เสียงหวอเตือนภัยที่แสบแก้วหู ก็ดังไปทั่วฐานทัพ
พนักงานที่อยู่ในฐานทัพพวกนั้น ต่างก็รีบหนีออกจากห้องมาอย่างรวดเร็ว
พวกเขาใช้ภาษาญี่ปุ่นพูดเสียงดังว่า “อุปกรณ์ทำลายตัวเองทำงานแล้ว เกิดเรื่องอะไรกันแน่!”
“ไปห้องควบคุมดูซิว่า ใครเป็นคนกดปุ่มระบบทำลายตัวเอง”
มองดูพนักงานที่ชุลมุนวุ่นวายพวกนี้ หลินหยุนก็ไม่ได้สนใจ พุ่งตรงไปอย่างรวดเร็ว ราวกับสายลมผัดผ่าน เพื่อไปยังตำแหน่งที่กักขังฉินหลันตามที่ตวงจิตต์รับรู้ได้
เขาจำเป็นจะต้องพาฉินหลันออกไปก่อนที่ฐานทัพจะทำลายล้างตัวเอง
ถึงแม้ว่าด้วยพลังความสามารถของเขาตอนนี้ ไม่แน่ว่าอาจจะสามารถต้านทานแรงระเบิดทำลายตัวเองของฐานทัพนี้ก็ได้
แต่ว่าหลินหยุนก็ไม่อยากจะเสี่ยงอันตราย เผื่อว่าตะกูลยามาโนะที่จิตใจวิปริต อาจจะวางระเบิดนิวเคลียร์ไว้ที่นี่ก็ไม่แน่?
สิ่งสำคัญที่สุดก็คือ หลินหยุนไม่สามารถจะเอาชีวิตฉินหลันมาเสี่ยงอันตรายด้วย
หลินหยุนเร่งสปีดอย่างเต็มที่ ชั่วอึดใจเดียว ก็มาถึงหน้าประตูห้องที่กักขังฉินหลันแล้ว
ห้องนั้นได้ถูกล็อกไว้แล้ว
ไม่พูดพร่ำทำเพลง ดาบเฮ่าเทียนพร้อมด้วยประกายแสงสีแดง ก็ฟาดลงไปตรงประตูห้องนั้นทันที
โป้ง!
ประตูห้องถูกฟันจนพังแล้ว ภายในห้องนั้น ฉินหลันนั่งอยู่บนเก้าอี้ตัวหนึ่ง ถูกเชือกมัดเอาไว้ทั้งตัว
ประตูห้องถูกถล่มจนพังลงมา ฉินหลันตกใจสะดุ้ง สีหน้าหวาดผวา
แต่เมื่อเห็นคนที่เข้ามาคือหลินหยุนแล้ว ทันใดนั้น สีหน้าที่หวาดผวาของฉินหลันก็เปลี่ยนเป็นดีใจขึ้นมาทันที
จากนั้นน้ำตาก็ไหลนองเต็มหน้า
หลินหยุนเดินเข้ามาข้างกายฉินหลัน แล้วดึงผ้ากาวที่ปิดปากฉินหลันนั้นออก พูดด้วยสีหน้าปวดร้าวใจว่า “พี่ฉินหลัน ขอโทษด้วย ผมมาช้าไป”
ฉินหลันโผเข้าไปกอดหลินหยุนเอาไว้ ซุกลงตรงหน้าอกหลินหยุน แล้วร้องไห้โฮออกมา
ถึงแม้ว่าฉินหลันจะเป็นสาวมั่นเข้มแข็งเช่นนั้นก็จริง แต่ยังไงก็ยังเป็นหญิงสาวธรรมดาทั่วไปคนหนึ่ง
เมื่อเผชิญกับเหตุการณ์ร้ายแรงอย่างกะทันหัน ก็แตกตื่นตกใจจนขวัญกระเจิงไปหมดแล้ว
ตอนนี้เมื่อเห็นหลินหยุนจู่ๆก็ปรากฏตัวขึ้นมาเช่นนี้ สำหรับฉินหลันแล้ว ก็เหมือนได้เห็นเทวดาจากสวรรค์ลงมาช่วยชีวิตเธอไว้อย่างไม่ต้องสงสัย
เมื่อได้สัมผัสกับเรือนร่างที่สั่นสะท้านของหญิงสาวในอ้อมกอดแล้ว แววตาของหลินหยุนก็เปล่งประกายรังสีอำมหิตออกมา
“ตระกูลยามาโนะ ฉันจะทำให้แกหายสาบสูญไปจากโลกนี้โดยสิ้นเชิง”
หลินหยุนกอดฉินหลันไว้ แล้วพูดด้วยน้ำเสียงอบอุ่นว่า “พี่ฉินหลัน อุปกรณ์ทำลายตัวเองของฐานทัพนี้เริ่มทำงานแล้ว พวกเราต้องรีบออกไปก่อนแล้วค่อยว่ากัน”
“คุณหลับตาไว้นะ เดี๋ยวผมจะพาคุณออกไปเอง”
ในเวลานี้ หลินหยุนเป็นคนเดียวที่ฉินหลันพึ่งพิงได้ หลินหยุนให้เธอทำอะไรเธอก็ทำตามทั้งนั้น
แต่ว่า เมื่อหลินหยุนอุ้มฉินหลันมาถึงหน้าประตูฐานทัพแล้ว กลับพบว่า ประตูใหญ่เดิมที่หลินหยุนเคยฟาดจนพังแล้วนั้น ถึงกับถูกแผ่นเหล็กสีเทาใหญ่มหึมาปิดกั้นไว้อีกชั้นหนึ่งแล้ว
“นี่น่าจะคล้ายกับโครงสร้างแบบหินปลิดชีพมังกร ในสุสานโบราณของประเทศจีน”
“หินปลิดชีพมังกรพวกนี้ ทำเพื่อป้องกันพวกโจรปล้นสุสานที่เข้าไปในสุสานโบราณแล้วไปสัมผัสกลไกจนไม่สามารถออกมาได้ จนต้องถูกเครื่องยนต์กลไกภายในนั้นฆ่าตายไป”
ส่วนการออกแบบภายในฐานทัพตระกูลยามาโนะนั้น แรงบันดาลใจในการออกแบบก็เกิดมาจากหินปลิดชีพมังกรภายในสุสานโบราณชาวจีนนั่นเอง
เมื่อรู้สึกว่าหลินหยุนหยุดเดินต่อไปแล้ว ฉินหลันจึงลืมตาขึ้นมา เมื่อได้เห็นฉากนี้แล้ว จึงถามด้วยความกังวลว่า “ทำยังไงดีล่ะ? ประตูถูกปิดตายไว้แล้ว”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “หลับตาลงก่อน”
“อึม” ฉินหลันก็หลับตาตามที่บอก
โป้ง!
ดาบเฮ่าเทียนส่องประกายแสงสีแดงสว่างจ้า ฟันลงไปบนประตูบานใหญ่นั้นหนึ่งที
แต่ว่า หลังจากที่ประกายไฟที่แสบตาจางหายไปแล้ว ประตูก็ยังคงสภาพเหมือนเดิมไม่ได้รับความเสียหายใดๆเลย
ภายในห้องควบคุมนั้น มาซาเตะ ยามาโนะนั่งอยู่บนเก้าอี้รถเข็นแล้วแสยะยิ้ม: “ปรมาจารย์หลิน ประตูบานนี้แข็งแกร่งกว่าประตูเดิมถึงสิบเท่า ผลิตจากหินอุกกาบาตที่มาจากนอกโลก แกเปิดไม่ออกแน่!”
“แกฆ่าลูกชายฉัน ทำลายตระกูลยามาโนะของฉัน งั้นแกก็อย่าคิดจะมีชีวิตรอดออกไปได้เลย”
หลินหยุนขมวดคิ้วเล็กน้อย ยืนอยู่ด้านหน้าประตู
“วัสดุที่ใช้ทำประตูนี้ แข็งแกร่งกว่าวัสดุที่ใช้ในประตูบานก่อนหน้านั้นมากเลย ดูไปแล้ว ถ้าจะแข็งขืนทำลายมัน ก็ค่อนข้างยากไปหน่อย”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...