ตอนที่ 133 พลิกชีวิต
หลี่เฉินเย่นพูดอย่างเย็นชา “เป็นแผนที่โหดเหี้ยมยิ่งนัก!” เขาหยุดไปชั่วครู่แล้วถามขึ้นมาว่า “แล้วเสด็จพี่ล่ะทำไมเขาถึงได้ถูกจับกุม”
เชียนซานมองหลี่เฉินเย่นแวบหนึ่งแล้วกล่าว "ท่านอ๋องเจิ้งหย่วนก็เหมือนกันกับท่านที่ได้รับจดหมายนกพิราบ ระหว่างทางที่แอบซุ่มนำคนบุกเข้าวัง ราชครูก็กราบทูลฮ่องเต้ว่าท่านอ๋องลอบวางแผนก่อการกบฏ จากนั้นฮ่องเต้ก็ทรงกริ้วจับกุมเขาเข้าคุกนักโทษประหาร"
เสนาบดีหลี่ส่ายหน้า "ตามแผนของเขาแล้ว ท่านอ๋องทั้งสองต้องโทษ พอฮ่องเต้สวรรคต คนที่ต้องครองราชบัลลังก์ต่อก็คือเขา!"
"จิตใจโหดเหี้ยมยิ่งนัก!" เซียวโหยวพูดอย่างโมโห
เพียงแค่อยู่ในที่เกิดเหตุใครหน้าไหนก็ไม่อาจพูดหนุนได้ หากหลี่อวิ๋นหลี่โหดเหี้ยม แล้วฮ่องเต้ที่สวรรคตไปไม่โหดเหี้ยมหรอกหรือ เพื่อขึ้นครองราชบัลลังก์ถึงกับปลงพระชนม์ฮ่องเต้ที่เป็นพระบิดา ลงมืออย่างเหี้ยมโหด แต่กลับเลี้ยงดูบุตรของพี่น้องเป็นบุตรบุญธรรมด้วยความเมตตาจอมปลอมภายใต้ชื่อเขา ทำลายชีวิตพี่น้องไปหลายคน อีกอย่าง หากไม่ใช่เพราะฮ่องเต้ตัดใจลงมือกับบุตรของตนเองได้ลงคอ แผนของหลี่อวิ๋นหลี่จะสำเร็จหรือ เรื่องทั้งหมดทุกสิ่งอย่างก็ต้องตำหนิความโหดเหี้ยมไร้เมตตาของฮ่องเต้ด้วย
เสนาบดีหลี่พูดขึ้นด้วยความกลัว "โชคดีที่ท่านอ๋องออกจากวังแล้ว มิเช่นนั้น อุบายของเขาคงได้สำเร็จจริง ๆ ตอนนี้ฮ่องเต้สิ้นพระชนม์แล้ว แม้ท่านอ๋องจะไม่ใช่รัชทายาท แต่ก็เป็นบุคคลที่ถูกเลือกให้เป็นทายาทขึ้นครองราชย์ต่อ หลี่อวิ๋นหลี่วางแผนมาเนิ่นนาน แต่ก็สำเร็จไปได้ครึ่งเดียว เป็นการตัดชุดแต่งงานให้กับท่านอ๋อง!"
เซียวโหยวส่งเสียงอืม "ที่เสนาบดีหลี่พูดมานั้นไม่ผิด ตอนนี้พวกเราทำได้แค่รอข่าวออกมาตอนฟ้าสางแล้วค่อยเข้าวังทันที!"
หลี่เฉินเย่นไม่ได้สนใจในราชบัลลังก์ เขาเพียงแค่ถามเชียนซานว่า “เมื่อครู่เจ้าบอกว่าพรรคมังกรเหินมีคนทรยศ เกิดอะไรขึ้นหรือ”
เชียนซานขบเคี้ยวเขี้ยวฟันตอบ “หลังจากที่ข้าส่งสัญญาณออกไป เดิมทีก็คิดจะนำคนของพรรคมังกรเหินบุกโจมตีวังหลวง แต่พี่น้องทั้งหลายก็ถูกวางยาพิษไปเสียก่อน เป็นสายที่อยู่ในพรรคมังกรเหินวางยา จุดประสงค์คือยับยั้งไม่ให้พวกเราเข้าวังไปช่วยเจ้านาย พวกเราต้องสูญเสียงกำลังไปมากมายถึงได้กำราบคนทรยศจนรู้ความจริงของเรื่องราว ที่แท้พวกเขาก็ถูกหลี่อวิ๋นหลี่ซื้อตัวไว้แล้ว นับตั้งแต่ที่เจ้านายเริ่มให้พวกข้าตรวจสอบตัวตนของหลี่อวิ๋นหลี่ หลี่อวิ๋นหลี่ก็สั่งให้คนวางยาพิษในอาหารพี่น้องของเราทีละนิด ช่างชั่วช้าจริง ๆ!”
การที่พรรคมังกรเหินมีคนทรยศเป็นเรื่องที่ไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน พรรคมังกรเหินเป็นพรรคที่ถ่อมตนมาโดยตลอด แต่ไหนแต่ไรมาแทบจะสนใจสิ่งใด ถึงแม้จะรับหน้าที่ตรวจสอบภารกิจอำนาจการบริหารงานบ้านงานเมือง แต่เพราะเจ้านายของพรรคมังกรเหินเป็นคนผู้นั้นที่มีอำนาจที่สุดในวังหลัง ดังนั้น ภายในพรรคมังกรเหินจึงไม่เอ่ยถามเรื่องงานบ้านงานเมือง ทั้งนี้จะได้ไม่ขัดแย้งกับผู้เป็นนาย
“ถ้าอย่างนั้นตอนนี้สถานการณ์ภายในวังหลวงเป็นอย่างไรบ้าง สถานการณ์เจ้านายของพวกเจ้าเป็นอย่างไร” แววตาของหลี่เฉินเย่นดูกระวนกระวาย ตอนนี้สิ่งที่ทำให้เขารู้สึกไม่สบายใจก็คือชูเซี่ย นางถูกส่งเข้าคุกหลวงด้วยโทษฐานปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ต่อไปต้องได้รับโทษ!
เชียนซานตอบว่า “วางใจเถอะ ตอนนี้เจ้านายยังอยู่ดี จากข่าวของคนที่อยู่ในวังบอกว่าตอนนี้เจ้านายกับจูฟางหยวนอยู่ด้วยกัน ท่านอ๋องเจิ้งหย่วนถูกคุมขังในห้องนักโทษประหารชีวิต สถานการณ์ทางเขาค่อนข้างอันตราย เขาได้รับบาดเจ็บสาหัสมาก”
หลี่เฉินเย่นนั่งไม่ติดแล้ว เขาลุกขึ้นยื่นทันที “รอไม่ได้แล้ว พวกเราจะบุกเข้าวังหลวงเดี๋ยวนี้”
เซียวโหยวยืนขึ้นยับยั้งเขาไว้แล้วกล่าวว่า “ไม่ได้ พวกเราต้องรอ รอคนในวังออกมาประกาศเรื่องการสวรรคต”
หลี่เฉินเย่นกล่าวอย่างร้อนรน “รอไม่ได้แล้ว หากรออีกต่อไปเสด็จพี่คงได้ตายเป็นแน่!”
เชียนซานพูดขึ้นว่า “ท่านอ๋องวางใจได้ ท่านหมอหลวงชางกวนแอบไปรักษาแผลให้ท่านอ๋องแล้ว เพียงแต่สถานการณ์ตอนนี้เป็นอย่างไรนั้นยังไม่อาจทราบได้”
เสนาบดีหลี่ก็เป็นกังวลมากเช่นกัน เขามักจะมองหลี่อวิ๋นกังในแนวโน้มที่ดีมาตลอด ตอนนี้พอได้ยินว่าหลี่อวิ๋นกังเกิดเรื่อง เขาก็ร้อนใจราวกับถูกไฟเผา แต่ในเวลานี้ไม่อาจตีตนก่อนไข้ได้ ดังนั้น เขาจึงพูดขึ้นมาว่า “ในเมื่อมีท่านหมอหลสวงชางกวนคอยดูแล พวกเราก็วางใจได้ชั่วขณะ เหลือแค่เฝ้ารอให้คนในวังออกมาประกาศข่าวสวรรคตโดยเร็ว เราก็จะสามารถเข้าวังได้ในทันที ยิ่งยื้อเวลาไว้นานเท่าไหร่ก็ยิ่งเอื้อประโยชน์ให้หลี่อวิ๋นหลี่มากเท่านั้นจนเขามีเวลามากพอที่จะจัดการเรื่องทั้งหมด”
หลี่เฉินเย่นรู้ว่าในเวลานี้ต้องอดทน ใจเหมือนกับถูกทรมานโยนไว้ในกองไฟ เวลาผ่านไปผ่านไปแต่ละนาทีแต่ละวินาทีอย่างทรมานอย่างถึงที่สุด
สุดท้าย ชั่วยามสุดท้ายแห่งการทรมานก็มาถึง จงเจิ้งออกมาประกาศข่าวเรื่องการสวรรคต ให้ หนิงอานอ๋องเข้าวังไปร่วมพิธีศพ!
หลี่เฉินเย่นนำทัพล้อมวังหลวงไว้ ผู้คนต่างก็เข้าวังอย่างเกรียงไกร
ในเวลานี้ภายในวังไว้ทุกข์อย่างเงียบสงัด กลิ่นคาวเลือดคละคลุ้งไปทั่วพระราชวัง หลี่อวิ๋นหลี่ใช้เวลาครึ่งคืนในการชะล้างร่องรอยชีวิตที่สูญเสียไปในวังหลวง แต่เลือดเหนียวเหนอะยังคงชะล้างไม่ออก
ระฆังมรณะโหยหวนกึกก้องไปทั่วแคว้น!
หลี่เฉินเย่นที่อยู่ในฐานะอ๋องควบคุมพระราชวังเอาไว้ได้อย่างรวดเร็ว เดิมทีคิดว่าจะมีการต่อสู้กันอย่างดุเดือด แต่ภายในวังนั้นเงียบสงบมาก แม้กระทั่งร่องรอยของอ๋องเก้ากับราชครูก็ไม่มี
ที่แท้ หลังจากหลี่อวิ๋นหลี่รู้ว่า หนิงอานอ๋องไม่ตกหลุมพราง เขาก็ถอนตัวออกไปแล้ว เพราะเขารู้ว่าแม้ตนเองจะจัดการได้อย่างสมบูรณ์แบบไร้จุดด่างพร้อย ท้ายที่สุดก็ไม่อาจขึ้นครองราชบัลลังก์ได้อยู่ดี เพราะหลี่เฉินเย่นไร้ความเกี่ยวข้องกับเรื่องนี้อย่างสมบูรณ์แบบ เพราะเขาไม่มีความสามารถพอที่จะโยนความผิดให้หลี่เฉินเย่น เว้นแต่ว่าเขาจะหนีไปอย่างไร้ทางเลือก
ทว่าเป้าหมายของเขาบรรลุแล้ว เขาล้างแค้นสำเร็จแล้ว เรื่องราชบัลลังก์ เดิมทีก็ไม่ได้อยู่ในแผนการของเขา เขาเพียงแค่โกรธจนทนไม่ได้เท่านั้นเอง แม้ตัวเขาจะไม่ได้สนใจ แต่ก็อยากจะยึดไว้ไม่ให้ราชบัลลงก์ตกไปอยู่ในมือของคนอื่น
แต่ชูเซี่ยกลับยังไม่สามารถออกมาได้ เพราะทหารองครักษ์ในวังยืนยันว่าชูเซี่ยปลงพระชนม์ฮ่องเต้ ทั้งยังประดาศออกไปทั่วอย่างรวดเร็ว สามารถพูดได้เลยว่าหลังจากที่หลี่อวิ๋นหลี่จากไปแล้ว ได้ทิ้งปัญหาที่แก้ได้ยากอันใหญ่หลวงไว้ให้ เรื่องโทษฐานแม้จะยังไม่ชัดเจน แต่นางก็ยังมีสิ่งที่น่าสงสัย ไม่ได้บริสุทธิ์เสียทีเดียว นางเองก็ไม่สามารถออกจากคุกหลวงได้ มิฉะนั้น หลี่เฉินเย่นก็ต้องได้รับการชี้หน้าด่ากราดจากผู้คน ได้รับการตำหนิจากขุนนาง และเขาก็จะไม่สามารถขึ้นครองราชบัลลังก์เป็นกษัตริย์ได้
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...