ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 12

สรุปบท ตอนที่12 จับมือกัน: ชายาเกิดใหม่ของข้า

อ่านสรุป ตอนที่12 จับมือกัน จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บทที่ ตอนที่12 จับมือกัน คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่12จับมือกัน

จากมุมมองทางการแพทย์คงจะเป็นพันธุ์เกิดแปรผันระหว่างการย้อนยุคก็คล้ายๆกับแบทแมนหรือสไปเดอร์แมนมีพลังพิเศษบางอย่างแต่จนถึงตอนนี้นางยังไม่ทราบว่าตนเองมีพลังพิเศษเป็นอย่างไรนอกจากมีแรงเพิ่มและร่างกายยืดยุ่น

“คนหยาบก็คือคนหยาบ”เมื่อมี่เหอเดินผ่านข้างๆนางก็พูดเบาๆว่า“ผู้หญิงอย่างเจ้าไม่มีวันได้รับความรักจากท่านอ๋องหรอก”

ชูเซี่ยยิ้มเบาๆแต่ไม่พูดอะไรมองดูกิ่งทองใบหยกคู่นี้เดินผ่านหน้านางไปนางรู้สึกว่าสองคนนี้ช่างเหมาะสมกันจริงๆผู้ชายโหดเหี้ยมเอาแต่ใจผู้หญิงใจร้ายและหลอกลวงคู่ควรกันจริงๆ

ทั้งสามคนเดินนำพวกคนใช้เข้าไปในตำหนักโซ่วอันกำแพงสีแดงที่เหมือนตัวมังกรแยกตำหนักต่างๆออกชายคาของหลังคากระเบื้องเคลือบสีทองเอียงขึ้นยืนดูจากตำหนักโซ่วอันเห็นแต่หลังคากระเบื้องสีทองเชื่อมต่อกันหรูหราสง่างามเหมือนตำหนักฟ้า

แต่ไม่รู้ทำไมหลังเข้าพระราชวังในใจของชูเซี่ยก็มีความรู้สึกที่แปลกๆอยู่ความรู้สึกเช่นเดียวกับตอนที่นางไปเที่ยวพระราชวังปักกิ่งทั้งเคร่งขรึมทั้งหนักหน่วงอาจจะเป็นเพราะว่าดูนวนิยายและละครโทรทัศน์ที่เกี่ยวกับการต่อสู้และฮาเร็มมากเกินไปจึงรู้สึกว่าภายใต้แผ่นกระเบื้องสีทองกำแพงวังสีแดงนี้เต็มไปด้วยเลือดและน้ำตาของผู้หญิงจำนวนมากชีวิตที่มีสีสันเมื่อเข้าไปในพระราชวังนี้แล้วแม้จะดูภายนอกสง่างามและมีฐานะดีแต่พวกนางต่างก็เป็นผู้หญิงที่น่าสงสารที่สุดในโลกนี้

แม้อยากจะพบเจอกับครอบครัวก็ต้องรอคำสั่งของฮ่องเต้

หลังจากเดินเข้าตำหนักโซ่วอันแล้วก็เป็นลานที่ปลูกด้วยดอกโบตั๋นและดอกพระจันทร์รากต้นดอกพระจันทร์เลื้อยตามกำแพงออกดอกสีสันสดใสดูสวยยิ่งนัก

ดอกโบตั๋นปลูกไว้ที่มุมขวาของลานเป็นจำนวนมากดอกโบตั๋นที่งดงามเป็นสัญลักษณ์แห่งความรวยแต่ไม่รู้ทำไมต้องปลูกติดกับดอกพระจันทร์เพราะว่าดอกพระจันทร์เป็นดอกไม้ที่ปลูกง่ายแค่ให้น้ำให้ดินมันก็สามารถปีนไปเต็มทั้งพราะราชวังได้

เมื่อหลี่เฉินเย่นเดินมาถึงหน้าประตูเขาก็ปล่อยมือมี่เหอไปอย่างกะทันหัน

สองข้างมีผู้หญิงสิบกว่าคนนั่งอยู่น่าจะเป็นพระนางเจ้าของฮ่องเต้ชูเซี่ยไม่กล้าวิเคราะห์พวกนางตามอำเภอใจแค่ปล่อยให้หลี่เฉินเย่นจับนางเดินเข้าไปเมื่อมาถึงหน้าไทเฮาแล้วเขาก็ดึงมือชูเซี่ยเบาๆและคุกเข่าไหว้พร้อมกันพูดว่า“หลานขอกราบท่านย่า”

ชูเซี่ยก็ทำตาม“หลานสะใภ้ขอกราบท่านย่าขอให้ท่านย่าทรงพระเจริญเพคะ”ประโยคนี้นางเรียนมาจากละครโทรทัศน์ก่อนหน้านี้ละครฮาเร็มกำลังเป็นที่นิยมอยู่ทุกครั้งที่นางกลับบ้านจะเห็นคุณแม่กับคุณยายนั่งดูละครอยู่ซึ่งประโยคนี้เป็นประโยคที่นางได้ยินมากที่สุดถึงแม้ว่านางไม่รู้พูดแบบนี้จะถูกกฎมารยาทหรือไม่แต่คิดว่ามันเป็นประโยคที่มีความหมายดีน่าจะไม่ผิดหรอก

มี่เหอคุกเข่าลงอยู่ข้างๆหลี่เฉินเย่นพูดอย่างนุ่มนวลว่า“ข้าขอกราบเรียนไทเฮาเพคะ”ในฐานะพระชายารองนางไม่มีสิทธิ์เรียกท่านย่าเหมือนกับหลี่เฉินเย่นก็เพราะเหตุนี้นางจึงกัดฟันแน่นอดทนไว้แม้ว่าใบหน้าของนางจะดูอ่อนน้อมแต่ดวงตากลับมีร่องรอยความไม่พอใจอยู่

ไทเฮาตอบรับและพูดว่า“ทุกคนลุกขึ้น”

หลี่เฉินเย่นเอื้อมมือออกไปประคองมี่เหอลุกขึ้นตามความเคยชินแต่เมื่อสัมผัสถึงสายตาของไทเฮาจึงรีบเปลี่ยนยื่นมือไปพยุงชูเซี่ยลุกขึ้น

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า