จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 845

หลินหยุนก็เดินไปยังหุบเขาเพียงลำพังคนเดียวต่อไป

รอบๆบริเวณนั้นก็สามารถเห็นนักบู๊คนอื่นๆอยู่ตลอดเวลา

แต่ว่า สถานการณ์ตอนนี้ก็ไม่เหมือนกับตอนอยู่ข้างนอกเขาแล้ว

นักบู๊ส่วนใหญ่แล้ว ต่างก็รวมกลุ่มกันเป็นทีม มีตั้งแต่ทีมละสองคนจนกระทั่งถึงสิบคนขึ้นไปก็มีเช่นกัน

เดิมทีเด็กสาวเย่อหยิ่งที่ชวนให้หลินหยุนร่วมทีมไปด้วยนั้น หลินหยุนก็ได้ทิ้งระยะห่างออกไปมากแล้ว

หลินหยุนมองดูตำแหน่งที่อยู่ด้านหน้า มีจำนวนผู้คนไม่น้อยที่หยุดเดินต่อไป ดูเหมือนว่าได้พบกับอุปสรรคบางอย่างแล้ว

หลินหยุนก็รีบเดินเข้าไปข้างหน้า เพิ่งจะเริ่มเข้าใกล้กับคนพวกนั้น ก็รู้สึกอุณหภูมิสูงขึ้นมากอย่างกะทันหัน

เมื่อมาถึงข้างหลังของคนพวกนั้นแล้ว ก็มีคลื่นความร้อนพุ่งเข้ามาปะทะบนใบหน้า

ด้านหน้านั้นเป็นพื้นที่ที่เป็นแอ่งกระทะ พื้นผิวราบเรียบมาก ก็ไม่มีสัตว์ประหลาดอะไรมาขวางทางเลย

แต่ว่า พื้นที่ที่เป็นแอ่งกระทะนั้นมีอุณหภูมิความร้อนที่สูงมากจนน่าตกใจ

เมื่อครู่ก็มีนักบู๊หลายคนที่ไม่รู้ตื้นลึกหนาบาง จึงได้กระโดดลงไปในแอ่งกระทะนั้น เสื้อผ้าบนตัวก็ถูกไฟไหม้ทันที ได้แต่ตะโกนร้องโวยวายหนีตายกันอย่างทุลักทุเล

ชายหนุ่มนักบู๊คนหนึ่ง พูดด้วยความสงสัยว่า “แปลกจังเลย เมื่อก่อนฉันก็เคยมาที่นี่แล้ว ก็ไม่เห็นพบสถานการณ์แบบนี้เลย นี่เกิดอะไรขึ้นกันแน่?”

นักบู๊อีกคนหนึ่งจู่ๆก็ถามด้วยความตกใจว่า “ที่นี่คงไม่ใช่เป็นภูเขาไฟหรอกนะ? ตอนนี้ภูเขาไฟจวนจะระเบิดแล้ว!”

เมื่อพูดเช่นนี้ ทุกคนต่างก็ถอยห่างออกไปหลายก้าวพร้อมกัน

ถ้าที่นี่เป็นภูเขาไฟลูกหนึ่งจริงๆละก็ งั้นก็อธิบายได้ง่ายขึ้น

แต่ถ้าที่นี่เป็นภูเขาไฟจริงๆละก็ ถ้าเกิดระเบิดขึ้นมา งั้นเกรงว่าพวกเขาก็คงหนีไม่รอดแม้แต่คนเดียว

“รีบหนีเร็ว ยังจะหายาวิเศษอะไรอีกล่ะ! หนีเอาชีวิตรอดสำคัญกว่า!”

มีบางคนหันหลังแล้วก็รีบวิ่งหนีกลับไป

แต่ว่า ผู้คนส่วนใหญ่ก็ไม่ขยับเขยื้อน เพราะว่าคนที่พอมีความรู้บ้างเล็กน้อย ก็พอจะเข้าใจได้ว่า เป็นไปไม่ได้ที่จะเกิดภูเขาไฟระเบิดตรงตำแหน่งนี้ได้

หลินหยุนยืนอยู่ด้านข้าง คอยสังเกตพื้นที่แอ่งกระทะแห่งนี้

“ถ้าฉันเดาไม่ผิดละก็ ที่นี่น่าจะเป็นสถานที่ที่มังกรคบเพลิงเคยอาศัยพักพิงอยู่ และก็เป็นสัญญาณที่หญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงจวนจะสุกงอมแล้วด้วย”

ตามตำราพงศาวดารต้าเต๋าได้บันทึกไว้ว่า ในขณะที่หญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงกำลังจะสุกงอมนั้น เพลิงไฟใต้ดินจะสูงขึ้นสามเมตร บริเวณรอบๆจะไม่มีต้นหญ้าขึ้นเลย

ตอนนี้ถึงแม้ว่าพื้นที่แอ่งกระทะผืนนี้มีอุณหภูมิสูงขึ้นก็จริง แต่ว่าเพลิงไฟใต้ดินยังไม่โผล่ออกมาจากพื้นผิวดินเลย ดูไปแล้วน่าจะต้องใช้เวลาอีกระยะหนึ่งกว่าที่หญ้าเผาจิตจะสุกงอมแล้ว

ดังนั้น ที่นี่ไม่ใช่ภูเขาไฟอะไรอย่างแน่นอน

ในเวลาที่เอง มีชายชราคนหนึ่งพูดขึ้นอย่างกะทันหันว่า “ปรากฏการณ์ธรรมชาติแปรปรวน! นี่ก็คือการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแปรปรวน!”

“เมื่อก่อนตอนที่ฉันมาเขาชื่อเสียลูกนี้ ก็ไม่เคยพบเจอสถานการณ์เช่นนี้มาก่อนเลย นี่แสดงว่าอะไร นี่แสดงว่ายาวิเศษกำลังจะกำเนิดขึ้นแล้ว!”

หลินหยุนอดไม่ได้ที่มองไปยังชายชราคนนั้น คิดไม่ถึงว่าในจำนวนนักบู๊นั้น ถึงกับยังมีคนที่มีความรู้กว้างขวางเช่นนี้อยู่อีกด้วย

นักบู๊วัยกลางคนอีกคนหนึ่ง ก็พูดว่า “ฉันก็เคยได้ยินผู้เฒ่าในสำนักพูดไว้เหมือนกัน ตราบใดที่จะมีของวิเศษเกิดขึ้น ก็จะต้องเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แปลกประหลาดขึ้นควบคู่ไปด้วย คิดว่าการที่พื้นดินมีอุณหภูมิสูงขึ้นเช่นนี้ ก็คือการเกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแปรปรวนอย่างหนึ่งนั่นเอง!”

“หรือว่าที่นี่จะมียาวิเศษจริงๆ!”

เดิมทีนักบู๊ที่คิดจะเลิกล้มความตั้งใจไปแล้วนั้น เมื่อได้ยินคำพูดนี้ ก็ตื่นเต้นขึ้นมาทันที

“แต่ว่า พื้นที่แอ่งกระทะนี้ร้อนขนาดนี้ พวกเราจะข้ามไปได้ยังไงล่ะ?” มีคนขมวดคิ้วแล้วถามด้วยความสงสัย ถ้าไม่สามารถผ่านพื้นที่แอ่งกระทะนี้ไปได้ละก็ ต่อให้มียาวิเศษก็ไม่สามารถไปเอามาได้

“นั่นน่ะสิ แล้วพวกเราจะข้ามไปได้ยังไงล่ะ?” ในใจทุกคนต่างก็ถามคำถามนี้เช่นกัน

ในเวลานี้เอง ชายชราคนนั้นก็พูดอีกว่า “ทุกคนอย่าเพิ่งร้อนใจไปเลย ตราบใดที่เกิดปรากฏการณ์ธรรมชาติแปรปรวนก็ไม่ใช่ว่าจะอยู่ได้ตลอดไป อีกประเดี๋ยวก็จะหายสาบสูญไปเอง”

“รอให้ปรากฏการณ์ธรรมชาติที่แปลกประหลาดจางหายไปก่อน ยาวิเศษนั้นก็จะต้องสุกงอมอย่างเต็มที่แล้ว”

“ถ้าหากเป็นจริงอย่างที่คุณพูดละก็ งั้นก็ดีที่สุดเลย!” นักบู๊วัยกลางคนที่มีสีหน้าเรียบเฉยคนหนึ่ง พูดด้วยน้ำเสียงเย็นชา

หลินหยุนก็อดไม่ได้ที่มองไปยังชายชราคนนั้นแวบเดียว ชายชราคนนี้ก็แค่มีพลังฝึกฝนในแดนพรสวรรค์เท่านั้นเอง แต่ว่าชายชราคนนี้กลับมีความรู้มากเลยทีเดียว

อีกทั้งคำพูดที่เขาพูดมาเมื่อครู่ก็ถูกต้องทั้งหมดด้วย

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์