หลินหยุนเก็บตัวฝึกพลังบู๊และฟื้นฟูอาการบาดเจ็บ
ซูจื่อเหลียงเดินทางไปที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปในมณฑลจงโจว เขาทำตัวเหมือนเมื่อก่อนเลย ค่อยปกป้องหวางซูเฟินกับฉินหลันอย่างลับๆ
ครั้งนี้หลินหยุนได้รับบาดเจ็บสาหัส ผ่านไปสี่สิบห้าวัน ก็ยังไม่มีข่าวคราวของเขาเลย
ในช่วงเวลาหนึ่งเดือนครึ่งนี้ ซูจื่อเหลียงได้เห็นกับตาถึงความแข็งแกร่งของตระกูลหวาง
แน่นอน เขาก็เห็นถึงความอัจฉริยะด้านธุรกิจของหวางซูเฟินด้วย
ครั้งนี้ตระกูลหวางพยายามอย่างเต็มที่และใช้กำลังทั้งหมดของตัวเองในด้านธุรกิจ โจมตีและกวาดล้างบริษัทตงหวางกรุ๊ป
บริษัทตงหวางกรุ๊ปได้รับความช่วยเหลือจากหลินหยุน ทำให้ธุรกิจของพวกเขาได้พัฒนาดีขึ้นเรื่อยๆและเติบโตขึ้นเรื่อยๆ
แต่เมื่อเทียบกับตระกูลหวาง พวกเขายังถือว่าห่างไกลกันมาก
บริษัทตงหวางกรุ๊ปยืนหยัดต่อสู้มาได้หนึ่งเดือนครึ่งแล้ว ในที่สุดบริษัทตงหวางกรุ๊ปก็โดนตระกูลหวางบีบบังคับจนไม่มีทางรอด
ในฐานะผู้นำของสี่ตระกูลผู้มั่งคั่งที่สุด ความแข็งแกร่งของตระกูลหวางนั้นน่ากลัวมากๆ
เช่นเดียวกับตอนแรกที่รับมือการโจมตีด้านธุรกิจของตระกูลหวาง หวางซูเฟินเคยพูดกับฉินหลันประโยคหนึ่ง:พวกเราต่อสู้กับตระกูลหวาง อย่าคาดหวังว่าจะได้รับชัยชนะ ขอแค่ยืนหยัดต่อสู้ได้มากขึ้นสองสามวัน ไม่พ่ายแพ้อย่างน่าอับอายก็พอแล้ว
หวางซูเฟินเป็นลูกหลานสายตรงของตระกูลหวาง เธอรู้ดีว่าตระกูลหวางนั้นแข็งแกร่งแค่ไหน
และยังไม่รวมถึงคนที่ค่อยสนับสนุนตระกูลหวางอยู่เบื้องหลังด้วย
อย่างไรก็ตาม มีเพียงบริษัทตงหวางกรุ๊ปที่มีความแข็งแกร่งแบบนี้ ถึงสามารถรับมือการโจมตีอันแข็งแกร่งของตระกูลหวางและยืนหยัดได้หนึ่งเดือนครึ่ง
ถ้าเปลี่ยนเป็นบริษัทอื่นๆ แม้แต่ตระกูลอีของเจียงหนาน เมื่อต้องเผชิญหน้ากับการโจมตีอันแข็งแกร่งขนาดนี้ของตระกูลหวาง พวกเขาก็คงรับมือและยืนหยัดได้เพียงแค่ครึ่งเดือนเท่านั้น
ในระยะเวลาสี่สิบห้าวันที่ผ่านมา ตระกูลหวางได้ใช้วิธีต่างๆทางด้านธุรกิจมาบีบบังคับและโจมตี พวกเขาไม่ได้ใช้กำลังในการโจมตีหรือแผนชั่วอะไรเลย
หวางซูเฟินก็รับมือได้อย่างถูกวิธี เธอยังเคยต่อกรกับหวางเซิ่งเฉียนและสู้กันได้อย่างสูสี
เพียงแต่ตระกูลหวางแข็งแกร่งมากจนเกินไป ในธุรกิจทุกๆด้าน ตระกูลหวางก็ได้เปรียบและสามารถเอาชนะบริษัทตงหวางกรุ๊ปได้อย่างง่ายดาย
ถึงแม้หวางซูเฟินจะเป็นอัจฉริยะด้านธุรกิจ แต่เมื่อต้องเผชิญกับศัตรูที่แข็งแกร่งกว่ามากๆ ทำให้เธอไม่สามารถใช้ความอัจฉริยะด้านธุรกิจของตัวเองเลย
ในขณะที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปเผชิญกับวิกฤต ซูจื่อเหลียงเคยคิดที่จะลงมือช่วย
แต่เขากลับโดนสมาชิกของหน่วยมังกรห้ามไว้
คำพูดของสมาชิกหน่วยมังกรที่พูดกับซูจื่อเหลียง เหมือนกับคำพูดที่หงซานเหอเคยเตือนหลินหยุนเลย
ถ้าตระกูลหวางไม่ใช้กำลังเข้ามาต่อสู้ คนของซูจื่อเหลียงก็ห้ามใช้กำลังเข้าต่อสู้เหมือนกัน
แน่นอน ถ้ามีเพียงสมาชิกของหน่วยมังกรเตือนซูจื่อเหลียง บางทีซูจื่อเหลียงอาจจะไม่ฟัง
แต่เมื่อหวางซูเฟินก็พูดคำพูดเหล่านี้ออกมา ซูจื่อเหลียงก็จำใจต้องฟัง
ซูจื่อเหลียงได้รับคำสั่งจากหลินหยุนให้มาปกป้องหวางซูเฟินกับฉินหลัน
ดังนั้นในสายตาของซูจื่อเหลียงมีเพียงหวางซูเฟินกับฉินหลันและบริษัทตงหวางกรุ๊ป
แต่หวางซูเฟินเป็นคนที่มองการณ์ไกล ถ้าซูจื่อเหลียงเป็นคนที่เริ่มใช้กำลังเข้าต่อสู้ก่อน ก็จะกลายเป็นข้ออ้างให้กับตระกูลหวาง
ถ้าทำอย่างนี้ไม่เพียงทำให้คนที่อยู่เบื้องหลังของตระกูลหวางมีข้ออ้างในการลงมือ และอาจจะทำให้ตระกูลหวางสามารถใช้อำนาจในรัฐบาลจีนเพื่อโจมตีหลินหยุนกับบริษัทตงหวางกรุ๊ปด้วย
คำพูดของหวางซูเฟินทำให้ซูจื่อเหลียงต้องเชื่อฟัง
ซูจื่อเหลียงต้องจำใจและคอยสังเกตการณ์ตระกูลหวางอยู่ตลอดเวลา ถ้าตระกูลหวางกล้าใช้กำลังในการต่อสู้ เขาก็จะสามารถลงมือได้อย่างเต็มที่
น่าเสียดายที่ตระกูลหวางไม่ให้โอกาสนี้กับซูจื่อเหลียง
เมื่อเห็นว่าบริษัทตงหวางกรุ๊ปโดนบีบบังคับจนไม่มีทางรอด ทำให้ซูจื่อเหลียงร้อนใจมากๆเหมือนมดที่อยู่บนเตาร้อนๆ
ในช่วงเวลาที่ผ่านมา ซูจื่อเหลียงกลับไปที่ตึกว่างเยว่ในเมืองหลินโจวหลายครั้ง เขาอยากบอกเรื่องที่บริษัทตงหวางกรุ๊ปเผชิญวิกฤตให้หลินหยุนรับรู้
แต่หลินหยุนเก็บตัวฝึกพลังบู๊ตลอด และด้านนอกห้องก็มีค่ายกลที่ทรงพลังคอยปกป้องอยู่ด้วย
โดยทั่วไปแล้ว ถ้าไม่ใช่ช่วงที่ฝึกพลังบู๊และสำคัญมากๆของหลินหยุนแล้ว หลินหยุนก็คงไม่สร้างค่ายกลที่ทรงพลังแบบนี้ออกมา
ดังนั้นซูจื่อเหลียงรู้ตัวดี การเก็บตัวฝึกพลังบู๊ของหลินหยุนในครั้งนี้ มันเป็นช่วงสำคัญมากๆในด้านการฝึกพลังบู๊ของหลินหยุนและห้ามรบกวนเขาเด็ดขาด
ดังนั้นซูจื่อเหลียงทำได้เพียงรีบกลับมาที่มณฑลจงโจวและคอยสังเกตตระกูลหวางตลอด เขาทำได้เพียงยืนดูตระกูลหวางค่อยๆกลืนกินธุรกิจของบริษัทตงหวางกรุ๊ปอย่างช้าๆและบีบบังคับจนบริษัทตงหวางกรุ๊ปไม่มีทางรอด
ในตอนเช้าของวันนี้ ตระกูลหวางเริ่มจัดงานฉลองความสำเร็จในคฤหาสน์ของพวกเขาในมณฑลจงโจว
หวางเซิ่งเฉียนจัดงานเลี้ยงฉลองด้วยท่าทางของผู้ชนะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...