ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองไปยังหลินตงถิงที่อยู่อีกด้าน แล้วพูดเสียงต่ำว่า “ตงถิง นายไปเรียกโร่สุ่ยมา!”
หลินตงถิงพยักหน้า “ครับ!”
จู่ๆ ฉินเห้าเทียนรั้งเขาไว้ “เดี๋ยวก่อน!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองฉินเห้าเทียน เขาขมวดคิ้วแล้วพูดว่า “ทำไม เจ้าบ้านฉินกลัวหรือไง จะกลับคำหรือไง”
ฉินเห้าเทียนหัวเราะหึหึ “กลัวงั้นเหรอ ฉันจะกลัวอะไร! ลูกชายฉันไม่ได้ทำเรื่องแบบนั้นสักหน่อย!”
“ฉันแค่อยากบอกว่า ถ้าเผชิญหน้ากัน ตระกูลหลินเอาหลักฐานมาไม่ได้ จะทำยังไง”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินยิ้มเย็นชา “ถ้าตระกูลหลินเอาหลักฐานมาไม่ได้ ผมจะคุกเข่าขอโทษคุณ ต่อหน้าผู้มีชื่อเสียงคนใหญ่คนโตทั้งหลายของอูซุ!”
ฉินเห้าเทียนพูดเสียงดัง “ได้ คุณพูดเองนะคุณหลิน!”
จากนั้นฉินเห้าเทียนหันไปมองพวกคุณท่านหยัน “คุณท่านหยัน และเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุ พวกคุณได้ยินสิ่งที่คุณหลินพูดแล้ว หวังว่าพวกคุณจะเป็นพยาน!”
คุณท่านหยันพูดอย่างเคร่งขรึม “เจ้าบ้านฉินวางใจเถอะ คุณหลินก็วางใจเถอะ ถ้าพวกคุณทั้งสองฝ่าย มีใครแพ้ แล้วไม่ทำตามคำสัญญา ผมและเหล่าผู้มีชื่อเสียงของอูซุที่อยู่ด้านหลัง ผมจะให้คนนั้นเป็นตัวอย่างของคนที่ไม่สามารถยอมรับได้!”
“อีกทั้งจะเอาสิ่งที่เห็นทั้งหมดในวันนี้ ป่าวประกาศไปทั่วทั้งจีน!”
ฉินเห้าเทียนชอบใจ “ได้ คำพูดของคุณท่านหยัน ผมเชื่อได้อยู่แล้ว!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินก็พูดว่า “คำพูดของคุณท่านหยัน ผมก็เชื่อเหมือนกัน”
ฉินเห้าเทียนมองลูกชายคนโตตระกูลหลิน แล้วพูดว่า “งั้นก็เชิญคุณหลินเอาหลักฐานออกมาสิ!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินมองหลินตงถิง “ไปเรียกโร่สุ่ยมา!”
“ครับ!” หลินตงถิงรีบเดินออกไป
ลูกชายคนโตตระกูลหลินหันไปมองฉินเห้าเทียน และคนอื่น จากนั้นแสยะยิ้ม แล้วพูดว่า “เจ้าบ้านฉิน ถ้าคุณกลับคำตอนนี้ ยังทันนะ!”
“อีกเดี๋ยวจะไม่มีโอกาสแล้ว!”
ฉินเห้าเทียนแสยะยิ้มเย็นชา “คุณหลินร้อนตัวเหรอ ไม่งั้นจะพูดกล่อมให้เรายอมแพ้ทำไม”
“หึ!” ลูกชายคนโตตระกูลหลินหันหลังไป และไม่สนใจ
ไม่นาน หลินโร่สุ่ยในชุดเดรสสีขาว งดงามราวกับเจ้าหญิงเอลฟ์ เดินตามหลินตงถิงมาถึงห้องโถงใหญ่
“ปู่ใหญ่!” หลินโร่สุ่ยทำความเคารพลูกชายคนโตตระกูลหลิน
“อืม!” ลูกชายคนโตตระกูลหลินพยักหน้าเบาๆ จากนั้นพูดอย่างเคร่งขรึม “โร่สุ่ย เธอเล่าเรื่องที่เกิดขึ้นในวันนั้น ให้ทุกท่านในที่นี้ฟังตั้งแต่ต้นจนจบ!”
“ให้พวกเขายอมแพ้!”
ระหว่างทางที่มา หลินตงถิงเล่าเหตุการณ์ที่ตระกูลหลินต้องเผชิญตอนนี้ ให้หลินโร่สุ่ยฟังแล้ว ตอนนี้หลินโร่สุ่ยรู้ว่าหน้าตาของตระกูลหลิน ขึ้นอยู่กับเธอแล้ว
สายตาของหลินโร่สุ่ย มองจากพวกฉินเห้าเทียน ไปยังฉินเจียเฉียงที่ใบหน้าเต็มไปด้วยผ้าพันแผล
ทันใดนั้น ใบหน้าขาวของหลินโร่สุ่ย ฉายแววโมโห “ปู่ใหญ่ เป็นเขาค่ะ ฉินเจียเฉียงใส่ยาลงในเหล้า!”
“หลังโดนพี่หลินหยุนจับได้ เขาก็ยังไม่ยอมรับ สุดท้ายพี่หลินหยุนเจอซองยาในกระเป๋ากางเกงของเขา ต่อหน้านักเรียนทุกคน”
“เขาคิดจะทำร้ายพี่หลินหยุน และข่มขู่พี่หลินหยุน จากนั้นพี่หลินหยุนก็ต่อยเขา!”
ลูกชายคนโตตระกูลหลินพูดอย่างเย็นชาว่า “เจ้าบ้านฉิน ได้ยินหรือยัง”
จู่ๆ คุณท่านหยัน รวมถึงพวกผู้มีชื่อเสียงของอูซุ ต่างมองฉินเห้าเทียนด้วยแววตาสงสัย
ราวกับทุกคนกำลังซักถามฉินเห้าเทียน
สถานการณ์ดีต่อตระกูลหลิน
ภายใต้แววตาซักถามของทุกคน ฉินเห้าเทียนกลับมีสีหน้าราบเรียบ
“คุณหลิน พวกนี้เป็นคำพูดของฝั่งตระกูลหลินเพียงฝ่ายเดียว น่าเชื่อถือไม่พอ!”
พูดจบ ฉินเห้าเทียนมองหลินโร่สุ่ย เขายักไหล่แล้วถามว่า “สาวน้อย เธอบอกว่าลูกชายฉันวางยาเธอ มีหลักฐานหรือเปล่า”
“มีใครเห็นหรือเปล่า”
หลินโร่สุ่ยเชิดหน้าขึ้นเล็กน้อย และไม่กลัวฉินเห้าเทียน “ตอนนั้นเพื่อนนักเรียนที่อยู่ในเหตุการณ์ เห็นทุกคน”
“ถ้าคุณไม่เชื่อ ฉันโทรหาพวกเขาตอนนี้ก็ได้ ให้พวกเขาเป็นพยาน!”
ฉินเห้าเทียนยิ้มบางๆ “โทรสิ โทรตอนนี้เลย!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...