ชายาเจ้าโง่ของข้าเป็นหมอหญิงอัจฉริยะ นิยาย บท 1

ณ ปีที่ 109 แห่งรัชสมัยต้าหลี่

'กงเฉิง' จิ่นอ๋องทำศึกรวบรวมแผ่นดินเหนือจรดใต้เข้าไว้ด้วยกันเป็นหนึ่งเดียว ทหารทั้งหมดในกองทัพเดินทางจากทิศเหนือมุ่งหน้าไปทางทิศใต้ เหล่าทหารกล้าได้รับการต้อนรับอย่างยิ่งใหญ่เมื่อกรีฑาทัพกลับมาพร้อมชัยชนะ

ในบรรดาขบวนทัพอันเกรียงไกร ปรากฏความโดดเด่นของเกี้ยวแบบแปดคนหามซึ่งด้านในมีสตรีนางหนึ่งประทับอยู่คือ 'เฟิ่งซู่หน่วน' พระชายาของจิ่นอ๋อง

บนขั้นบันไดหน้าพระราชวัง ร่างสูงใหญ่ของกงเฉิงสั่นสะท้านอย่างเห็นได้ชัดเมื่อเขาเหลือบไปเห็นที่เกี้ยว เมื่อพบว่าพระชายาจิ่นอ๋องกำลังมองดูเขาแล้วยิ้มเยาะไร้สาระ กงเฉิงยังคงตัวสั่นจนผู้ติดตามอย่างอาจิ่วรีบโค้งคำนับทันทีด้วยความสนิทสนม

“ท่านอ๋อง?”

“อาจิ่ว ข้าไม่ได้ตาฝาดใช่รือไม่? นั่น… หญิงที่นั่งอยู่ในเกี้ยวหงส์ทองต่อหน้าพระพักตร์ฮ่องเต้และไทเฮา คือนางเด็กโง่ลูกสาวคนสามของจวนเจิ้นกั๋วกงอย่างนั้นรึ ” (เจิ้นกั๋วกง เป็นตำแหน่งสูงที่ขุนนางจะได้รับพระราชทานจากจักรพรรดิ)

อาจิ่วถึงกับเหงื่อตก...

“ขอรับ” เขากล้ายอมรับ ว่าท่านอ๋องของเขาคงลืมไปแล้วจริง ๆ ว่าตนคือคนที่มีครอบครัวแล้ว

ตอนนี้ คงจะนึกขึ้นได้แล้วสินะ

ใบหน้าหล่อของจิ่นอ๋องกงเฉิงเต็มไปด้วยความสงสัย เขาขมวดคิ้วและถาม “ทําไมนางถึงอยู่ที่นี่?”

อาจิ่ว “…”

เขาจะกล้าบอกหรือ เขาพูดได้หรือ ถ้าเขาพูดแล้วท่านอ๋องจะมาถลกหนังเขาหรือไม่

เพราะอาจิ่วสมรู้ร่วมคิดกับไทเฮาจัดงานอภิเษกสมรสครั้งใหญ่เพื่อขจัดความอัปมงคลให้กับท่านอ๋องของเขาในตอนที่ท่านอ๋องเป็นตายเท่ากัน

“อย่างไร?” เมื่อไม่ได้รับคำตอบนานเกินไป จิ่นอ๋องก็หันมาตวาดอีกฝ่ายด้วยความไม่พอใจ

“เรียนท่านอ๋องขอรับ นางคือพระชายาของท่าน พอท่านอ๋องกลับมาจากศึกด้วยชัยชนะ นางก็ต้องออกมาต้อนรับเป็นธรรมดา” อาจิ่วพูดไปโดยไม่กล้าลืมตามามองผู้เป็นนาย

ในบรรยากาศที่ลมหนาวกระโชกแรง ความเงียบสงัดอย่างที่ไม่เคยมีมาก่อน

“อาจิ่ว เจ้าคิดหรือไม่ว่าชีวิตของเจ้ามันอยู่บนโลกนี้มานานเกินไปแล้ว!” กงเฉิงกัดฟันพูดด้วยความโกรธ

นั่นยิ่งทำให้อาจิ่วกลัวจนทำอะไรไม่ถูก...

“เป็นท่านที่บังคับให้ข้าต้องพูดเลย”

“ข้าสั่งให้เจ้าปฏิเสธไทเฮาไปแล้วมิใช่รึ เหตุใดยังเกิดเรื่องเช่นนี้” กงเฉิงร้อนรุ่มดั่งมีไฟสุมทรวงจวนจะปะทุออกมา รูม่านตาที่เหมือนนกอินทรีของเขาบัดนี้แดงดั่งไฟพิโรธ

เขาจำได้ว่า วันนั้นเขาถูกผู้ร้ายโจมตีอย่างหนัก ร่างกายโดนยาพิษ ชีวิตเป็นตายเท่ากัน ในตอนที่อาจิ่วมาขอความเห็นหน้าเตียงคนป่วย แม้ว่าเขาจะสับสน แต่เขาปฏิเสธข้อเสนอไร้สาระของไทเฮาไปแล้วอย่างเด็ดขาด

“ท่านอ๋อง ข้าได้ทูลองค์ไทเฮาในสิ่งที่ท่านคิดไปแล้ว แต่พระนางยังคงยืนกรานในวิธีนี้” อาจิ่วพูดไปร้องไห้ไป อำนาจทรงพลังสามารถบดขยี้ผู้คนจนตายได้

ความจริงก็คือ ในวันนั้นจิ่นอ๋องอยู่ในพระอาการประชวรหนัก อาจิ่วก็ตกใจแทบสิ้นสติ ไทเฮาแนะนำให้พาบุตรสาวคนที่สามของครอบครัวเจิ้นกั๋วกงมาร่วมพิธีอภิเษกสมรสกับท่านอ๋องเพื่อนำความโชคดี อาจิ่วแม้ไม่เห็นด้วยในตอนแรก แต่ไทเฮากล่าวว่านางเด็กโง่นั่นกับฮ่องเต้มีดวงชะตาสมพงษ์กัน นางคือตัวนำโชคของท่านอ๋อง อาจิ่วยืนอยู่ข้างองค์ไทเฮาอย่างเต็มที่ ไทเฮาจึงสั่งให้อาจิ่วนำฉลองพระองค์ส่งกลับไป และเขาก็ทำตามนั้น

ไม่เช่นนั้นวันนั้นจะมีเจ้าบ่าวที่สวมชุดของท่านอ๋องได้อย่างไร?

กงเฉิงใช้เวลาอยู่นานที่จะควบคุมอารมณ์ตัวเองให้ยอมรับเรื่องราวไร้สาระเช่นนี้ เขาจ้องไปที่พระชายาอีกครั้ง ซึ่งนางเองก็กำลังมองเขาอยู่เช่นกัน

คนบ้าอะไร แต่งตัวยั่วเพศ สวมเสื้อผ้าสีสันฉูดฉาด ทำหน้าตาอาลัยอาวรณ์ราวกับขาดผู้ชายไม่ได้ แววตาเศร้าซึม ไม่มีชีวิตชีวาเอาเสียเลย

น่าเสียดายที่นางมีใบหน้าที่สวยจับใจ

แผ่รังสีอำมหิตออกมาจากดวงตาของกงเฉิง

“อาจิ่ว!!”

“ขอรับ ข้าน้อยอยู่นี่ขอรับ”

“อาจิ่ว อีกประเดี๋ยวเมื่อกลับไปถึงจวน เจ้าจับนางมัดไว้ แล้วหาพ่อค้านำนางไปขาย จำไว้ ยิ่งไกลเท่าไหร่ยิ่งดี ให้นางหาทางกลับมาไม่ถูกอีกเลย” ดวงตาของเขาที่ส่อแววประชดประชัน เขาสู้อุตส่าห์ออกรบในศึกสงครามมาแทบตาย แต่ผลประโยชน์ทั้งหมดกลับตกไปอยู่ในมือคนโง่เสียได้

อาจิ่วตกใจมาก แย้งด้วยเสียงสั่นเครือ “ท่านอ๋อง ข้าทำไม่ได้ ข้าทำไม่ได้จริง ๆ จะดีจะชั่วนางก็เข้าพิธีอภิเษกสมรสเป็นพระชายาของท่าน นั่งเกี้ยวหงส์แปดคนหามเข้ามาในจวนอย่างถูกต้องตามประเพณี หากท่านอ๋องวางแผนสังหารพระชายาตัวเองจะยิ่งทำให้ผู้คนใจสลาย”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเจ้าโง่ของข้าเป็นหมอหญิงอัจฉริยะ