ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 119

ตอนที่ 119 ใส่ร้าย

ชูเซี่ยรวบรวมจิตใจกลับมา เรียกหาเชียนซาน กำชับเขาไม่กี่ประโยค เชียนซานก็เข้าใจทันที ก่อนขมวดคิ้วแล้วเอ่ยว่า “เพียงครั้งนี้ที่สามารถหลบหลีกได้ แล้วครั้งละเพคะจะทำเช่นไร”

ชูเซี่ยถอนหายใจออกมา แล้วเอ่ยว่า “อย่าพึ่งคิดเรื่องหลังจากนี้เลย เรื่องตรงหน้าจัดการให้ผ่านไปให้ได้ก่อนแล้วค่อยคิดอีกครั้ง”

เชียนซานกัดฟันเอ่ยว่า “ความจริงนายท่านไม่จำเป็นต้องทำให้ตนเองไม่ได้รับความเป็นธรรมเช่นนี้ ท่านสามารถจากวังไป สนใจเขาไปก็ไร้ประโยชน์ เขาก็ไม่อาจรับมือกับท่านได้ ท่านคือหัวหน้าพรรคมังกรเหิน เป็นผู้มีบุญคุณของราชวงศ์ ”

ชูเซี่ยมองเชียนซาน เอ่ยอย่างสุขุมว่า “ด้วยความสามารถตอนนี้ของข้า ต้องถอดร่างออกทั้งหมอซึ่งเป็นเรื่องที่ไม่ง่ายที่จะทำได้อีกต่อไป แต่เจ้าลืมไปแล้วหรือ ก่อนที่ไทเฮา จะเสียชีวิต ต้องให้ข้าสาบานว่าจะปกป้องหลานของนางทั้งสองคนอย่างรอบคอบ ข้าสามารถจากไปโดยไม่คำนึงถึงเรื่องนี้ได้หรือ ข้าไปนั้นง่ายดาย แต่ทิ้งสภาพที่หยุ่งเหยิงสับสนให้พวกเขาสองพี่น้องเก็บกวาด การมอบหมายที่สำคัญยิ่งของไทเฮา นี้จะทำให้ทรงผิดหวังได้หรือ”

เชียนซานจนใจเอ่ยว่า “แต่ถูกคนสบประมาทเช่นนี้ พวกลูกน้องที่พบเห็นก็ตรอมใจแทนนายท่านนะเพคะ”

สายตาของ ชูเซี่ยนั้นมืดมนและหนาวเหน็บ ความอบอุ่นในวันก่อนๆ ล้วนไม่ได้มีลักษณะเช่นนี้อีกแล้ว นางเอ่ยว่า “ไม่มีทางอื่นอีกแล้ว ใครให้เขาเป็นฮ่องเต้ พวกเรายังมีอำนาจไม่พอ ไม่สามารถทำอะไรก็ได้ แต่เจ้าวางใจเถอะ ข้าไม่สามารถถูกคนบงการอยู่ตลอดเช่นนี้หรอก ต้องมีสักวัน ที่เขาจะต้องตอบแทนสิ่งที่ค่าสูญเสียไปในวันนี้”

เชียนซานในเวลานี้เพิ่งเข้าใจความคิดความอ่านของเจ้านายของตน เดิมทีใช่ว่านางแสดงออกอย่างไม่สนใจเช่นนี้ ฮ่องเต้บีบบังคับอย่างหนักให้นางเข้าวัง ใช้ชีวิตของคนที่นางรักที่สุดมาคุกคามนาง นางกลับมีจิตใจสงบไร้กังวลยอมรับ ตอนนี้เขาคิดว่าอารมณ์ของนายท่านก็โอนอ่อนผ่อนตามเกินไปแล้ว ง่ายที่จะรังแก แต่คิดไม่ถึงว่า นางจะอดกลั้นเอาไว้ไม่แสดงออกมา คิดแล้วคือโอกาสหรือไม่ถึงเวลา

เชียนซานกวาดเก็บความขับข้องใจก่อนหน้านี้เอาไว้ เอ่ยอย่างเบิกบานใจว่า “นายท่านคิดได้เช่นนี้ ดีมากเลยเพคะ พวกเราที่เป็นคนของพรรคมังกรเหินเคยได้รับความอัปยศอดสูเช่นนี้ในก่อน ตอนนี้แม้ฮ่องเต้จะถือว่าดี ข่มขี่บีบคั้นหลายต่อหลายครั้ง ยังใช้บุตรชายของตนมาคุกคามนายท่าน ตอนนี้ยังดีที่ศึกครั้งนี้ได้รับชัยชนะ แต่คนยังไม่กลับมา ก็รีบร้อนปฏิเสธความดีความชอบของเขา บิดาเช่นนี้ สัตว์เดรัจฉานก็ยังเปรียบมิได้อย่างยิ่งเพคะ”

แม้ว่าลักษณะนิสัยของเชียนซานจะตรงไปตรงมา แต่ว่าก็เป็นคนที่มีมาตรฐานของตน หากไม่ใช่โกรธถึงที่สุดแล้ว ก็จะไม่อยู่ในวังพูดจาบ้าๆ เช่นนี้

ชูเซี่ยเอ่ยอย่างโล่งอกขึ้นว่า “รีบร้อนไปก็ไม่มีประโยชน์ เรื่องนี้ พวกเราต้องคิดไตร่ตรองให้ดีก่อน ไม่อาจทำให้เขาดูถูกดูแคลนพวกเรา เจ้าวางใจเถอะ เมื่อถึงเวลาที่เหมาะสม ข้าจะตีโต้อย่างสาสมแน่นอน”

เชียนซานเอ่ยด้วยน้ำเสียงที่เด็ดเดี่ยวว่า “แต่พวกเราผู้อยู่ใต้การบังคับบัญชาล้วนตามคำสั่งของนายท่าน นายท่านคิดว่าเมื่อเวลาใดจะลงมือ พวกเราก็ลงมือเมื่อนั้นเพคะ”

ชูเซี่ยเอ่ยกับเขาว่า “เสี่ยวเต๋อจื่อรับผิดชอบป้ายหัวเขียวของวังหลัง เจ้าไปพูดกับเขา ว่าข้ามีระดู คืนนี้ไม่สามารถร่วมหลับนอนกับฮ่องเต้ได้ เสี่ยวเต๋อจื่อจะจัดการด้วยตนแอง”

“รับทราบเพคะ” เชียนซานรับคำสั่งแล้วเดินจากไป

ใกล้ค่ำเชียนซานถึงได้กลับมา สีหน้าของนางก็ไม่ค่อยดี ยักไหล่แล้วเอ่ยว่า “ได้ยินมาว่า ฮ่องเต้โมโหอย่างมาก ด่าทอไล่คนคอยปรนนิบัติที่อยู่วังหน้า เสี่ยวเต๋อจื่อที่คอยปรนนิบัติรับใช้อยู่ที่วังหน้ามานาน ก็ล้วนถูกด่าท่อจนหู้เทียบจะไหม้เพคะ”

ชูเซี่ยนั่งอยู่บนเตียงงนอนเล่น ในมือถือถ้วยชาอุ่น ๆ เอาไว้ เอ่ยถามอย่างราบเรียบว่า “ฝ่าบาทยอมใช้ผงห้าหินหรือไม่”

“ได้ยินมาว่ามีเพคะ เสี่ยวเต๋อจื่อพูดว่า ทุกครั้งที่ราชครูเข้าเฝ้าก็นำยาเม็ดมามอบเป็นของขวัญให้กับฮ่องเต้ แต่ไม่รู้ว่ายาเม็ดนั้นคืออะไร ข้าเห็นสีหน้าของฮ่องเต้ล้วนแดงเปล่งปลั่ง แต่นิสัยใจคอนับวันยิ่งอารมณ์ร้อนและฉุนเฉียวง่าย” เชียนซานเอ่ยคล้ายกับว่ากำลังคิดอะไรอยู่ในใจ

ชูเซี่ยอืมรับแล้วเอ่ยว่า “ผงห้าหินสามารถทำให้ความคิดความอ่านสับสนวุ่นวาย ปลุกปั่นอารมณ์ทั้งเจ็ดของมนุษย์ เดิมทีก็โกรธเคืองอยู่แล้ว หลังจากใช้ผงห้าหิน ความโกรธนั้นก็จะยิ่งเพิ่มมากขึ้น ได้รับประโยชน์จากผงห้าสี ตัวเขาเองก็ไม่สามารถควบคุมจิตใจตนเองได้แล้ว ส่วนเม็ดยาของราชครู เจ้าหาโอกาสเข้าไปขโมยออกมาสักเม็ด ข้าจะไปตรวจสอบดูว่ามันคือสิ่งใด”

ราชครูคือคนของอ๋องเก้า เดี๋ยวดีเดี๋ยวร้าย ชูเซี่ยจึงไม่สามารถที่จะประมาทได้ เขาล้วนคิดว่าอ๋องเก้าไม่แน่ว่าจะสามารถ ควบคุมราชครูได้

โดยเฉพาะราชครูนั้นรู้ประวัติความเป็นมาของนางเป็นอย่างดี เรื่องที่นางมาจากโลกที่แตกต่างจากที่นี่ก็ล้วนทราบดี คนผู้นี้ไม่อาจที่จะไม่ป้องกันเอาไว้ได้ และหากไม่ใช่เขาพูดหลายต่อหลายครั้งต่อหน้าฮ่องเต้ว่านางคือสตรีที่สูงค่าอะไรนั้น เป็นจักรพรรดินีที่ในอนาคตจะให้กำเนิดกษัตย์ผู้ยิ่งใหญ่เกรียงไกลพันธ์นั้น ฮ่องเต้ก็ไม่ต้องใช้การลงมือที่สกปรกเช่นนี้มาคุกคามและบีบบังคับนาง

เชียนซานเอ่ยว่า “เพคะ ถ้าอย่างนั้นคืนนี้บ่าวจะแอบเข้าไปห้องพระอักษรขโมยเม็ดยาออกมาสักเม็ด” เชียนซานเงียบลงไปครู่หนึ่ง มีบางอย่างคล้ายไม่เข้าใจแล้วจึงเอ่ยว่า “เมื่อครู่ข้าเห็นองค์รักษ์เหยียนเจินเจินที่อยู่ด้านหน้าตำหนัก แอบขโมยพาบุรุษผู้หนึ่งเข้ามาในวัง วังหลังแห่งนี้ไม่ใช่ไม่อนุญาตให้บุรุษเข้ามาหรือหรือเพคะ ไม่อาจมีผินเฟยคิดที่จะสมคบแอบมีชายชู้หรือนะเพคะ”

ชูเซี่ยเอ่ยหัวเราะว่า “ในเมื่อแอบขโมยหลบซ่อน แล้วเจ้าเห็นได้อย่างไร อยู่ในวังหลังฮ่องเต้ก็เป็นน้ำฝนที่ทุกคนต้องแบ่งปันอย่างเท่าเทียมกัน ดังนั้นควรจะไม่มีใครกล้าที่จะลักลอบเป็นชู้กับชายอื่น อีกอย่างเรื่องนี้แม้อยากที่จะทำ ก็ควรที่จะหาคนที่อยู่ข้างกายดีกว่า ทำไมต้องเรียกองค์รักษ์ที่อยู่ด้านหน้าละ ไม่กลัวเรื่องจะถูกลืออกมาหรือ นั่นคือโทษหนักของการทำลายเกียรติของราชวงศ์ ”

เชียนซานคิดดูแล้วก็เห็นว่าเป็นเช่นนั้นจริง จึงเอยขึ้นว่า “แต่ความจริงที่แอบลักลอบซิเพคะ มีประตูเข้าออกไม่ใช้ ใช้ประตูข้างเข้าไปในตำหนักเย็น จากตรอกยาวของตำหนักเย็นก็ทะลุตรอกมืด เลี้ยวเข้าไปที่ทางเดินด้านข้างของสวนดอกไม้ในอุทยาน กิ่งและใบเจริญงอกงามที่ไหนกันเพคะ ยังมีต้นไม้ตั้งอยู่มากมายเหมือนภูเขาจำลอง ไม่มีผู้ใดสามารถเห็นได้ หากไม่ใช่ลักลอบคบชู้กับชายอื่น ใยถึงทำเรื่องที่ลึกลับซับซ้อนเช่นนี้กันเล่าเพคะ เสื้อผ้าที่บุรุษผู้นั้นสวมใส่ก็เหมือนจะมีร่างกายที่อวบอ้วน หน้าตางามเฉิดฉาย ท่าทางอ่อนโยนอย่างมาก คล้ายกับว่าฉากหนึ่งในละครอย่างมากเพคะ ”

“ก็ไม่ใช่ว่าเข้าวังว่าร้องรำหรือ ในวังทุกวันมีงานเลี้ยงที่ยิ่งใหญ่ ก็อาจจะว่าจ้างคณะบรรเลงดนตรีจากข้างนอกเข้ามาในวังก็ได้” ชูเซี่ยคาดเอาเอ่ยขึ้น

“เข้าวังเพื่อร้องรำบรรเลงเพลงก็ไม่น่าจะที่ต้องทำตัวหลบซ่อนเช่นนี้ อีกอย่างร้องรำไม่ได้เล่นมีคณะหรอกหรือ คนผู้หนึ่งเข้าวังแถมยังไม่เข้ามาตามทางหลัก ใช้วิธีการลึกลับซับซ้อนซ่อนตัวเข้าวังหลัง ข้าคิดว่าคงลักลอบทำสิ่งที่ผิดแน่เพคะ” เชียนซานปล่อยริมฝีปากที่กัดอยู่ออกมา

ชูเซี่ยหัวเราะเอ่ยขึ้นว่า “เอาละ เรื่องราวของผู้อื่นนี้ พวกเขาไม่ต้องยุ่งให้มากความหรอก ไม่เกี่ยวข้องกับพวกเขาก็พอแล้ว อย่าพูดเรื่องราวที่ไม่เป็นเรื่องนี้อีกเลย เจ้าออกจากวังรอบนี้ ช่วยข้ารับนายท่านเหมาและเจ้าถ่านเข้าวังมาด้วยแล้วกัน ”

เชียนซานจึงเอ่ยว่า “เพคะ บ่าวจะไปเดี๋ยวนี้” พูดจบ ไม่รอให้ถึงค่ำคืนที่มืดมิดก็รีบร้อบออกเดินทางไปแล้ว

หลังจากที่เชียนซานออกไป ชูเซี่ยก็นั่งอยู่บนเตียงนอนเล่น ยังคงจิบชาที่เย็นชืดลงเล็กน้อยในมือต่อ ไม่รู้เพราะเหตุใด ในใจคิดว่ารู้สึกถึงลางสังหรณ์ที่เกิดขึ้นมากมาย นางครุ่นคิดถึงสิ่งที่สัมพันธ์กับคำพูดของฮ่องเต้ที่พูดกับนางในวันนี้ วันนี้ที่ท้องพระโรง เซียวโหยวและขุนางที่มีความสัมพันธ์กับเขาพากันกราบทูลหนังสือต้องการให้แต่งตั้งหลี่เฉินเย่นเป็นรัชทายาท และมีลักษณะท่าทางของฮ้องเต้ เขาจึงไม่อาจที่จะยอมวางมือยุติเรื่องราวได้ แต่เขาสามารถเลือกใช้วิธีการใดได้หรือ

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า