ตอนที่ 134 ผิดพลาดเกิดไป
หลังจากเสร็จสิ้นเคลื่อนพระศพของฮ่องเต้ไปฝังไว้ที่สุสานหลวงที่เขาหลิงซาน เพียงแต่ไม่รู้ว่าในปรโลก เขาจะมีหน้าไปพบเสด็จพ่อของเขาหรือไม่ ท่านผู้นั้นที่ถูกเขาสั่งหารเพื่อแย่งชิงบัลลังก์
วันที่แปด เดือนหก หลี่เฉินเย่นขึ้นครองราชย์ เปลี่ยนรัชศกเป็นเจียผิง!
สิ่งที่ทำเป็นอย่างแรกหลังจากฮ่องเต้เจียผิงขึ้นครองราชย์คือการสืบหาฆาตรกรที่ปลงพระชนม์ฮ่องเต้พระองค์ก่อน
เขาไต่สวนองครักษ์และข้ารับใช้ที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยวันนั้นด้วยตนเอง องครักษ์บอกว่าหลังจากบุกเข้าตำหนักฉ่ายเหว่ยก็เห็นฮ่องเต้นอนจมกองเลือดแล้ว และตอนนั้นในตำหนักฉ่ายเหว่ยก็มีเพียงเว่ยกงกงที่ตายไปแล้วกับหวงกุ้ยเฟยเท่านั้น บวกกับตอนนั้นในมือของหวงกุ้ยเฟยถืออาวุธอยู่ ดังนั้นจึงตัดสินว่าหวงกุ้ยเฟยเป็นฆาตรกรฆ่าฮ่องเต้พระองค์ก่อน
แต่ข้ารับใช้ในตำหนักฉ่ายเหว่ยล้มล้างคำให้การนี้ ข้ารับใช้บอกว่าตอนนั้นมีชายคนหนึ่งเข้ามา หลังจากที่เขาเข้าไปในห้องก็ปิดประตู หลังจากออกมาแล้ว องครักษ์ก็บุกเข้าไป และนั่นหมายความว่า ตอนนั้นไม่ได้มีหวงกุ้ยเฟยอยู่ในตำหนักเพียงคนเดียว รวมถึงตอนที่องครักษ์บุกเข้าไป ข้ารับใช้ก็ตามเข้าไปด้วย ตอนนั้นหวงกุ้ยเฟยสลบไปแล้ว และมีความเป็นไปได้สูงเช่นกันที่จะมีคนเอามีดสั้นวางไว้ในมือของหวงกุ้ยเฟย และต่อจากนั้นจงเจิ้งที่รับใช้ข้างกายฮ่องเต้ยืนยันว่าอ๋องเก้าเข้าไปในห้อง ตอนนั้นจงเจิ้งรับผิดชอบหน้าที่คอยเฝ้าปรนนิบัติอยู่ข้างนอกห้อง หากไม่มีคำสั่งของฮ่องเต้ก็ห้ามใครเข้าไปข้างใน เพียงแค่สั่งให้เขาคอยเฝ้าปรนนิบัติอยู่ตรงเฉลียงด้านหน้าเท่านั้น ดังนั้นตอนที่อ๋องเก้าเข้าไปข้างใน เขาจึงคิดว่าเป็นรับสั่งของฮ่องเต้ หลังจากอ๋องเก้าออกไปแล้ว บนเสื้อก็เหมือนจะย้อมไปด้วยเลือดสด เขากำลังสงสัยคิดจะเข้าไปตรวจดูข้างใน ทว่าองครักษ์ก็บุกเข้าไปเสียก่อน
จากคำให้การโดยรวม บวกกับการวินิจฉัยของหมอหลวง ตอนนั้นหวงกุ้ยเฟยได้รับบาดเจ็บสาหัส อย่าว่าแต่ทำร้ายคนเลย แค่ดูจากอาการบาดเจ็บของนาง เพียงนางขยับตัวเบา ๆ แผลก็ฉีกแล้ว อีกทั้งฮ่องเต้เป็นคนมีวรยุทธ์ ดังนั้นหวงกุ้ยเฟยจึงไม่มีแรงแทงฮ่องเต้จนสิ้นใจได้
ต่อมาก็มีองครักษ์สองนายกลับคำให้การ บอกว่ามั่นใจว่าตอนนั้นอ๋องเก้าเข้าไปในห้อง หลังจากเขาออกมา มือก็ย้อมไปด้วยเลือด
ดังนั้น อ๋องเก้าจึงเป็นผู้ต้องสงสัยที่ฆ่าฮ่องเต้พระองค์ก่อน ตอนนี้มีเพียงวิธีเดียวคือต้องจับกุมอ๋องเก้าให้ได้เร็วที่สุด จากนั้นก็ไต่สวนอย่างละเอียดถึงจะรู้เรื่องราวที่แท้จริง
หลังจากออกคำสั่งจับนักโทษ ประชาชนก็ดี ทางการก็ดี บู้ลิ้มก็ดี ล้วนแต่สืบหาที่ที่อ๋องเก้าอยู่
คดีนี้ความจริงแล้วมีหลายอย่างที่ไม่สมเหตุสมผลอย่างมาก ทั้งยังมีขุนนางสงสัย แต่หลี่เฉินเย่นขึ้นครองราชย์เป็นฮ่องเต้ เขาเอ่ยคำประกาศิตออกไปแล้ว แม้จะมีข้อสงสัยก็ไม่กล้าเสนอความเห็นออกมา อีกอย่าง มีแค่ข้อสงสัยแต่ไร้หลักฐาน ใครจะกล้าท้าทายอำนาจแห่งสรวงสวรรค์หรือ
ฮองเฮาถูกแต่งตั้งเป็นเว่ยจิงไทเฮา ย้ายไปที่ตำหนักโส่วหนิง หรงเฟยถูกแต่งตั้งเป็นหรงกุ้ยไท่เฟย อยู่ตำหนักโส่วหนิงร่วมกับเว่ยจิงไทเฮา หลิงกุ้ยเฟยถูกแต่งตั้งเป็นหลิงกุ้ยไท่เฟย เข้าพักที่ตำหนักหมิงเยว่ ฉินเฟยถูกแต่งตั้งเป็นฉินไท่เฟย อยู่ที่ตำหนักเฉี่ยนหมิง
เจิ้งหย่วนอ๋องถูกแต่งตั้งเป็นเจิ้งกั๋วอ๋อง เพิ่มศักดินาให้อีกหนึ่งขั้นเป็นแม่ทัพเจิ้งกั๋ว
อัครมหาเสนาบดีซ้ายขวาคือเสนาบดีหลี่กับเซียวโหยว หลี่ซี่ถูกแต่งตั้งเป็นรองเสนาบดีกรมการกลาโหม จูฟางหยวนยังคงผู้บัญชาการทหารองครักษ์พระราชวังชั้นใน นี่เป็นความคิดของเขา เขาบอกหากชูเซี่ยอยู่ในวังแม้เพียงวันเดียว เขาก็รู้สึกไม่สบายใจ แม้จะไม่มีความสามารถอะไร แต่ก็ยังหวังว่าจะได้อยู่เคียงข้างนาง คำพูดนี้แม้จะทำให้หลี่เฉินเย่นรู้สึกไม่สบายใจ แต่พอได้ผ่านพ้นเรื่องราวมามากมาย เขาก็รู้ว่าจูฟางหยวนไม่ได้คิดอะไรเกินเลยกับชูเซี่ย ดังนั้นจึงยอมทำตามสิ่งที่เขาขอ
เพราะความสัมพันธ์ระหว่างจิ้งกั๋วโฮ่ว หลิวมี่เหอก็เข้าวังเช่นกัน นางยังคงถูกแต่งตั้งเป็นโหรวเฟย เข้าพักตำหนักเพียวสวี่ แต่เข้าวังโดยที่ไร้ความโปรดปราย ถึงแม้จะถูกแต่งตั้งเป็นโหรวเฟยก็ไม่มีใครเห็นความสำคัญ ไม่ว่าจะอย่างไร ตอนนี้นางถือว่าเป็นสนมเพียงหนึ่งเดียวของหลี่เฉินเย่น ตามกฎของบรรพบุรุษแล้ว ยังคงต้องตั้งตั้งตำแหน่งเฟยให้
ชูเซี่ยยังคงอยู่ที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยเช่นเดิม เดิมทีหลี่เฉินเย่นคิดจะเปลี่ยนที่ให้นาง แต่นางบอกว่าคุ้นชินกับตำหนักฉ่ายเหว่ยแล้ว ไม่คิดอยากเปลี่ยน นางยืนยันเช่นนี้ หลี่เฉินเย่นก็ได้แต่ยอมแพ้
แต่ชูเซี่ยยังคงไม่ถูกแต่งตั้งเป็นไท่เฟย เหล่าขุนนางก็มีความเห็นต่างมากมาย ขุนนางทั้งหลายต่างก็เขียนยื่นฎีกา ขอให้แต่งตั้งหวงกุ้ยเฟยเป็นหวงกุ้ยไท่เฟยโดยเร็ว แต่ก็ล้วนถูกหลี่เฉินเย่นถ่วงลากเอาไว้อย่างสบาย
ไม่ใช่เพราะเขาอยากแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นกุ้ยไท่เฟย แต่เขาอยากแต่งตั้งชูเซี่ยเป็นฮองเฮา
แต่เขารู้ดีว่าวันข้างหน้าไม่อาจยกเรื่องนี้ขึ้นมาพูดบนโต๊ะได้ เขาต้องส่งชูเซี่ยออกไปนอกวังอีกครั้ง จากนั้นก็จัดการสถานะให้นางใหม่ แต่งชูเซี่ยเข้าวังเป็นทางการเพื่อเป็นฮองเฮา
ภายใต้นามฮ่องเต้พระองค์ก่อนมีเหล่าบรรดาองค์ชายสิบกว่าพระองค์ แต่ทว่าไม่ใช่ลูกที่เกิดจากเขา เหล่าบรรดาพี่น้องที่เป็นบุตรของฮ่องเต้พระองค์ก่อน หลี่เฉินเย่นจัดการเรื่องราวให้อยู่ในสภาพปกติดังเดิม แต่งตั้งบรรดาองค์ชายทั้งหลายเป็นอ๋อง อีกทั้งยังให้พวกเขารู้จักบรรพบุรุษ รับรู้ถึงบิดาผู้ให้กำเนิดของตน สืบทอดสายเลือดของพวกเขา และเป็นการให้ฮ่องเต้พระองค์ก่อนที่อยู่ในปรโลกได้รับผิดชอบกับเหล่าพี่น้องของเขาด้วย
วิธีการนี้ทำให้บรรดาขุนนางซาบซึ้งอย่างยิ่ง และทำให้บรรดาอ๋องที่ถูกแต่งตั้งให้เป็นผู้ตรวจการในถิ่นทุรกันดานต่างซาบซึ้งอย่างมาก แต่ละคนต่างก็เดินทางเข้าเมืองหลวงมาเพื่อแสดงความขอบคุณ
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...