จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 837

หงซานเหอโกรธจัด ทำตาถลนใส่ แทบอยากจะเข้าไปท้าดวลตัวต่อตัวกับหวางจิงหลง

“หวางจิงหลง คุณนี่หน้าไม่อายจริงๆเลย ถึงกับบิดพลิ้วกับหลานชายตัวเองได้!”

“คุณทำให้สี่ตระกูลใหญ่ต้องขายหน้าจนหมดสิ้นแล้ว!”

หวางจิงหลงสีหน้าเมินเฉย ก็ยังคงแสดงท่าทีผดุงคุณธรรมอย่างองอาจเช่นเดิม: “ฉันเพียงแต่ทำตามความประสงค์ของปวงชนชาวจีนทับหมื่นเท่านั้นเอง ไม่อยากให้พวกเขาต้องทนทุกข์ทรมานจากภัยสงครามอีกครั้ง!”

“เพื่อประชาชนชาวจีนนับหมื่นนับแสน ฉันยอมเสียสละความสัมพันธ์ทางสายเลือดเพื่อผดุงคุณธรรมอย่างไม่ลังเลเลยแม้แต่นิดเดียว!”

เจ้าบ้านอีกสามตระกูลใหญ่ที่ยืนอยู่ข้างหลัง ในใจก็แอบยกหัวแม่โป้งให้กับหวางจิงหลง คำพูดนี้พูดได้สวยงามมาก ฟังดูหรูหราน่าเชื่อถือ

อีกทั้งก็ยังทำให้ผู้คนไม่สามารถคัดค้านได้อีกด้วย

ไม่ได้ไปสนใจหงซานเหอที่แทบจะระเบิดอารมณ์ออกมา หวางจิงหลงก็พูดต่อไปอีกว่า: “ถ้าคุณไม่มีหลักฐานพิสูจน์ได้ว่า การกระทำที่ก่อความวุ่นวายของเขาในญี่ปุ่นไม่ได้ทำลายความสัมพันธ์ระหว่างประเทศทั้งสองละก็ งั้นก็ขอให้ท่านประธานาธิบดีจับคนบ้าระห่ำคนนี้ ส่งมอบให้กับทางการญี่ปุ่นจัดการให้เร็วที่สุดด้วย”

“เพื่อหลีกเลี่ยงไม่ให้ความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศถูกทำลาย มิหนำซ้ำยังอาจนำไปสู่สงครามได้อีกด้วย”

ทันใดนั้นหงซานเหอก็หัวเราะเสียงดังขึ้นมา: “ฮ่าๆๆ หวางจิงหลง คุณพูดได้น่าฟังมาก ทำเพื่อประชาชนชาวจีนทุกคน!”

“คุณพูดอ้างมาตลอดว่าทำตามความประสงค์ของปวงชนชาวจีนนับหมื่น งั้นวันนี้ฉันก็จะให้คุณได้เห็นชัดเจนว่า ความประสงค์ที่แท้จริงของปวงชนชาวจีนเป็นยังไง!”

พอพูดจบ หงซานเหอก็ตะโกนออกไปข้างนอกว่า: “เลขาหวาง เข้ามาหน่อย!”

ชายหนุ่มที่รูปร่างสูงใหญ่ ท่าทางทะมัดทะแมง ก็รีบวิ่งเข้ามาทันที

“นายพลหงครับผม!”

ชายหนุ่มยืนตรง ทำความเคารพ กล่าวคำทักทายด้วยเสียงที่ดังก้องกังวาน

หงซานเหอพูดว่า “คุณไปเอาคลิปวิดีโอที่ฉันได้ถ่ายเก็บรวบรวมไว้พวกนั้น มาเปิดให้ผู้อาวุโสใหญ่ของคณะรัฐมนตรีชมหน่อยสิ!”

“ครับผม!”

เลขาหวางก็ไปเปิดโปรเจ๊กเตอร์อย่างรวดเร็ว แล้วเริ่มคลิปวิดีโอที่หงซานเหอได้ถ่ายเก็บรวบรวมไว้

ตั้งแต่ที่หลินหยุนเข้าไปอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่นแล้ว ตอนที่ประธานาธิบดีโทรศัพท์แจ้งข่าวให้หงซานเหอได้รับรู้นั้น หงซานเหอก็ได้ส่งคนไปติดตามข่าวเพื่อเตรียมถ่ายคลิปวิดีโอพวกนี้ไว้แล้ว

ตอนนี้ ได้ใช้มันจริงๆแล้ว

คลิปวิดีโอแรก เป็นชายชราอายุ 60 กว่าที่กำลังทำงานอยู่ในท้องนา

บนจอภาพนั้น เห็นแต่ไมโครโฟน แต่มองไม่เห็นคนที่สัมภาษณ์ ได้ยินแต่เสียงเท่านั้น

“คุณลุงครับ ผมเป็นนักข่าวทีวีจีน ผมรบกวนเวลาของลุงไม่กี่นาทีได้ไหมครับ?”

ชายชราก็หยิบเอาผ้าเช็ดหน้าออกมาเช็ดเหงื่อ เงยหน้าขึ้น แล้วยิ้มด้วยรอยยิ้มที่ใสซื่อ พูดด้วยสำเนียงบ้านๆว่า “ได้สิ!”

นักข่าวถามว่า “ถ้าหากพวกเราต้องสู้รบกับประเทศญี่ปุ่นอีกครั้ง ลุงจะสนับสนุนหรือว่าจะคัดค้านครับ?”

สีหน้าท่าทางของชายชรา เปลี่ยนเป็นเคร่งขรึมขึ้นมาทันที หยิบบุหรี่หนึ่งมวนออกมาแล้วจุดให้กับตัวเอง จากนั้นก็ไม่พูดอะไรอยู่พักใหญ่

นักข่าวก็ยืนรอ ไม่ได้ซักถามอะไรต่อไป

รอจนชายชราสูบบุหรี่มวนนั้นจนหมด ดวงตาคู่นั้นก็เปี่ยมไปด้วยน้ำตา

“ฉันก็ต้องสนับสนุนอย่างแน่นอน พ่อของฉันก็ได้สละชีพในสงครามครั้งนั้นด้วย คนทั้งหมู่บ้านของฉัน ก็ถูกฆ่าตายจนหมดในสงครามครั้งนั้นด้วย”

“ถ้าจะสู้รบอีกครั้งละก็ ฉันจะต้องแก้แค้นให้กับพ่อแม่ของฉัน และยังมีพ่อแม่พี่น้องทั้งหมู่บ้านพวกนั้นด้วย!”

ชายชราพูดจบ มือทั้งสองข้างก็สั่นไปหมด

ประเทศจีนสงบสุขมานานแล้ว คนที่เคยเป็นหนุ่มสาวมาก่อนก็ได้แก่ชราลงไปตามกาลเวลาไปหมดแล้ว แต่ว่าเลือดร้อนในกายตอนนั้น กลับยังร้อนระอุไม่เคยมอดดับเช่นเดิม

ภายในคฤหาสน์สภาประเทศนั้น คนที่นั่งอยู่หน้าจอหลายคน ในใจก็รู้สึกสะเทือนใจ

นี่เป็นความแค้นฝังใจที่ไม่รู้ลืมขนาดไหนกันแน่ ผ่านไปตั้งหลายปีแล้ว ถึงกับยังคงรุนแรงได้ขนาดนี้

นักข่าวก็ถามชายชราว่า: “งั้นคุณลุง ถ้ามีคนไปประเทศญี่ปุ่น แล้วไปท้ารบกับพวกยอดฝีมือนักบู๊ของญี่ปุ่น ลุงคิดว่าทำเช่นนี้จะทำลายความสัมพันธ์ระหว่างสองประเทศหรือเปล่าครับ?”

ชายชราพูดด้วยสีหน้าตื่นเต้นว่า “ดี ดีเลย! คนที่ไปท้ารบคนนั้นเป็นใครกัน วีรบุรุษผู้กล้าชัดๆเลย!”

“เสียดายที่ฉันแก่แล้ว ไม่อย่างนั้นฉันก็จะไปเชียร์ให้กำลังใจผู้กล้าคนนั้นที่ญี่ปุ่นด้วย!”

จอภาพก็ตัดไปยังถนนในเมืองแห่งหนึ่ง สัมภาษณ์ชายหนุ่มหญิงสาวคู่หนึ่ง

นักข่าวก็ถามคำถามแบบเดียวกัน

ปฏิกิริยาของหนุ่มสาวทั้งสองคน ไม่ได้รุนแรงเหมือนชายชราคนนั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์