“จิตจิตกระบี่เหมันต์สุดสุด!”
ความหนาวเหน็บถึงขีดสุดปกคลุมทั้งยอดเขาไว้
ท่ามกลางฟ้าดินผืนนี้ จู่ๆก็มีหิมะโปรยปรายลงมา
หมอกสีขาวขุ่นครอบคลุมเยนหนานเทียนไว้ทั้งตัว
หลังจากเข้าสู่แดนเทพแล้ว จิตกระบี่เหมันต์สุดของเยนหนานเทียนเป็นท่าที่พลังเพิ่มพูนมากที่สุด
ยังไงซะจิตกระบี่เหมันต์สุดก็เป็นการแสดงออกถึงเส้นทางต้าเต๋า ยิ่งเยนหนานเทียนตื่นรู้ในกฎเกณฑ์ของฟ้าดินนี้มากแค่ไหน จิตกระบี่เหมันต์สุดก็ยิ่งแสดงพลานุภาพได้มากเท่านั้น
เยนหนานเทียนที่ใช้ท่าจิตกระบี่เหมันต์สุด ใส่พลังของเส้นทางต้าเต๋าทุกครั้งที่โจมตี
หลินหยุนทำการคำนวณในใจอย่างรวดเร็ว ว่าจะทลายการจู่โจมของเยนหนานเทียนอย่างไรให้สูญเสียน้อยที่สุด
“เก้ากระบี่ต้าเต๋าผลาญพลังงานมากเกินไป ยังไม่ใช่เวลาแสดง ต้องใช้สิบแปดท่าต้าเต๋ารับมือไปก่อน”
ทว่า เมื่อเทียบกันแล้ว การตอบโต้ของหลินหยุนอ่อนกว่าการจู่โจมของเยนหนานเทียนเยอะ
คราวนี้ กลายเป็นหลินหยุนที่โดนกระหน่ำอัดอยู่ฝ่ายเดียวและร่วงลงมากระแทกพื้น
การจู่โจ่มอันรุนแรงนี้เหลาจนหินรอบข้างทู่กันหมด
เยนหนานเทียนมองหลินหยุนจากตำแหน่งเหนือกว่าและกล่าวเสียงเย็น “จบเท่านี้แหละ”
“วิชาฝังกระบี่!”
ระหว่างฟ้าดินมีจุดสีเงินปรากฏขึ้นอีกครั้ง
ไอกระบี่ดุดันกระจายไปทั่วมิติแห่งนี้
บรรดาคนธรรมดาตระกูลหลินเนื้อตัวสั่นเทา นึกหวาดผวาประหนึ่งวันสิ้นโลกกำลังจะมาถึง
แม้แต่สามคนนั้นจากเผ่ามังกรยังมีสีหน้าตื่นตระหนก
“นี่จะแข็งแกร่งเกินไปแล้ว การจู่โจมยังไม่ทันเป็นรูปร่างก็เล่นงานผู้คนจนเกิดความรู้สึกสิ้นหวังได้ ประหนึ่งฟ้าดินจะถล่ม”
จุดสีเงินขยายใหญ่ขึ้นตามลมอย่างรวดเร็ว กลายเป็นเงาสมมุติของกระบี่ยักษ์ ฟันลงไปที่หลินหยุนในหลุมอย่างแรง
ต่อให้เป็นรถถัง หากโดนกระบี่นี้เข้าไปก็แยกเป็นสองท่อนได้
“ตอนนี้แหละ”
หลินหยุนในหลุมมีสีหน้าเรียบเฉย ทันใดนั้นเขาก็ก้าวออกมาหนึ่งก้าว ราวกับมีบันไดหินที่มองไม่เห็นอยู่กลางอากาศ
อิทธิฤทธิ์สวรรค์ชั้นเก้าถูกใช้อีกครั้ง ทุกก้าวที่ย่างขึ้นไป ผมของหลินหยุนจะยาวขึ้นหนึ่งนิ้ว ตัวสูงขึ้นหนึ่งจั้ง
เมื่อก้าวออกไปเก้าครั้ง เปรียบเสมือนขึ้นไปถึงสวรรค์ชั้นเก้า ผมขาวของหลินหยุนพลิ้วไสวตามลมประหนึ่งเทพเซียนจุติ
“ข้ามีหนึ่งกระบี่ที่ทลายนภาได้”
เก้ากระบี่ต้าเต๋าทะลุสวรรค์ถูกนำมาใช้อีกครั้ง
เงาสมมุติของดาบยักษ์ปรากฏออกมาเช่นกัน ฟาดฟันไปหากระบี่ของเยนหนานเทียนจากด้านล่าง
หนึ่งเขียวหนึ่งเงิน ประหนึ่งมังกรยักษ์สองตัวที่มาประจบกัน
มังกรยักษ์สองตัวปะทะ เปรียบดั่งพระอาทิตย์ที่ตกลงมาฉับพลัน เกิดเป็นแสงจ้าเจิดจรัสแยงตา
ผู้คนในตระกูลหลินรีบยกมือขึ้นปิดตา แต่ก็ยังระคายเคืองกันหนัก จนหลายคนโหยหวนด้วยความกลัว
“นี่มันเกิดอะไรขึ้น ปรมาณูระเบิดหรอ”
หน่วยมังกรสามคนหลับตาลงเช่นกัน
“นี่มันจะแกร่งเกินไปแล้ว”
“เกินกว่าขีดจำกัดของมนุษย์ด้วยซ้ำ”
แต่เห็นได้ชัดว่ามังกรยักษ์สีเงินนั้นสู้มังกรยักษ์สีเขียวไม่ได้ ถูกมังกรยักษ์สีเขียวกลืนกินเข้าไป
ส่วนมังกรยักษ์สีเขียวยังไม่ลดความเร็ว มันอ้าปากกว้าง กลืนกินเยนหนานเทียนที่อยู่กลางอากาศไปด้วย
บูม
เยนหนานเทียนร่วงลงมาที่พื้น กระดูกหักทั้งตัว
แต่ ยังมีลมหายใจอยู่
นักบู๊แดนเทพแข็งแกร่งจริงๆ หลินหยุนแสดงอิทธิฤทธิ์สวรรค์ชั้นเก้าบวกกับดาบทะลุสวรรค์ยังไม่สามารถฆ่าเยนหนานเทียนได้ในทันที
“เป็นไป…..ได้ยังไง”
“ผมบรรลุถึงแดนเทพแล้วแท้ๆ ผมคือเทพเจ้าของฟ้าดินผืนนี้ ผมจะแพ้ได้ยังไง”
สีหน้าของเยนหนานเทียนเต็มไปด้วยความสงสัย
หลินหยุนจุติลงมาตรงหน้าเขา มองเขาด้วยสีหน้าเรียบนิ่ง “ฟ้าดินกว้างใหญ่ไพศาลขนาดไหน คุณเพิ่งจะเข้าถึงขอบๆของพลังกฎเกณฑ์ ทึกทักเอาเองได้ยังไงว่าควบคุมฟ้าดินได้”
“แต่ว่า พลังของคุณเพียงพอที่จะเป็นใหญ่ในโลกบู๊แล้ว”
“คุณตายตาหลับแล้ว”
พูดจบ หลินหยุนก็จิ้มนิ้วออกไป
เทพกระบี่แห่งยุคเยนหนานเทียน สิ้นชีวิต!
“ชนะแล้ว ในที่สุดก็ชนะแล้ว!” พอเห็นเยนหนานเทียนล้มลงช้าๆ หลินตงหัวก็หายใจออกยาวๆด้วยความโล่งอก ศึกครั้งนี้เกิดเรื่องพลิกผันขึ้นมากมายจริงๆ
หน่วยมังกรสามคนสบตากัน
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...