จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ นิยาย บท 875

สรุปบท บทที่ 875 เยาะเย้ยกันเต็มที่: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์

ตอน บทที่ 875 เยาะเย้ยกันเต็มที่ จาก จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ – ความลับ ความรัก และการเปลี่ยนแปลง

บทที่ 875 เยาะเย้ยกันเต็มที่ คือตอนที่เปี่ยมด้วยอารมณ์และสาระในนิยายใช้ชีวิต จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์ ที่เขียนโดย จูผาซู่ เรื่องราวดำเนินสู่จุดสำคัญ ไม่ว่าจะเป็นการเปิดเผยใจตัวละคร การตัดสินใจที่ส่งผลต่ออนาคต หรือความลับที่ซ่อนมานาน เรียกได้ว่าเป็นตอนที่นักอ่านรอคอย

“ถึงขณะนี้แล้ว เธอยังคงจะดื้อดึงไม่ยอมรับผิดอยู่อีกเหรอ? ” หวางโส่วเหรินแสดงท่าทางวางมาด

ในฐานะที่ตนเป็นพี่ชาย

“เธอยังคิดจะดื้อรั้นไปอีกนานแค่ไหน? ”

“หลายปีมานี้ ที่ตระกูลหวางไม่ได้ตามกำจัดเธอจนหมดสิ้นหนหาง ถึงจนป่านนี้แล้วเธอยังไม่เข้าใจ

อีกเหรอ? ”

“ถ้าหากว่าพวกเราจะกำจัดเธอจริง ๆ สภาพของเธอในตอนนี้ จะสามารถยืนหยัดไปได้อีกนาน

แค่ไหนกัน? ”

หวางโส่วเหรินตำหนิติเตียนด้วยท่าทางแบบผู้อาวุโส

หวางซูเฟินยิ้มเยาะ: “หากพูดแบบนี้ ฉันยังจะต้องกล่าวขอบคุณที่หลายปีมานี้พวกคุณได้กระทำ

ทุกอย่างเพื่อบริษัท ตงหวาง กรุ๊ปด้วยใช่ไหม? ”

“ขอบคุณที่พวกคุณตระกูลหวางไม่ได้ตามกำจัดฉันจนถึงที่สุด! ขอบคุณพวกคุณตระกูลหวางที่มี

ความเมตตาต่อครอบครัวของพวกเราเสมอมา? ”

“ขอบคุณตระกูลหวางที่ในตอนนั้นได้นำลูกชายของฉัน ซึ่งเป็นหลานของเขาส่งตัวไปที่สถานเลี้ยง

เด็กกำพร้า ทำให้พวกเราแม่ลูกต้องแยกจากกันเป็นเวลาสิบกว่าปี! ”

“ขอบคุณพวกคุณตระกูลหวางที่หลายปีมานี้ได้เป็นแรงกำลังใจให้พวกเราเติบโตมาโดยตลอด โดยที่ไม่ได้ลดความสนใจลงเลยแม้เพียงชั่วครู่! ”

หวางซูเฟินยิ่งพูดยิ่งดังมากขึ้น ท่าทางก็ยิ่งตื่นเต้น โดยในทุกคำพูด น้ำเสียงของเธอก็เพิ่มระดับ

เสียงขึ้นทีละน้อย จนคำพูดสุดท้าย แทบจะใช้กำลังทั้งหมดตะโกนพูดออกมาเลย

หวางโส่วเหรินสีหน้ายังคงไม่เปลี่ยนแปลง แต่ว่า น้ำเสียงกลับอ่อนลงไปบ้าง

“น้องสาวสาม ไม่ว่าอย่างไร เธอก็คือคนของตระกูลหวาง ร่างกายของเธอมีสายเลือดของตระกูล

หวางอยู่! ”

“วันนี้คุณพ่อไม่อยู่ พี่ชายใหญ่ก็ไม่อยู่ พี่ชายเปรียบได้ดั่งพ่อ วันนี้ เธอฟังฉันสักคำ กลับไปกับฉัน อย่าได้ดื้อดึงไม่ยอมรับผิดอยู่อีกเลย! ”

ฉินหลันมองไปที่หวางซูเฟินอย่างเป็นกังวล เธอกลัวจริง ๆ ว่าหวางซูเฟินจะอดทนไม่ไหว แล้วตอบ

ตกลง

หวางซูเฟินยิ้มเยาะอย่างสิ้นหวัง และชายตามองไปที่หวางโส่วเหริน: “พี่สองต้องการให้ฉันกลับไป หมายความว่าคุณพ่อคิดที่จะยอมรับครอบครัวของพวกเราแล้วใช่หรือไม่? ”

หวางโส่วเหรินพูดขึ้นอย่างไร้อารมณ์ไร้ความรู้สึก: “ไม่มีทาง เธออย่าได้คิดเพ้อฝันไปเลย การที่ยอม

ให้เธอกลับไป พวกเราพี่น้องต่างก็ต้องรองรับความเสี่ยงมากแค่ไหนเธอเองก็คงจะรู้ดี ส่วนพ่อลูก

ตระกูลหลินนั้น อย่าได้แม้แต่จะคิด! ”

หวางซูเฟินน้ำตาคลอเบ้า เงยหน้าขึ้นและยิ้มอย่างขมขื่น โดยที่พยายามไม่ให้น้ำตาไหลออกมา

“หากพูดแบบนี้ พวกคุณก็คิดที่จะให้พวกเราแม่ลูก ต้องแยกจากกันอีกครั้ง! ”

หวางโส่วเหรินพูดเสริมขึ้นอย่างหน้าด้านว่า: “ไม่พบเจอกันตลอดไป! ”

หวางซูเฟินโมโหขึ้นทันที: “ที่ดื้อรั้นไม่ยอมรับผิดคือพวกคุณ! ”

“ฉันกับเสี่ยวหยุนต้องแยกจากกันสิบกว่าปีแล้ว ฉันรู้สึกผิดต่อเขามาก ฉันไม่ได้ทำหน้าที่ของแม่

อย่างเต็มที่ นี่คือความละอายใจของฉันตลอดชีวิต! ”

“ตอนนี้พวกเราแม่ลูกไม่ง่ายเลยที่จะได้พบเจอกันแล้ว แต่คุณคิดที่จะให้พวกเราต้องแยกจากกัน

อีกครั้ง และยังจะไม่ให้พบเจอกันตลอดชีวิต! ”

“พวกคุณฝันเพ้อเจ้อไปเถอะ! ”

“กลับไปบอกกับคนที่จิตใจโหดร้ายคนนั้นว่า ฉันหวางซูเฟินตัดขาดความสัมพันธ์กับเขาชั่วทั้งชีวิตนี้

ส่วนความสัมพันธ์พี่น้องระหว่างเรา ก็ได้จบสิ้นลงไปตั้งนานแล้ว! ”

“เขาต้องการหน้าตาและเกียรติของตระกูลหวาง จึงต้องการที่จะให้ฉันกลับไปยอมรับผิด บอกเขา

ไปนะว่า เลิกคิดไปได้เลย! ”

“มีแผนการความสามารถอะไร ก็โจมตีใส่มาที่ฉันได้เลย! ต่อให้ฉันต้องละทิ้งชีวิต ฉันก็จะไม่ยอม

ถอยร่นแม้แต่ก้าวเดียว! ”

หวางซูเฟินยืนตัวตรง สีหน้าท่าทางเด็ดเดี่ยว เหมือนกับนักรบที่พร้อมใจยอมเสียสละชีวิต

ฉินหลันแอบเช็ดน้ำตาอยู่ด้านหลัง หลายปีมานี้ หวางซูเฟินดำเนินชีวิต อย่างทุกข์ทรมานเพียงใด เธอเห็นสภาพการณ์ทั้งหมด และจดจำอยู่ในจิตใจ

ทุกสิ่งทุกอย่างนี้ ต่างเป็นเพราะคุณพ่อของเธอคนนั้นเป็นผู้กระทำขึ้น!

ในฐานะที่เป็นคนนอก ฉินหลันเองก็ยังเหลืออดเหลือทน

แต่ว่า คนของตระกูลหวางยังคงที่จะบีบบังคับ โดยที่ไม่เหลือช่องทางการดำเนินชีวิตให้กับ

หวางซูเฟินเลย

ผู้อาวุโสคนอื่นของบริษัท ตงหวาง กรุ๊ป เวลานี้ต่างก็มีน้ำตาคลอเบ้า พวกเขาส่วนใหญ่ต่างก็เป็น

ผู้อาวุโสที่ร่วมทุกข์ร่วมสุขกับหวางซูเฟินมาโดยตลอด ความทุกข์ยากลำบากของหวางซูเฟิน พวกเขาก็ชัดเจนเป็นอย่างดี

กรรมการคนหนึ่งอดไม่ได้จึงถอนหายใจและพูดขึ้นว่า:

ต้มถั่วเผาต้นถั่ว

ในอวยถั่วร้องไห้

เดิมนั้นร่วมรากไม้

แล้วไฉนเร่งเผาผลาญ

นี่คือกลอนบทหนึ่งที่เฉาจื๋อแต่งขึ้น ในยุคสมัยสามก๊ก

เฉาพีผู้ที่เป็นพี่ชายของเขา คิดต้องการที่จะทำร้ายเขา โดยได้บีบบังคับอย่างหนักจนทำให้เขา

ถึงอีก! ”

หวางซูเฟินกวาดสายตามองไปที่ผู้อาวุโสของตระกูลหวางเหล่านั้น และก็พูดขึ้นโดยพลันว่า: “ทุกท่าน พวกคุณทุกคนคือผู้อาวุโสของฉัน คนตระกูลหวางคนนั้นเป็นบ้าไปแล้ว ที่ปล่อยให้เด็ก

หนุ่มอย่างหวางเซิ่งเฉียนเป็นผู้ปกครองดูแลตระกูลหวาง ขอเตือนพวกคุณนะว่า ควรรีบเตรียมตัว

ออกมาให้เร็วที่สุดเถอะ! ”

หวางเซิ่งเฉียนไม่เห็นด้วย ยิ้มเยาะอย่างเหยียดหยามและพูดว่า: “บริษัท ตงหวาง กรุ๊ปของคุณ

เดินมาถึงทางตันแล้ว คุณยังคิดที่จะใช้แผนการยุยงให้แตกแยกอีก คุณคิดว่าจะได้ผลไหม? ”

หวางซูเฟินยิ้มเยาะ: “จะได้ผลหรือไม่ได้ผล ต่อไปก็จะรู้ได้เอง”

พวกผู้อาวุโสของตระกูลหวางเหล่านั้น ภายนอกทำเหมือนว่าไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ภายในใจกลับ

กำลังครุ่นคิดถึงคำพูดนั้นของหวางซูเฟิน

หวางซูเฟินเป็นถึงลูกสาวแท้ ๆ ของหวางจิงหลง ตอนนี้กลับต้องมาตกต่ำอยู่ในสภาพแบบนี้ แล้วพวกเขาล่ะ?

ความสัมพันธ์ระหว่างพวกเขากับหวางจิงหลง ไม่ได้ใกล้ชิดสนิทสนมเช่นเดียวกับหวางซูเฟินเลย!

ถ้าหากหวางจิงหลงมอบอำนาจการปกครองของตระกูลหวางให้กับเด็กหนุ่มอย่างหวางเซิ่งเฉียน

แล้วลงมือจัดการพวกเขาล่ะจะทำอย่างไร?

พวกเขาได้ทุ่มเทแรงกายแรงใจให้กับตระกูลหวางมาทั้งชีวิต สุดท้ายก็ไม่ได้อะไรตอบแทนกลับมา

แล้วพวกเขาจะยินยอมได้อย่างไร?

พวกคนเหล่านั้นที่หันมาพึ่งพิงต่อหวางเซิ่งเฉียน เมื่อได้ยินคำพูดของหวางซูเฟิน ที่มีความหมาย

เสียดสีเยาะเย้ยหวางเซิ่งเฉียน ก็ได้ทยอยว่ากล่าวตอบโต้กลับไป

“ประธานกรรมการหวาง ไม่ว่าอย่างไรคุณก็คือผู้อาวุโสของคุณชายหวาง ในฐานะที่เป็นผู้อาวุโส

ไม่คิดว่าจะใช้แผนการที่ชั่วร้ายแบบนี้กับเด็กได้ หรือว่าคุณไม่รู้สึกอับอายบ้างเลยหรืออย่างไร? ”

ประธานหยางที่เป็นผู้ใต้บัญชาคนหนึ่งของตระกูลหวางพูดเยาะเย้ยถากถางขึ้น

ประธานจางอีกคนที่อยู่ด้านข้าง ก็ได้ยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “ประธานกรรมการหวาง คุณชาย

หวางได้คิดหาวิธีการเพื่อช่วยเหลือคุณเลยนะ! ทั้ง ๆ ที่เขาสามารถจะบีบกดดันจนทำให้บริษัท

ตงหวาง กรุ๊ปของคุณไม่มีมูลค่าเลยก็ได้ แต่ตอนนี้เต็มใจที่จะจ่ายเงินเพื่อซื้อกิจการ คุณไม่เพียงแต่

จะไม่ขอบคุณแล้ว กลับยังจะเข้าใจผิดเขาอีก! ”

“คุณช่างไม่รู้จักสำนึกขอบคุณในน้ำใจและความหวังดีของคนอิ่นเลย! ”

ประธานที่ยังเป็นเด็กหนุ่มคนหนึ่ง ได้หัวเราะเยาะและพูดว่า: “คนแบบนี้ ที่ไม่กตัญญูต่อผู้อาวุโส

และไม่มีความเมตตาต่อเด็ก มิน่าล่ะถึงได้ถูกนายท่านขับไล่ออกจากตระกูล! ”

“ถูกต้อง ช่างสมน้ำหน้าเสียจริง! ”

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์