คฤหาสน์ประธานาธิบดีจีน
ตอนที่หลงอีรายงานนั้น ก็ยังคงมีความตื่นเต้นเล็กน้อย
“ท่านไม่ทราบหรอกว่า ตอนนั้นฉันเกือบที่จะออกมาขัดขวางเขาเอาไว้แล้ว! ”
“ฉันกลัวว่าเขาจะทะเลาะต่อสู้กับตระกูลหวางขึ้นในที่ตรงนั้นเลย! ”
ประธานาธิบดีจีนตั้งใจฟังอย่างสงบจนจบ ใบหน้าแสดงรอยยิ้มอย่างละเหี่ยใจ มองออกไปนอกหน้าต่าง และพูดขึ้นว่า: “ลำบากเขาแล้วจริง ๆ! ”
“หือ? ” คำพูดนี้ของท่านหมายความว่าอย่างไรกัน? หลงอีเกิดความสงสัยขึ้น คนที่ลำบากที่สุดไม่ใช่เขาหรอกเหรอ?
ประธานาธิบดีจีนยิ้มและพูดว่า: “เขาได้ทำการตกลงไว้กับตระกูลหวางเป็นเวลาหนึ่งปี โดยตลอดปีนี้ โลกบู๊โบราณทั้งหมดจะไม่ปรากฏตัวออกมาอีก”
“นายไปจัดเตรียมเถอะ หนึ่งปีหลังจากนี้ ในตอนที่หลินหยุนไปยังตระกูลหวางนั้น ซึ่งก็คือวันที่โลกบู๊โบราณทั้งหมดจะออกมาปรากฏตัวอีกครั้ง”
“เขาได้พยายามช่วงชิงเวลาให้กับพวกเรา เพื่อเพียงพอที่จะให้เราได้เตรียมตัวแล้ว”
หลงอีจึงได้เข้าใจขึ้น
“เป็นเช่นนี้นี่เอง! ”
“ปรมาจารย์หลินผู้นี้ ช่างมีความคิดที่เจ้าเล่ห์ถึงขนาดนี้ มองไม่ออกเลยจริง ๆ! ” หลงอีพูดขึ้นแล้วก็ถอนหายใจ
“อย่างนั้นฉันจะไปจัดเตรียมเดี๋ยวนี้ และจะต้องแจ้งเรื่องนี้ให้กับท่านหงทราบด้วยไหม? ”
ประธานาธิบดีจีนพูดว่า: “เดี๋ยวฉันจะไปบอกกับท่านหงเอง! ”
“รับทราบ” หลงอีก็เดินจากไป
หลังจากที่หลงอีไปแล้ว ภายในห้องก็เหลือเพียงแค่ประธานาธิบดีจีนคนเดียว
ประธานาธิบดีจีนก็ค่อย ๆ เก็บรอยยิ้มขึ้น แล้วก็แทนที่ด้วยสีหน้าท่าทางเวทนาสงสาร
“เหลือเวลาเพียงแค่หนึ่งปี ประเทศจีน ก็จะเข้าสู่ช่วงที่มีการเปลี่ยนแปลงและวุ่นวายอีกครั้ง! ”
หลินหยุนเพิ่งกลับมาถึงคฤหาสน์เย่หยาหู จางซือจู่ก็โทรศัพท์มาหาทันที
ช่วงเวลานี้ เกิดเรื่องราวขึ้นมากมาย หลินหยุนเพิ่งนึกขึ้นได้ว่า นานแล้วที่ไม่ได้กลับไปเยี่ยมโรงเรียน
มีเพียงตอนที่อยู่กับจางซือจู่เพื่อนนักเรียนเหล่านี้เท่านั้น หลินหยุนถึงรู้สึกว่าตนเองเป็นวัยรุ่นที่กำลังศึกษาในมหาวิทยาลัย
โดยไม่ใช่เป็นผู้เฒ่าผู้แก่ที่ดำรงชีวิตมานานหลายร้อยปี มองทะลุความผันผวนของชีวิตมานักต่อนัก
เมื่อรับโทรศัพท์ หลินหยุนก็พูดขึ้นด้วยเสียงอันอ่อนโยน: “ไอ้หมอ มีอะไรเหรอ? ”
น้ำเสียงของจางซือจู่ ค่อนข้างจะเก้ ๆ กัง ๆ คาดว่าคงจะเป็นเพราะตกใจที่ครั้งก่อนหลินหยุนได้เปิดเผยสถานะว่าเป็นปรมาจารย์หลิน
“หลินหยุน นายมีเวลาว่างเมื่อไร มาหาที่โรงเรียนหน่อยสิ! ”
“พวกเรามีเรื่องที่ตัดสินใจไม่ได้ จึงอยากที่จะสอบถามนายหน่อย”
หลินหยุนพูดว่า: “ฉันจะไปหาเดี๋ยวนี้”
ครั้งนี้ที่กลับมา หลินหยุนเตรียมที่จะกลั่นยาทอง ซึ่งเมื่อเก็บตัวบำเพ็ญแล้ว อาจจะต้องใช้เวลานาน
ยังไงก็ควรที่จะจัดการเรื่องอื่น ๆ ให้เสร็จก่อนจะดีกว่า
ไม่นาน หลินหยุนก็มาถึงสถาบันภาพยนตร์และโทรทัศน์หลินโจว แล้วก็มาพบกับจางซือจู่และคนอื่น ๆ ที่หอพัก
เพื่อนนักเรียนแต่ละคนไม่มีอะไรเปลี่ยนแปลง เพียงแค่ตอนที่เห็นหลินหยุนนั้น เห็นได้ชัดว่าต่างก็มีท่าทางที่อ่อนน้อมถ่อมตน
“พวกนายเป็นอะไรกันไป ฉันน่ากลัวขนาดนั้นเลยเหรอ? ” หลินหยุนยิ้มและพูดขึ้น
กลับเป็นไอ้หินที่ระมัดระวังตัวที่สุด พูดขึ้นเป็นคนแรก: “ไม่ใช่ หลินหยุน นายลองคิดดูนะว่าเมื่อเพื่อนนักเรียนที่คุ้นเคยนั้น ได้เปลี่ยนไปเป็นยอดมนุษย์ อุลตราแมนหรือยอดมนุษย์ค้างคาว นายจะมีความรู้สึกอย่างไร? ”
คำพูดของไอ้หินนั้น ถือว่าได้ทำลายบรรยากาศอันน่าตึงเครียดลง
จางซือจู่กับคนอื่น ๆ ยิ้มและพูดว่า: “ไอ้หิน นายเปรียบเทียบได้เหมือนจริงเชียว! ”
“แม้ว่าหลินหยุนจะไม่ใช่อุลตราแมนหรือยอดมนุษย์ค้างคาว แต่ก็ไม่แตกต่างกันมากเท่าไร”
หลินหยุนได้แต่หัวเราะ ถ้าหากเป็นพลังบำเพ็ญฝึกฝนของเขาในชาติที่แล้ว อุลตราแมนหรือยอดมนุษย์ค้างคาวก็คงจะถูกหลินหยุนรุมทำร้ายแต่เพียงฝ่ายเดียว
หัวเราะเฮฮากันสักครู่ พวกเขาก็เริ่มพูดเข้าสู่เรื่องหลัก
จางซือจู่พูดขึ้นอย่างจริงจังว่า: “หลินหยุน ที่เรียกนายมาในครั้งนี้ ที่จริงเป็นเพราะอาจจะเกิดเรื่องขึ้นกับฉินโส่วแล้ว”
“เรื่องราวเป็นมาแบบนี้ เมื่อหนึ่งสัปดาห์ก่อน ฉินโส่วจากไปอย่างกะทันหันโดยที่ไม่ได้บอกกล่าว ไม่ได้พูดอะไรทิ้งไว้เลยแล้วก็จากไป”
หยางเทียนโย่วพูดเสริมต่อว่า: “เมื่อไปแล้ว จนถึงตอนนี้ ก็ยังไม่มีข่าวคราวอะไรเลยแม้แต่น้อย ซึ่งฉันได้โทรศัพท์ไปหาเขาแล้ว แต่โทรศัพท์ก็ปิดเครื่อง ส่งข้อความไปก็ไม่ตอบกลับ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...