หญิงสาวที่ชื่อฉูเหอคนนั้น หน้าตาก็ไม่เลว แต่สีหน้าท่าทางค่อนข้างเย่อหยิ่ง
แต่ว่าหลินหยุนรู้สึกได้ว่าสายตาของเธอที่มองตัวเองแฝงไปด้วยอคติ
หน้าตาของชายคนนั้นค่อนข้างซื่อๆ ดูไปแล้วน่าจะเข้ากับคนอื่นได้ง่ายกว่า
“คุณก็คือปรมาจารย์หลินเหรอ? เห็นตัวจริงแล้วไม่สมกับคำเลื่องลือเลย คิดไม่ถึงว่าปรมาจารย์หลินถึงกับเป็นแค่เด็กคนหนึ่ง!” หญิงสาวพูดเยอะเย้ยด้วยความเหยียดหยาม
ตางอู่พูดด้วยเสียงอ่อนนุ่มว่า “ฉูเหอ อย่าพูดเหลวไหล ปรมาจารย์หลินเป็นถึงยอดฝีมือที่สามารถล้มเทพแห่งสงครามด้วยกระบวนท่าเพียงท่าเดียวเท่านั้นเลยนะ!”
ฉูเหอทำตาถลนใส่ แล้วพูดเยาะเย้ยว่า “อย่างเขาเหรอที่สามารถเอาชนะเทพแห่งสงครามได้? ยังไงฉันก็ไม่เชื่อหรอก!”
ตางอู่รีบโค้งคำนับหลินหยุน แล้วพูดด้วยรอยยิ้มว่า “ปรมาจารย์หลินอย่าได้ถือสาเลยนะ นิสัยเธอก็เป็นอย่างนี้แหละ แต่ไม่ได้มีเจตนาร้ายอะไร”
“หลินหยุน พวกเขาสองคนจะไปตามหาน้ำศักดิ์สิทธิ์พร้อมกับคุณด้วย”
หลินหยุนไม่ได้พูดอะไร เพียงแต่มองดูเขาสองคนแวบเดียว
หงซานเหอถามว่า “มีปัญหาเหรอ?”
หลินหยุนพูดว่า “ผมสามารถพาพวกเขาไปได้ แต่ว่าการเดินทางครั้งนี้จะต้องมียอดฝีมือปรากฏขึ้นมากมาย ผมไม่รับประกันความปลอดภัยของพวกเขา”
ฉูเหอจ้องตาเขม็งใส่หลินหยุน แล้วตะคอกด้วยความโกรธว่า “ใครต้องการให้คุณมาคุ้มครองล่ะ!”
“ถึงเวลาคุณอย่าเป็นตัวถ่วงพวกเราก็พอแล้ว”
ตางอู่รีบพูดเตือนว่า “ฉูเหอ คุณก็พูดให้น้อยลงหน่อยเถอะ ถ้าพวกเราร่วมเดินทางไปด้วยกัน งั้นก็ถือว่าเป็นเพื่อนร่วมรบแล้ว”
“เอาละ” หงซานเหอก็โบกมือส่งสัญญาณให้พวกเขาสองคนสงบเงียบได้แล้ว มองดูหลินหยุนแล้วพูดด้วยเสียงเข้มว่า “คุณวางใจเถอะ ในเมื่อฉันส่งพวกเขาสองคนไปพร้อมกับคุณ ก็หมายความว่าฉันเชื่อในความสามารถปกป้องตัวเองของพวกเขาทั้งสองคนแล้ว”
“ยังมีปัญหาอีกไหม?”
หลินหยุนพูดว่า “ไม่มีแล้วครับ”
“งั้นก็ดีละ พวกคุณออกเดินทางได้เลย! การปฏิบัติการครั้งนี้ พวกคุณสองคนต้องฟังคำสั่งของหลินหยุนให้มากที่สุด” หงซานเหอพูดกำชับ
“อะไรนะ! ให้พวกเราฟังคำสั่งจากเด็กน้อยอย่างเขาเหรอ? ท่านแม่ทัพ คุณไม่ได้เข้าใจอะไรผิดนะ!” ฉูเหอตะโกนพูดด้วยเสียงหลง
“ปฏิบัติตามคำสั่งอย่างเคร่งครัด!” สีหน้าหงซานเหอเคร่งเครียด
ฉูเหอยังคิดจะพูดอะไรอีก ตางอู่ก็รีบลากเธอไว้ แต่สุดท้ายก็ถูกเธอทำตาถลนใส
แต่ว่าฉูเหอก็ไม่กล้าพูดอะไรอีก เพียงแต่จ้องหน้าหลินหยุนด้วยสีหน้าไม่พอใจ
“ไปกันเถอะ!” หลินหยุนมองดูพวกเขาแวบเดียว หันหลังแล้วเดินออกจากประตูไป
“ได้” ตางอู่ตอบด้วยรอยยิ้ม
ฉูเหอสีหน้าไม่พอใจ แต่ว่ากลับถูกตางอู่จูงมือเดินตามหลังหลินหยุนไป
เมื่อทั้งสามคนเดินถึงหน้าประตูแล้ว หงซานเหอก็พูดตามหลังว่า “ระวังความปลอดภัยด้วย!”
หลินหยุนหันหน้าไปมองเขาแวบเดียว แล้วยิ้มเล็กน้อยแต่ไม่พูดอะไร
ตางอู่หันหน้าไปทำความเคารพหงซานเหอแบบทหาร “ครับผม!”
แต่ฉูเหอกลับตอบด้วยน้ำเสียงไม่สบอารมณ์ว่า “รู้แล้วน่ะ”
รถยนต์สีดำติดธงแดงที่มารับหลินหยุนคันนั้น ก็พาพวกหลินหยุนทั้งสามคนไปส่งที่สนามบินที่บินตรงไปยังเมืองกอร์ลทางเหนือสุดของประเทศรัสเซีย
เมื่อมาถึงสนามบินแล้ว ตางอู่ก็ถามอย่างเกรงใจว่า “ปรมาจารย์หลินครับ เที่ยวบินที่จะไป
ยังเมืองกอร์ลต้องรอเวลาอีกสามชั่วโมง พวกเราไปหาร้านอาหารนั่งกินอะไรหน่อยดีไหมครับ?”
หลินหยุนพูดอย่างเรียบๆว่า “ไม่ต้องหรอก พวกคุณไปกันเองเถอะ!”
ตางอู่พูดว่า “ในเมื่อปรมาจารย์หลินไม่ไป งั้นพวกเราก็ไม่ไปแล้ว”
“หรือไม่พวกเราไปรอที่ห้องพักผู้โดยสารเลยไหมล่ะ!”
หลินหยุนพูดว่า “พวกคุณไปก่อนเถอะ ฉันยังต้องรออีกคนหนึ่ง”
ตางอู่พูดว่า “งั้นพวกเราก็อยู่รอพร้อมกับปรมาจารย์หลินก็แล้วกัน!”
ถึงแม้ว่าคาร์นอตวิลเลียมไม่คุ้นชินกับการใช้มือถือก็ตาม แต่ว่าพรสวรรค์ในด้านการหาคนของเผ่าโลหิตนั้น ได้รับความสะดวกสบายจากสวรรค์เป็นพิเศษโดยเฉพาะ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: จักรพรรดิเชียนตกสวรรค์
1...
1...
1...
1...
นิยายจีนหลายๆหรือเกือบทุกเรื่องจะจบแบบงง..เหมือนคนแต่งจบไม่เป็น..คือเนื้อเรื่องแต่งไปได้เรื่อยๆแต่หาตอนจบไม่เจอคือถ้าจะจบก็จบแบบงง..หนักสุดน่าจะเรื่องฉินหรังละครับ.ฉินหรังไปสถานที่หนึ่งได้ต้นไม้แล้วโดนระเบิดออกมาอีกทีก็1ปีผ่านไป ไปหาแม่แล้วเปลี่ยนชื่อเลยครับ จงหยู่นางเอกต้นเรื่องหายไปเลย ฉินหรังได้กลับนางฟ้า ผมนี้งงเลยคนแต่งน่าจะเมาแฟบนะ...
จบแบบงงๆครับ...