เสิ่นหลินพูดว่า: “ชางฉองกรุ๊ปได้เปิดตัวบุคคลผู้ยิ่งใหญ่ที่มีชื่อเสียงไปแล้วสองคน โดยคนต่อไป
จะเป็นใคร? ”
ไป๋จ่านถังยิ้มเยาะและพูดว่า: “ฉันคิดว่าพวกเขาคงจะหมดความสามารถที่มีอยู่เพียงน้อยนิดแล้ว คนต่อไป ชางฉองกรุ๊ปคงจะไม่เปิดตัวใครอีกแล้ว! ”
ไป๋จ่านถังก็ยังคงแสดงท่าทางที่มั่นอกมั่นใจเช่นเคย แต่ว่า พิธีกรก็ราวกับจงใจที่จะสร้างความ
ลำบากให้กับเขาเช่นกัน
ขณะที่ไป๋จ่านถังพูดจบลง พิธีกรก็ได้เอ่ยขึ้นว่า: “ขอเชิญคนต่อไป เจ้าบ้านตระกูลอีแห่งเจียงหนาน คุณอี! ”
อะไรนะ!
ทุกคนตกตะลึงกันอย่างพร้อมเพรียง!
ไป๋จ่านถังยิ่งมีสีหน้าที่ย่ำแย่อย่างที่สุด
“เป็นแบบนี้ไปได้อย่างไรกัน! นึกไม่ถึงว่าจะเป็นตระกูลอี! ”
“ไอ้แก่อีหยุ่นนั้นเป็นบ้าไปแล้วใช่ไหม? นึกไม่ถึงว่าจะเข้าร่วมกับชางฉองกรุ๊ปที่ไม่เคยได้ยิน
ชื่อเสียงมาก่อนด้วย! ”
“หรือว่าเพื่อต้องการที่จะต่อต้านกับฉัน เขาจึงต้องใช้ทุกวิถีทางแล้วอย่างนั้นเหรอ? ”
ไป๋จ่านถังรู้เพียงแค่ว่าตระกูลอีมีความใกล้ชิดกับปรมาจารย์หลิน แต่ไม่รู้ว่าชางฉองกรุ๊ปกับ
ปรมาจารย์หลินมีความสัมพันธ์อะไรต่อกัน
ถ้าหากเขาสามารถที่จะเปลี่ยนมุมมองแนวคิด ก็จะสามารถคาดเดาจากตระกูลอีและพวกคน
ที่อยู่ในสถานที่แห่งนี้ได้ว่า เจ้านายที่แท้จริงผู้อยู่เบื้องหลังของชางฉองกรุ๊ปคือใคร
แต่น่าเสียดายที่ ตอนนี้ความคิดของไป๋จ่านถังได้มาถึงทางตันแล้ว จิตใจคิดต้องการที่จะหา
หลักฐานเพียงอย่างเดียว เพื่อเปิดโปงกลอุบายเหล่านี้ของชางฉองกรุ๊ป
ในความจริงแล้ว ความคิดหลักตั้งแต่ต้นของเขาเองที่เป็นปัญหา โดยที่ไป๋จ่านถังคิดอยู่ตลอดว่า ชางฉองกรุ๊ปก็คือบริษัทต้มตุ๋นหลอกลวง
ซึ่งเป็นไปไม่ได้ที่จะมีบุคคลยิ่งใหญ่ขนาดนี้มาเข้าร่วมได้
ด้านบนเวที สายตาของอีหยุ่น ได้มองเห็นไป๋จ่านถังตั้งแต่แรกแล้ว
เขาได้แสดงรอยยิ้มที่ยั่วยุต่อไป๋จ่านถัง จากนั้นก็มองไปยังทุกคนอย่างปกติ พร้อมกับพูดขึ้นว่า: “ทุกท่าน ตระกูลอีของฉัน นับตั้งแต่วันนี้ไป ได้เข้าร่วมกับชางฉองกรุ๊ป และกลายเป็นส่วนหนึ่งของ
ชางฉองกรุ๊ปแล้ว! ”
“ต่อไป ที่เจียงหนานไม่มีตระกูลอีแล้ว จะมีเพียงแค่ชางฉองกรุ๊ปสาขาตระกูลอี! ”
ถ้าหากพูดถึงสองคนก่อนหน้านี้ที่ได้เข้าร่วมกับชางฉองกรุ๊ป เป็นเพียงแค่เป็นการประกาศข่าวสาร
ให้รับทราบ ถ้าอย่างนั้น คำพูดของอีหยุ่นในตอนนี้ ก็เท่ากับว่ากำลังแสดงความจงรักภักดีต่อ
ชางฉองกรุ๊ปแล้ว
ผู้คนด้านล่างเวที พากันตกตะลึงกันอีกครั้ง
น้ำหนักความน่าเชื่อถือของตระกูลอีแห่งเจียงหนาน ไม่ด้อยไปกว่าควีนจินเลยแม้แต่น้อย ถ้าหาก
ตระกูลอีแห่งเจียงหนานเข้าร่วมกับชางฉองกรุ๊ป ถ้าอย่างนั้นควีนจินเมื่อสักครู่นี้ก็อาจจะคือตัวจริง
ก็เป็นได้
เวลานี้ ไม่มีใครกล้าที่จะมองข้ามดูถูกชางฉางกรุ๊ปแล้ว ซึ่งหลายคนต่างก็คิดว่า บางทีเจ้านาย
เบื้องหลังของชางฉองกรุ๊ป อาจจะเป็นบุคคลผู้ยิ่งใหญ่อย่างแท้จริง
หรือบางที อาจจะไม่ได้ด้อยไปกว่าตระกูลหวาง
เหยียนเสวเหวินพูดขึ้นอย่างตื่นตะลึงว่า: “คุณพ่อ อีป้านจู๋ของตระกูลอีแห่งเจียงหนาน คิดไม่ถึงว่า
จะกำลังแสดงความจงรักภักดีต่อชางฉองกรุ๊ป ซึ่งทำไมต้องเป็นชางฉองกรุ๊ปด้วยล่ะ! ”
พ่อของเหยียนเสวเหวินพูดขึ้นว่า: “ไม่ชัดเจน บางทีชางฉองกรุ๊ปนี้ อาจจะมีผู้สนับสนุนเบื้องหลัง
ที่ยิ่งใหญ่ก็เป็นได้! ”
ใบหน้าที่อ้วนท้วมของเสิ่นหลิน เต็มไปด้วยความตื่นตะลึง
“พี่ไป๋ ประธานพาน ฉันไม่ได้ฟังผิดไปใช่ไหม! ”
“คิดไม่ถึงว่าอีป้านจู๋จะกำลังแสดงความจงรักภักดีต่อชางฉองกรุ๊ป ก็เพียงแค่บริษัทที่ไม่มีชื่อเสียง
แห่งหนึ่ง มันคู่ควรคุ้มค่าที่ตระกูลอีจะจงรักภักดีด้วยเหรอ? ”
ไป๋จ่านถังแสดงสีหน้าท่าทางที่มั่นอกมั่นใจ ยิ้มเยาะและพูดขึ้นว่า: “พี่เสิ่น บางทีคุณอาจจะยังไม่รู้
ก็ได้ว่า กิจการทั้งหมดภายใต้ตระกูลอีนั้น ใกล้ที่จะล้มละลายลงแล้ว ตระกูลอีเองก็ใกล้ที่จะถูกฉัน
ควบรวมกิจการแล้วเช่นกัน ถ้าหากไม่ใช่เพราะมาร่วมพิธีเปิดกิจการของชางฉองกรุ๊ปอย่าง
กะทันหันนี้ บางทีตระกูลอีอาจจะไม่หลงเหลืออยู่แล้วก็เป็นได้! ”
“อะไรนะ! เดิมทีเป็นอย่างนี้นี่เอง มิน่าล่ะที่อีหยุ่นถึงได้ยอมเข้าร่วมกับชางฉองกรุ๊ปที่เป็นบริษัท
ที่ไม่เคยได้ยินชื่อมาก่อน ดูเหมือนว่าเขากำลังทุ่มสุดตัวเลย! ” เสิ่นหลินพูดขึ้นทันที
“ถ้าพูดแบบนี้ อีหยุ่นเองก็ไม่ใช่ว่าจะเข้าร่วมชางฉองกรุ๊ปด้วยความจริงใจ แต่เป็นการทำข้อตกลง
สัญญากับชางฉองกรุ๊ป ดูเหมือนว่าวิธีการของชางฉองกรุ๊ปนี้ จะไม่ค่อยโปร่งใสและตรงไปตรงมา
สักเท่าไร! ” ประธานพานพูดเยาะเย้ยขึ้น
“ดังนั้น พวกคุณอย่าได้คิดกันไปว่านี่คือความสามารถของชางฉองกรุ๊ป ที่จริงแล้วที่ตระกูลอีได้มา
พึ่งพิงชางฉองกรุ๊ปนั้น ล้วนเป็นเพราะความดีความชอบของฉันต่างหาก” ไป๋จ่านถังพูดขึ้นด้วย
ความกระหยิ่มยิ้มย่อง
“ฮ่าฮ่า พี่ไป๋ยอดเยี่ยมไปเลย! ” เสิ่นหลินพูดประจบยกยอขึ้นอย่างพอประมาณ
หลังจากที่อีหยุ่นพูดจบ ก็ได้เดินไปยังด้านข้างของควีนจิน แล้วก็พยักหน้าทักทายกับควีนจิน และทั้งสองคนก็ได้กระซิบพูดคุยกันขึ้น
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...