สายตาของควีนจินก็ร้อนผ่าวขึ้นมาทันที
ในฐานะที่เธอเป็นนักบู๊คนหนึ่ง สำหรับความกระหายต่อพละกำลังนั้น ก็ต้องรุนแรงมากกว่าคนธรรมดาทั่วไป
เมื่อได้ยินว่ายังมีวิชาบู๊ที่แข็งแกร่งกว่าวิทยายุทธ์ของนักบู๊อีกมาก ควีนจินก็ย่อมอยากจะสืบดูให้แน่ชัด
“วิทยายุทธ์ของผู้บำเพ็ญเซียน แข็งแกร่งมากขนาดไหนคะ?” ควีนจินถามด้วยความอยากรู้
“อันนี้ฉันไม่สามารถบรรยายได้หรอก ยังไงก็แข็งแกร่งกว่าวิชาบู๊ที่คุณฝึกฝนอยู่ถึงหมื่นเท่าเลยทีเดียว” หลินหยุนก็ไม่ได้ปิดบังอะไร
“มากกว่าหมื่นเท่า!” ควีนจินพูดด้วยอาการช็อก
มิน่าพลังความสามารถของหลินหยุนถึงได้แข็งแกร่งเช่นนี้ ที่แท้วิชาฝึกฝนของผู้บำเพ็ญเซียนนั้น ถึงกับรุนแรงได้ขนาดนี้!
“ปรมาจารย์หลินคะ คุณยังรับลูกศิษย์อีกไหมคะ?” ควีนจินถามขึ้นกะทันหัน
คำถามนี้ทำให้หลินหยุนอึ้งไปเลย เขานึกไม่ถึงว่า ความใฝ่ฝันที่อยากได้พละกำลังของควีนจินจะมีมากถึงเพียงนี้
“ความจริงแล้ว โลกของผู้บำเพ็ญเซียนนั้น ไม่ได้ง่ายดายอย่างที่คุณคิดเลย”
“ในโลกใบนั้น ยังโหดร้ายและอันตรายกว่าโลกบู๊เสียอีก ถ้าไม่ระวังเพียงแค่นิดเดียว ก็จะทำให้วิญญาณดับสูญไปได้”
“อีกทั้ง ด้วยอายุของคุณตอนนี้ ก็ได้ผ่านพ้นช่วงเวลาที่เหมาะสมที่สุดในการฝึกบำเพ็ญเซียนไปแล้ว”
“ถึงแม้แข็งขืนไปฝึกบำเพ็ญเซียนได้ก็ตาม ต่อไปก็ยากที่จะประสบความสำเร็จได้”
เมื่อได้ยินคำพูดของหลินหยุนแล้ว อารมณ์ตื่นเต้นของควีนจินก็สงบลงไปมาก
“ที่แท้ก็เป็นเช่นนี้ ต้องขอโทษด้วยที่ฉันเสียมารยาท!” ควีนจินพูดแล้วโค้งคำนับ
“ใช่แล้ว ตอนนี้ข่าวคราวที่คุณเป็นผู้บำเพ็ญเซียนก็ได้แพร่กระจายไปทั่วโลกบู๊แล้ว คาดว่าอีกไม่นานก็จะต้องมีนักบู๊ที่กระหายพละกำลังพวกนั้น พุ่งเป้ามาหาคุณอย่างบ้าคลั่ง”
“ต่อจากนี้ไปคุณจะวางแผนรับมือยังไงล่ะคะ?”
สายตาของหลินหยุนส่องประกายจิตสังหารออกมา อุณหภูมิภายในห้องถึงกับลดลงทันที ทำให้ควีนจินรู้สึกเสียวสันหลังวาบ
“มาเท่าไหร่ก็ฆ่าเท่านั้นก็แล้วกัน ฆ่าจนพวกเขากลัวก็ย่อมไม่กล้ามาอีก”
น้ำเสียงของหลินหยุนเรียบเฉยมาก แต่ว่าจิตสังหารที่แฝงมากับคำพูดนั้น กลับล้ำลึกยิ่งกว่าทะเลเสียอีก
ในใจของควีนจินรู้สึกหนาวสั่น ตอนนี้ในที่สุดเธอก็เข้าใจแล้วว่า ที่หลินหยุนพูดว่าโลกของผู้บำเพ็ญเซียนโหดร้ายมาก นี่ไม่ได้คุยโวเกินไป
เพราะว่ามีแต่คนที่ออกมาจากโลกที่โหดร้ายสุดขั้วเช่นนี้ จึงสามารถพูดถึงเรื่องฆ่าคนได้อย่างสบายอารมณ์เช่นนี้
“ถ้าไม่มีเรื่องอื่นแล้ว ฉันขอตัวก่อนนะคะ” ควีนจินพูดจบ ก็รีบเดินหนีออกไปจากห้องหลินหยุนทันที
รู้สึกกดดันหนักมากเกินไปแล้ว!
หลังจากที่ออกมาจากห้องของหลินหยุนแล้ว ควีนจินก็รู้สึกโล่งอก
เมื่อก่อนที่เพิ่งรู้จักหลินหยุนใหม่ๆนั้น เป็นเวลาที่หลินหยุนไปรักษาโรคให้เธอเป็นครั้งแรก ถึงแม้เธอจะรู้สึกว่าหลินหยุนชายหนุ่มคนนี้ไม่เหมือนคนทั่วไปก็ตาม
แต่ว่า ในขณะนั้นหลินหยุนไม่ได้ทำให้เธอมีความรู้สึกกดดันที่หนักมากเช่นนี้เลย
ตอนนี้หลินหยุนเพียงแค่ปลดปล่อยกลิ่นอายเพียงเล็กน้อยออกมาเท่านั้น ก็สามารถทำให้เธอรู้สึกหนาวสั่นไปทั้งตัวแล้ว
นี่ก็มีส่วนเกี่ยวข้องกับความเป็นนักบู๊ของควีนจินด้วยเช่นกัน
ถ้าเป็นคนธรรมดาทั่วไปแล้ว เมื่ออยู่ต่อหน้าหลินหยุนอาจจะมีความรู้สึกที่ดีกว่านี้ก็ได้ เพราะว่าคนธรรมดาทั่วไปไม่ได้มีความรู้สึกอ่อนไหวต่อชี่ทิพย์ฟ้าดินเหมือนพวกนักบู๊
ยิ่งมีความอ่อนไหวต่อชี้ทิพย์ฟ้าดินมากเท่าไหร่ ก็ยิ่งสามารถรับรู้ได้ถึงแรงกดดันในตัวของหลินหยุนมากเท่านั้น ดังนั้นจึงได้รับผลกระทบจากกลิ่นอายในตัวของหลินหยุนมากขึ้น
หลังจากควีนจินจากไปแล้ว หลินหยุนก็นั่งจิบน้ำชา แล้วคิดวางแผนที่จะก้าวต่อไปข้างหน้า
“นี่คิดจะโยนฉันเข้าไปในกองไฟสินะ!”
“เพื่อจะจัดการกับฉันแล้ว พยายามทุ่มเททุกอย่างกันจริงเลย”
“ตอนนี้สำนักชางฉองก็เดินมาตามทางที่ถูกต้องแล้ว รอเวลาอีกสักระยะหนึ่ง อาจไม่แน่จะสามารถสร้างอำนาจบารมีที่ยิ่งใหญ่พอที่จะไปต้านทานกับพลังอำนาจสูงสุดของโลกบู๊โบราณก็ได้”
“มีสำนักชางฉองคอยคุ้มครองชางฉองกรุ๊ปแล้ว แม่ครับก็สามารถแสดงฝีมือได้อย่างเต็มที่แล้ว”
“ถึงแม้ว่าจะได้รับบาดเจ็บจากการระเบิดของมุกดูดเลือดที่เขาชิงเสียก็ตาม แต่หลังจากที่บาดแผลได้หายดีแล้ว พละกำลังของฉันก็ได้เพิ่มขึ้นบ้างแล้ว”
“รออีกระยะหนึ่ง ฉันก็จะสามารถเข้าไปในแดนรวมยาระยะกลางได้แล้ว”
หลินหยุนส่งกระแสจิตเล็กน้อย หญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงที่ได้มาจากเขาชิงเสียต้นนั้น ก็มาปรากฏอยู่ตรงหน้าแล้ว
“ต้องหายาบำรุงอีกสองอย่างให้ครบก่อน ฉันก็จะสามารถผลิตยากลั่นทิพย์เพลิงม่วง เพื่อกลั่นตัวอ่อนยาจางออกมา”
“เมื่อหล่อตัวอ่อนยาจางให้มั่นคงแล้ว ต่อไปก็จะสามารถผลิตยาทองที่มีระดับสูงยิ่งขึ้นได้”
“เมื่อชาติที่แล้ว ฉันแค่ได้รวมยาทองระดับดินเท่านั้นเอง ในชาตินี้ ฉันได้ครอบครองปรามสีม่วงหงเหมินแล้ว และยังมีหญ้าเผาจิตมังกรคบเพลิงต้นนี้มาหลวมตัวอ่อนยาจางอีก จะต้องรวมยาทองระดับฟ้าออกมาได้อย่างแน่นอน”
“คิดจะหายาบำรุงอีกสองชนิด คงต้องไปที่หุบเขาเทพยาสักครั้งแล้ว”
หลินหยุนตัดสินใจแน่วแน่แล้ว ก็รีบเดินทางทันที
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...