ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 129

ตอนที่ 129 บุตรซ้ายของฮ่องเต้องค์ก่อน

ยามที่คนผู้นั้นบุกเข้ามาชูเซี่ยกำลังนั่งอ่านตำราอยู่ที่มุมห้อง

ดาบเหล็กที่เย็นชืดถูกวางพาดอยู่ที่ลำคอของนางตามด้วยเสียงทุ้มของชายหนุ่มที่มีน้ำเสียงเกรี้ยวกราดดังขึ้น “เหตุใดเจ้าจึงไม่ยอมช่วยนาง”

ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้น ชายหนุ่มที่ยืนอยู่ตรงหน้านางมีใบหน้าเย็นชา ดวงตาของเขาเต็มไปด้วยความเสียใจ ความโกรธแค้น ดวงไฟแห่งความแค้นราวกับจะเผาไหม้นางให้เป็นจุณ

เชียนซานพุ่งกายเข้ามาจากนั้นก็ใช้ดาบพาดคอของชายหนุ่มและเอ่ยเสียงกร้าว “วางดาบลงเดี๋ยวนี้!”

ชูเซี่ยก็กันไปสั่งเชียนซาน “เชียนซาน เจ้าออกไปก่อน”

เชียนซานส่ายหน้า “ผู้ใดก็ไม่อาจมาเอาดาบจ่อนายหญิงของข้า ต่อให้เป็นฮ่องเต้หรือเทวดามาจากไหนก็ไม่ได้!”

คำพูดโผงผางตรงไปตรงมาเช่นนี้หาไม่ได้เลยในวังหลวงแห่งนี้ แต่นี่ก็นับได้ว่าเป็นเอกลักษณ์ของเชียนซาน

ผู้บุกรุกเข้ามาก็คือเฉินหยวนชิ่ง ชายหนุ่มไม่ได้สนใจดาบของเชียนซานที่จ่ออยู่แม้แต่น้อย มือหนาขยับดาบบาดลึกลงไปที่ผิวของชูเซี่ยมากกว่าเดิม “ข้าได้ยินมาว่ายามที่เจ้าอยู่ที่มณฑลกวางตุ้งแม้แต่คนตายก็สามารถช่วยให้ฟื้นคืนได้ เจ้าสามารถช่วยอวี่จู๋ได้แต่เหตุใดจึงไม่ยอมช่วย หรือเป็นเพราะว่าเจ้าจงใจที่จะไม่ช่วยนางแต่แรก เจ้าเป็นถึงหวงกุ้ยเฟยแต่กลับรักใคร่หลงในตัวท่านอ๋อง ดังนั้นเจ้าจึงปล่อยให้น้องสาวของข้าตายใช่หรือไม่ เจ้าเป็นผู้ศึกษาวิชาแพทย์แต่เหตุใดจึงมีความคิดเลือดเย็นเลวทรามเช่นนี้”

ชูเซี่ยไม่ได้เอ่ยคำแก้ตัวใดๆออกไป แต่กลับเป็นเชียนซานที่เอ่ยตะคอกออกมาอย่างดุดัน “นายหญิงของข้าทุ่มสุดความสามารถที่จะช่วยรักษาน้องสาวของท่านแล้ว แม้แต่ยาแก้สารพัดพิษเม็ดสุดท้ายที่นางมีนางก็มอบให้น้องสาวของท่านไปแล้วแต่ก็ไม่อาจรักษาน้องสาวของท่านได้ ท่านจะโทษใครได้ โทษโชคชะตาของนางเถิด”

มีหรือที่เฉินหยวนชิ่งจะฟังคำที่เชียนซานพูดออกมา ดวงตาคมจ้องเขม็งที่ชูเซี่ยจากนั้นก็เอ่ยถามเสียงเย็น “ที่มณฑลกวางตุ้งมีหญิงสาวผู้หนึ่งทะเลาะกับสามี สุดท้ายนางก็แขวนคอตาย นางสิ้นลมหายใจไปแล้ว ทางบ้านของนางก็เตรียมจัดพิธีศพให้แต่เจ้าก็ช่วยนางกลับมาได้ไม่ใช่หรือ ที่มณฑลกวางตุ้งมีเศรษฐีผู้มั่งมีคนหนึ่ง นอนซมด้วยโรคภัยมานานหลายปี เชิญท่านหมอมารักษามากมายนับไม่ถ้วนแต่อาการก็ไม่ดีขึ้นมา แต่เจ้ากลับใช้เวลาเพียงแค่คืนเดียวก็ทำให้เขาสามารถก้าวลงจากเตียงได้แล้วใช่หรือไม่ ยังมีจอมยุทธอีกผู้หนึ่งที่ถูกพิษประหลาดเข้าไป ชีวิตเขาใกล้จะดับไปแล้วแต่เจ้ากลับใช้เวลาเพียงแค่หนึ่งชั่วยามก็สามารถแก้พิษให้เขาได้... คนพวกนี้อาการล้วนร้ายแรงกว่าอวี่จู๋ด้วยซ้ำ เจ้าช่วยพวกเขาได้แต่เหตุใดจึงช่วยอวี่จู๋ไม่ได้เล่า หากเจ้าทุ่มเทสุดความสามารถเพื่อช่วยนางแล้วไม่สามารถยื้อชีวิตอวี่จู๋ไว้ได้ข้าก็ไม่โทษเจ้า แต่เป็นเพราะเจ้ามันเห็นแก่ตัวไม่คิดจะช่วยนางแต่แรก คนเช่นเจ้าจะหรือที่ข้าต้องทน วันนี้ต่อให้ต้องแลกด้วยชีวิตของข้า ข้าก็จะแก้แค้นให้อวี่จู๋ให้ได้!”

เรื่องที่เขาพูดออกมาทั้งหมดล้วนเป็นความจริงทั้งสิ้น ดูท่าว่าเขาคงไปได้ยินเรื่องราวพวกนี้มาถึงได้เข้ามาในวังเพื่อคิดบัญชีกับนางสินะ หญิงสาวที่ทะเลาะกับสามีนางไม่ได้ตายเสียหน่อยแค่ร่างกายช็อกอยู่ก็เท่านั้น ส่วนเศรษฐีผู้นั้น เดิมทีก็ไม่ได้ป่วยหนักอะไรทั้งนั้นก็แค่ร่างกายเจ็บป่วยเล็กน้อยเท่านั้นแต่กลับคิดเองเออเองว่าตนเองป่วยหนักจึงนอนอยู่แต่บนเตียง วันๆนอนสบายนอนกินอาหารบำรุงจนกลายเป็นความดันโลหิตสูงขึ้นมา นางใช้การฝังเข็มเล็กน้อยเพื่อล้างเลือดให้เขาเท่านั้น ทั้งยังข่มขู่เขาไปอีกว่าหากว่าภายในคืนนี้ไม่ลงจากเตียงมาเดินเขาก็คงไม่อาจเดินต่อไปได้อีกแล้ว จากนั้นก็กลายเป็นว่าเศรษฐีผู้นั้นตกลงใจจนรีบผุดลุกขึ้นยืนเสียอย่างนั้น ที่เรื่องนี้เผยแพร่ออกไปก็เป็นเพราะเศรษฐีผู้นั้นโพนทะนาออกไปมากกว่า ส่วนจอมยุทธผู้นั้น เขาถูกศัตรูไล่ลาจนมาถึงมณฑลกวางตั้ง นางใช้เวลาหนึ่งชั่วยามในการแก้พิษให้เขาก็จริง แต่วิธีแก้พิษนางก็แค่มอบยาแก้พิษของท่านอาจารย์ที่ให้นางไว้แก่เขาก็เท่านั้น เพราะมันแก้พิษได้เป็นร้อยชนิดอยู่แล้ว

เรื่องที่เขากล่าวมาทั้งหมด ผู้ป่วยเหล่านั้นไม่ได้ตกอยู่ในภาวะอันตรายสักคน แต่ละคนต่างก็ปกติทั้งนั้น

ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมองเชียนซาน “เชียนซาน เจ้าออกไปก่อน การที่เขาบุกรุกเข้ามาในวังเกรงว่าเหล่าองครักษืคงตามหากันให้ควั่กแล้ว เจ้าออกไปดูต้นทางก่อน” แม้ว่าเสียงของนางจะเบามากแต่ก็แฝงไปด้วยความเด็ดขาด

เชียนซานลังเลเล็กน้อย นางยังอดมองชูเซี่ยอย่างเป็นห่วงไม่ได้

“วางใจเถิด ข้าไม่เป็นไร!”

เชียนซานจังเก็บดาบเข้าฝักจากนั้นก็เอ่ยเตือนเฉินหยวนชิ่ง “หาท่านกล้าทำร้ายนางล่ะก็ข้าจะไม่มีวันปล่อยท่านไปแน่ รวมถึงชีวิตคนตระกูลเฉินทั้งหมดด้วย” กล่าวจบนางก็ยอมออกไปแต่โดยดี

ชูเซี่ยเงยหน้าขึ้นมงเฉินหยวนชิ่ง นางเอื้อมมือออกก่อนจะปัดดาบที่จ่อคอนางออกและเอ่ยเสียงเด็ดขาด “แม่ทัพเฉิน นั่งลงก่อน!”

เฉินหยวนชิ่งเพ่งมองหญิงสาวตรงหน้า ร่างบอบบางค่อยๆนั่งลงช้าๆ ใบหน้าของนางไม่มีวี่แววของความหวาดกลัวทั้งยังไม่มีร่องรอยของความรู้สึกผิดแม้แต่น้อย น้ำเสียงยามที่นางเอ่ยปากดูสงบนิ่ง ดวงตาของนางไม่กระพริบด้วยซ้ำ ชายหนุ่มยอมเก็บดาบลงแต่โดยดีและนั่งลงตรงหน้าของนาง เสียงทุ้มที่เอ่ยยังดุดัน “ดี ข้าก็อยากลองฟังเจ้าแก้ตัวดูสักครั้ง!”

ชูเซี่ยยิ้มออกมาน้อยๆ “เรื่องอะไรที่ข้าจะต้องแก้ตัวด้วยเล่า อีกอย่างท่านเองก็พูดผิดไปเล็กน้อยนั่นก็คือที่ท่านกล่าวหาว่าข้าไม่ทุ่มเทสุดความสามารถในการรักษานาง อีกอย่างข้าช่วยนางเพราะว่าข้าเต็มใจหาใช่ภาระไม่ ดังนั้นท่านเองไม่มีสิทธิ์ที่จะมาจ่อดาบใส่ข้าเช่นนี้”

แม้ใบหน้าของเฉินหยวนชิ่งจะเย็นชาแต่ดวงไฟในตาของเขากำลังคุกรุ่นมากขึ้น “เจ้าพูดเช่นนี้หมายความว่าอย่างไร”

ชูเซี่ยสบสายตาของเขาจากนั้นก็เอ่ยเสียงจริงจัง “ความจริงก็คือข้าทำสุดความสามารถของข้าแล้ว ข้าเป็นเพียงหมอท่านหนึ่งไม่ใช่เทวดา!”

เฉินหยวนชิ่งนิ่งอึ้ง จากนั้นก็ส่ายหน้าอย่างไม่เชือ่ “ไม่ เจ้าพูดจาเหลวไหล แม้แต่คนตายเจ้าก็ยังช่วยให้ฟื้น...”

“แต่ทว่าข้าก็ไม่อาจรักษาเฉินอวี่จู๋ได้จริงๆ จนถึงตอนนี้ข้ายังไม่รู้ด้วยซ้ำว่านางถูกพิษหรือว่าป่วยเป็นโรคอะไร แม้แต่สาเหตุของโรคข้าก็ยังไม่ทราบ” นางยกตำราเล่มหนึ่งขึ้นมา เล่มนี้เป็นตำรายาที่เทพโอสถมอบให้แก่นาง ในนั้นบันทึกโรคมากมายที่ยากจะพบไว้ นับตั้งแต่ที่เฉินอวี่จู๋ตายไปนางก็นั่งอ่านตำราเล่มนี้อยู่เสมอเผื่อว่าจะเจอสาเหตุของโรคที่เฉินอวี่จู๋เป็นได้ “หลายวันมานี้ข้าเองก็ไม่ได้ต่างจากพวกท่านเท่าไหร่หรอกนะ หายปีที่ข้าศึกษาวิชาการแพทย์ข้าเองก็พูดได้ไม่เต็มปากหรอกนะว่าสามารถรักษาผู้ป่วยได้ทุกคน แต่อย่างน้อยข้าก็ยังรู้ว่าคนพวกนั้นป่วยเป็นอะไรตาย แต่อาการป่วยของน้องสาวท่านจนถึงบัดนี้ข้าก็ยังไม่ทราบ”

เฉินหยวนชิ่งจ้องมองเธออย่างสงสัย “นอกจากเจ้าจะไม่ยอมช่วยน้องข้าแล้วเจ้ายังกล้ามาเล่นลิ้นอีกหรือ เจ้ากลัวว่าข้าจะสังหารเจ้าเลยมาเล่นลิ้นหาข้อแก้ตัวมากมายใช่หรือไม่”

ชูเซี่ยยิ้มอย่างไม่แยแส “ท่านฆ่าขาไม่ได้หรอก!”

เฉินหยวนชิ่งชะงักก่อนจะยิ้มเย็น “เจ้าจะมั่นใจเกินไปแล้ว ตอนนี้หากข้าจะลงมือกับเจ้า สังหารเจ้าก็ง่ายเสียยิ่งกว่าง่าย! เจ้าคิดว่าสาวใช้ข้างกายเจ้าจะกลับมาช่วยเจ้าได้ทันงั้นหรือ เกรงว่าตอนที่นางเข้ามาเจ้าก็คงกลายเป็นศพไปแล้ว!”

ชูเซี่ยขยับมือซ้ายเบาๆก็บังเกิดแสงประกายที่หางตาจากนั้นเข็มทองเล่มหนึ่งก็พุ่งตรงไปที่เฉินหยวนชิ่ง เฉินหยวนชิ่งไม่ทันระวังจึงถูกเข็มทองปักลงที่จุดชีพจนบนร่าง นั่นทำให้ร่างสูงไม่อาจขยับเขยื้อนได้ทั้งยังเอ่ยปากพูดไม่ได้ ทำได้เพียงใช้สายตาเบิกกว้างจับจ้องนางอย่างตื่นตะลึงเท่านั้น

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า