกเราแก่มากแล้ว เดินไม่ไหวแล้ว ให้เขามาฆ่าพวกเราตรงนี้เลย!"

หลินตงเย่วเดินเข้ามาและพูดเบาๆ:"พ่อ คุณอย่าพึ่งยอมแพ้สิ เดินช้าๆก็ได้ แต่ห้ามหยุด!"

หลินซื่อเฉิงจ้องไปที่เขา:"คุณอย่าเรียกฉันว่าพ่ออีก ฉันไม่มีลูกชายที่กลัวตายอย่างคุณ!"

"ยังไงก็ต้องตาย จะตายช้าตายเร็วก็เหมือนกัน ทำไมต้องมาโดนทรมานอย่างนี้? ตรงนี้วิวก็สวยดี ตายอยู่ตรงนี้ก็ดีแล้ว!"

"ให้เขาเข้ามาเลย!"

หลินตงเย่วพูดเบาๆ:"พ่อ คุณอย่าพูดด้วยความโกรธสิ รอให้หลินหยุนกลับมา ให้เขาฆ่าหลินหยุนเพื่อระบายความแค้น เขาก็จะปล่อยพวกเรากลับไปอย่างแน่นอน!"

"พวกเราคนเยอะขนาดนี้ เขาจะกล้าฆ่าพวกเราทั้งหมดให้ตายเหรอ!"

นายท่านหลินจ้องหน้าเขาและพูดด้วยน้ำเสียงเคร่งขรึม:"เมื่อกี้คุณพูดอะไร? คุณพูดใหม่อีกรอบสิ!"

หลินตงเย่วตกใจและไม่กล้าพูดอะไรอีก แต่เขากลับบ่นด้วยความไม่พอใจอยู่ข้างๆ:"เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมด เป็นความผิดของหลินหยุนคนเดียว ทำไมต้องให้ทุกคนในตระกูลหลินมารับโทษด้วย!"

"ในเมื่อเขาไปฆ่าคนๆนั้น เขาก็ควรรับผิดชอบเรื่องนี้!"

"คุณปกป้องเด็กคนนั้นมากเกินไป สำหรับคนอื่นๆในตระกูลหลิน มันไม่ยุติธรรมเลย!"

นายท่านหลินพูดด้วยความเคร่งขรึม:"ถึงแม้หลินหยุนจะเป็นคนที่ไม่ได้เรื่อง แต่เขาก็ไม่ทรยศต่อคนในตระกูลแน่นอน เรื่องนี้ฉันกล้ารับประกัน!"

คำพูดนี้ ทำให้หลินตงเย่วพูดไม่ออกทันที สีหน้าของเขาแดงขึ้น แต่ก็พูดอะไรไม่ออก

สวี่เหม่ยเย้นที่อยู่ข้างๆพูดว่า:"ตงเย่ว เขาไม่ยอมรับคุณเป็นลูกชายอีกแล้ว คุณจะไปทำตัวเป็นลูกกตัญญูทำไม? ทำอย่างนี้ให้คนอื่นดูถูกชัดๆ ไปกันเถอะ พวกเราเดินไปข้างหน้า เขาจะเป็นหรือตายก็ไม่เกี่ยวอะไรกับเรา"

"ได้!"หลินตงเย่วรู้สึกโกรธเล็กน้อย เขารู้สึกว่าหลินซื่อเฉิงปกป้องหลินหยุนมากเกินไปแล้ว

"มีเรื่องอะไรเหรอ?"ในขณะที่หลินตงเย่วกำลังจะเดินจากไป มีเสียงเย็นชาหนึ่งดังขึ้น

เยนหนานเทียนที่ใส่เสื้อผ้าสีขาวได้ยินเสียงโวยวาย เขาก็เลยเดินกลับมาดู

หลินซื่อเฉิงมองเยนหนานเทียนและพูดด้วยสีหน้าเย่อหยิ่งว่า:"เดินไม่ไหวแล้ว ไม่อยากเดินแล้ว ถ้าจะฆ่าก็ฆ่าฉันตรงนี้เลย!"

"มันมากเกินไปแล้ว!"

"คนๆนี้มีจิตใจอำมหิต เหมือนอสรพิษร้าย"หลินตงหัวโกรธมากๆและกำหมัดไว้แน่น แน่นจนเล็บแทงเข้าไปในผิวหนัง และก็มีเลือดไหลออกมาตามนิ้วมือและหยดลงพื้น

หวางซูเฟินพูดปลอบใจ:"อดทนไว้ ถ้ากล้าหาเรื่องตอนนี้ จะทำให้ตัวเองและคนอื่นๆต้องเดือดร้อน"

"เชื่อฉัน รัฐบาลจีนคงไม่ปล่อยให้เขาทำตามอำเภอใจอย่างแน่นอน"

"ตอนนี้พวกเราไม่ควรหาเรื่อง"

เดินไปข้างหน้าอีกสักพัก ผู้อาวุโสทั้งห้าก็ไม่มีแรงที่จะเดินแล้วจริงๆ

มีหลายครั้งที่หลินตงหัวจะไปพยุงนายท่าน แต่ก็โดนเยนหนานเทียนเอาชีวิตของคนอื่นมาข่มขู่ เขาก็เลยต้องจำใจต้องจากไป

และผู้อาวุโสห้าคนของตระกูลหลินก็ไม่กล้าหยุดเดิน ในที่สุดพวกเขาเลือกที่จะคลานไปข้างหน้า

หลินตงหัวเงยหน้าและถอนหายใจ:"พ่อได้รับความอัปยศขนาดนี้ คนที่เป็นลูกจะทนดูได้ยังไง?"

เมื่อพูดจบ เขาก็เลือกที่คลานไปข้างหน้าพร้อมกับอาวุโสห้าคนของตระกูลหลิน

คนอื่นๆในตระกูลหลินก็ทำตามเหมือนกัน

ทางขึ้นภูเขาอันคดเคี้ยว กลับปรากฏภาพที่น่าประหลาดใจมากๆ

คนของตระกูลหลินนับร้อย ทั้งหมดคลานขึ้นภูเขา ภาพนั้นมันน่าทึ่งมากๆ

ห่างออกไปไม่ไกล มีสมาชิกหลายคนของหน่วยมังกรมองเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น ต่างก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า

หลงสืออีพูดด้วยความโมโห:"เทพกระบี่บ้าบออะไร!เป็นคนที่โหดเหี้ยมอำมหิตขนาดนี้ ถึงแม้จะมีพลังที่แข็งแกร่ง ก็คงเป็นคนที่ก่อให้เกิดความหายนะอย่างแน่นอน!"

"เขาไม่คู่ควรกับฉายาเทพกระบี่!"

หลงสือสานอดไม่ได้ที่จะถอนหายใจ:"อัปยศอดสู มันเป็นความอัปยศอดสู!"

"แต่เรื่องที่เกิดขึ้นกับตระกูลหลินในครั้งนี้ สามารถเห็นได้อย่างชัดเจนว่าใครภักดีต่อตระกูลหลิน ใครทรยศต่อตระกูลหลิน ในใจของอาวุโสก็คงมองออกอย่างชัดเจน"

"ถ้าตระกูลหลินผ่านพ้นวิกฤตครั้งนี้ไปได้ มันก็คงเป็นเรื่องดีอย่างแน่นอน!"

หลงสือลิวพูดด้วยความโกรธ:"ถุย ดียังไง! ด้วยนิสัยของปรมาจารย์หลิน ถ้าเขากลับมาและเห็นสิ่งที่เกิดขึ้น เขาต้องอาละวาดครั้งใหญ่อย่างแน่นอน!"

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์