ชื่อเสียงของตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนัน แม้ว่าในช่วงสองปีมานี้จะตกต่ำลงไปไม่น้อย แต่ คำโบราณ
กล่าวเอาไว้ว่า แม้ว่าอูฐที่ผอมแห้งก็ยังตัวใหญ่กว่าม้า
ดังนั้น ต่อให้ในช่วงสองปีมานี้ตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันจะอยู่ในช่วงขาลงมาโดยตลอด แต่อิทธิพล
ในทั่วทั้งจีนนั้นยังคงยิ่งใหญ่เหมือนเช่นเคย
เพราะว่าความเป็นเศรษฐีอันดับหนึ่งคนก่อนของจีน พวกบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ ในขณะที่ยังเป็นวัยรุ่นต่างก็เคยได้รับอิทธิพลจากนายท่านเจี่ยงไม่มากก็น้อย
ถึงขนาดที่ว่า ในช่วงหลายสิบปีนั้น ไม่ว่านักธุรกิจคนใด ต่างก็ยึดถือนายท่านเจี่ยงไว้เป็นแบบอย่าง
แค่คิดก็ทราบแล้วว่า เมื่อตระกูลเจี่ยงแห่งเกาะหนันได้เข้าร่วมอยู่ภายใต้ชางฉองกรุ๊ป เหตุการณ์นี้
จะสร้างความตื่นตะลึงให้กับบุคคลผู้ยิ่งใหญ่เหล่านี้มากขนาดไหน!
แต่ว่า ไม่ทันรอให้ไป๋จ่านถังกับพ่อลูกตระกูลเหยียนและคนอื่น ๆ ตั้งสติขึ้นได้ พิธีกรก็ประกาศ
รายชื่อคนอื่นทีละคนทีละคนต่อไปเรื่อย ๆ
เสิ่นเหยียนผู้มีอิทธิพลอำนาจแห่งกว่างหนัน ตระกูลโล่แห่งเจียงหนาน......เป็นต้น!
พวกคนเหล่านี้ แต่ละคนต่างก็เป็นผู้มีอิทธิพลในพื้นที่ มีบางคนถึงขนาดที่ในบางเรื่อง ยังจะ
เหนือกว่าวงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่ตระกูลเสียอีก
อีกทั้งเมื่อพวกคนเหล่านี้รวมตัวกันขึ้น ก็เท่ากับว่าเป็นการรวมสุดยอดนักธุรกิจจีนเกินกว่าครึ่ง
ต้องให้วงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่รวมตัวกัน ถึงจะสามารถเทียบเคียงได้กับชางฉองกรุ๊ปในเวลานี้ ซึ่งหาก ลำพังแค่ตระกูลหวางเพียงตระกูลเดียวแล้วนั้น ถือว่ายังคงห่างไกลกันลิบลับ
มองเห็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ปรากฏตัวขึ้นทีละคนทีละคน พ่อลูกตระกูลเหยียนถึงกับพูดอะไรไม่ออก
อย่างที่สุด
ผ่านไปชั่วครู่ เหยียนเสวเหวินก็ชี้ไปบนเวทีด้วยความตื่นตะลึง: “คุณพ่อ ตระกูลฉิน คนตระกูลฉิน
ก็อยู่ด้านบนด้วย! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินสีหน้าหม่นหมอง: “ฉันเห็นแล้ว”
“ทำอย่างไรดี? คิดไม่ถึงว่าชางฉองกรุ๊ปจะสามารถรวมพลังอำนาจทางธุรกิจของจีนได้เกินกว่าครึ่ง ต่อให้ตระกูลหวางก็ไม่สามารถที่จะเทียบเคียงกับเขาได้! ”
“ตระกูลฉินมาพึ่งพิงชางฉองกรุ๊ปแล้ว พวกเรายังจะควบรวมกิจการของพวกเขาได้อย่างไรกันล่ะ! ” เหยียนเสวเหวินสีหน้าท่าทางไม่พอใจและโมโหเป็นอย่างมาก ก็เหมือนกับว่าสิ่งของใกล้ที่จะมาอยู่ ในครอบครองแล้ว แต่กลับต้องถูกช่วงชิงไปอย่างกระทันหัน
พ่อของเหยียนเสวเหวินพูดขึ้นด้วยสีหน้าหม่นหมอง: “ตอนนี้ที่พวกเราควรพิจารณาไม่ใช่ว่าจะ
ควบรวมกิจการของตระกูลฉินอย่างไรแล้ว แต่ว่าควรคิดที่จะหาทางรักษาปกป้องตัวพวกเราเอง
ไว้มากกว่า”
“ตระกูลหวาง ไม่มีทางที่จะเทียบเคียงกับชางฉองกรุ๊ปได้อย่างแน่นอน เมื่อตระกูลฉินหันมา
พึ่งพิงต่อชางฉองกรุ๊ปแล้ว พวกเราก็คงจะเป็นอันตรายอย่างแน่นอน! ”
เหยียนเสวเหวินตกใจ: “แล้วควรทำอย่างไรดี? หรือว่าพวกเราจะไปพึ่งพิงชางฉองกรุ๊ปด้วยล่ะ! แบบนี้ตอนที่พวกเราทำการแข่งขันกับตระกูลฉิน ชางฉองกรุ๊ปก็คงจะวางตัวเป็นกลาง! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินส่ายศีรษะ: “มันไม่ง่ายอย่างนั้นหรอก! หรือว่านายยังมองไม่ออกอย่างนั้น
เหรอ? ตอนนี้พวกคนที่อยู่บนเวที ชัดเจนว่าต่างก็เป็นแขกผู้มีเกียรติที่ชางฉองกรุ๊ปได้ตั้งใจเชิญมา
ร่วมงาน ถ้าหากฉันทายไม่ผิด พวกคนเหล่านี้คงจะรู้จักกับเจ้านายที่แท้จริงผู้อยู่เบื้องหลังของ
ชางฉองกรุ๊ปอย่างแน่นอน! ”
“ไม่อย่างนั้น ทำไมถึงไม่เชิญพวกเราล่ะ? แต่กลับเชิญตระกูลฉิน! ”
สายตาของเหยียนเสวเหวินแสดงออกถึงท่าทางที่สับสน พร้อมกับครุ่นคิดอย่างหนัก ทันใดนั้น เขาก็ตกใจขึ้น: “ท่านว่าเจ้านายเบื้องหลังของชางฉองกรุ๊ปนี้ ใช่ปรมาจารย์หลินหรือเปล่า! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินขมวดคิ้วและพูดว่า: “ก็อาจจะเป็นไปได้ ถ้าหากเป็นปรมาจารย์หลินจริง ๆ อย่างนั้นครั้งนี้พวกเราก็คงจะจบสิ้นกันแล้ว! ”
เหยียนเสวเหวินร้องไห้ฟูมฟายและพูดขึ้นว่า: “หวังว่าอย่าได้เป็นเขาเลย! ”
ไป๋จ่านถังและคนอื่น ๆ มองไปยังพวกผู้มีอิทธิพลวงการธุรกิจของจีนที่รวมตัวกันเกินกว่าครึ่งบนเวที ใบหน้า สายตา ไม่มีอาการอะไรนอกจากตื่นตะลึง
หน้าผากของเสิ่นหลินมีเหงื่อไหลออกมา: “นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน? นี่มันเป็นไปได้อย่างไรกัน! ”
หัวสมองของเสิ่นหลินช็อตลงไปดื้อ ๆ ได้เพียงแต่พูดคำเดิมซ้ำ ๆ ไปมาอย่างไม่หยุด
ประธานพานเองก็ไม่ได้ดีไปกว่าเขาสักเท่าไร ทั่วทั้งแผ่นหลังมีเหงื่อไหลออกมาจนเปียกโชกแล้ว
“เจ้านายเบื้องหลังของชางฉองกรุ๊ปนี้ ตกลงคือใครกันแน่? คิดไม่ถึงว่าจะมีอิทธิพลอำนาจมากมาย
ขนาดนี้! ”
“นี่คือผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจของจีนเกินกว่าครึ่ง นับจากนี้ต่อไป เมื่อกวาดสายตามองไปทั่วทั้งจีน
แล้วจะยังคงมีใครที่สามารถเทียบเคียงกับชางฉองกรุ๊ปได้อีกล่ะ? ”
“ไม่ใช่ คือเมื่อกวาดสายตามองไปทั่วโลกแล้ว ยังจะมีบริษัทไหนที่สามารถเทียบเคียงชางฉองกรุ๊ป
ได้อีก? ”
สีหน้าของไป๋จ่านถังในเวลานี้ ช่างดูย่ำแย่ยิ่งกว่าอะไร ขณะเดียวกัน สายตาของเขาก็แสดงออก
ถึงความตกตะลึงอย่างที่สุด
“ได้ฟังแล้วช่างน่าตื่นตระหนกยิ่งนัก! ”
“เดิมทีฉันยังคิดว่าคนนั้นเพียงแค่คุยโวโอ้อวด ลำพังแค่เขาคนเดียว จะสามารถทำให้พวกเรา
ประจักษ์กับการเกิดขึ้นของชางฉองกรุ๊ปที่ยิ่งใหญ่ได้อย่างไรกัน? ”
“ตอนนี้เห็นแล้วว่า เขาไม่ได้พูดโอ้อวดเกินเลย แต่กลับยังจะถ่อมตนอีกด้วย! ”
“ตอนนี้ดูเหมือนว่า ชางฉองกรุ๊ปไม่เพียงแค่ยิ่งใหญ่เท่านั้น! ยังจะยิ่งใหญ่เกินความคาดหมาย
อย่างสิ้นเชิง! ”
“ผู้มีอิทธิพลทางธุรกิจของจีนเกินกว่าครึ่ง ขอถามหน่อยว่ามีใครที่จะสามารถเทียบเคียงได้อีก! ”
“ตระกูลหวางไม่ได้แน่นอน บางทีมีเพียงแค่วงศ์ตระกูลใหญ่ทั้งสี่รวมตัวกัน จึงจะสามารถ
เทียบเคียงกับชางฉองกรุ๊ปได้! ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...