ตอนที่ 141 พูดความจริงออกมา
ใต้เท้าซือคงหันกลับมามองเชียนซาน ดวงตาที่แสดงขึ้นความอ่อนแอฉายวาบขึ้นมาก่อนถูกกลบไปอย่างรวดเร็ว “ไม่ล่ะ!” แม้ว่าท่าทางของชายหนุ่มผู้นี้จะดูเหมือนเย็นลงแล้ว แต่ทว่าน้ำเสียงที่สั่งเล็กน้อยก็ยังฟ้องให้เห็นสภาพจิตใจของเขาอยู่ดี เชียนซานเงยหน้ากระอดสุราเข้าปากคำโตจากนั้นก็เอ่ยเสียงเย็น “ยังต้องรออีกนานนัก ท่านก็ทำใจให้สบายก่อนเถิด!”
ใต้เท้าซือคงหนุ่มทำสีหน้าครุ่นคิดก่อนจะหยิบไหสุราในมือของเชียนซานไปและยกดื่มขึ้นคำใหญ่ๆจนเป็นเสียงดังอึกอึก จากนั้นก็ยกมือขึ้นเช็ดสุราที่มุมปากของตนและเริ่มเงียบอีกครั้ง
หลวี่หนิงเห็นว่าความขุ่นเคืองก่อนหน้านี้ของเชียนซานที่มีต่อตนหายไปแล้วก็ย้อนกลับไปนึกถึงของสิ่งนั้นที่มารดาของนางทิ้งไว้ให้เป็นของดูต่างหน้าแก่หญิงสาวคนนี้ แม้ว่าเขาจะถูกเชียนซานสบประมาทและลงไม้ลงมือแล้ว แต่ทว่าส่วนลึกในจิตใจของเขาก็ยังอดที่จะรู้สึกผิดไม่ได้ แม้ว่าตอนนี้เขาจะเห็นว่าใบหน้าของนางเรียบสงบแต่ว่าเขาก็ยังอยากเอ่ยขออภัยแก่นางอยู่ดี “แม่นางเชียนซาน ข้าขออภัยเจ้าจริงๆ ที่ทำปิ่นปักผมของเจ้าหัก ขออภัยจริงๆ!”
เดิมทีเชียนซานก็รู้สึกโมโหมากแต่ความกรุ่นโกรธก่อนหน้านี้ก็หายไปเกือบหมดแล้ว อีกอย่างตัวปิ่นเองก็ถูกซ่อมแล้ว นายหญิงสั่งให้ช่างทำเครื่องประดับในวังหลวงซ่อมแซมให้นางแล้ว ตอนนี้มันถูกห่อด้วยทองคำบริสุทธิ์ดูๆไปแล้วก็ไม่เลว
หญิงสาวดึงปิ่นปักผมออกมาจากผมแล้วชี้ไปตรงตำแหน่งที่ถูกห่อหุ้มด้วยทองคำให้อีกฝ่ายดู “แม้ว่าปิ่นจะถูกซ่อมไปแล้วก็จริง แต่ทว่าท่านเองก็ต้องชดเชยให้ข้าอยู่ดี เพราะว่าตรงตัวปิ่นตรงนี้มันหุ้มด้วยทองคำบริสุทธิ์ ท่านต้องชดเชยให้ข้าสิบสองตำลึงทอง!”
หลวี่หนิงก็รีบร้อนเอ่ย “ข้าชดใช้ให้ ข้าชดใช้ให้ แต่ตอนนี้ข้าไม่มีเงินสิบสองตำลึงทองอยู่กับตัว พรุ่งนี้ข้าจะนำมาให้เจ้าแน่!”
ใต้เท้าซือคงที่ได้ยินบทสนทนาของทั้งคู่ก็รู้สึกวุ่นวายอยู่บ้าง ในเวลาเช่นนี้เมื่อมีเสียงอึกทึกเล็กน้อยก็ทำให้หัวใจของเขารู้สึกกังวลและวุ่นวายมากขึ้น ดังนั้นเขาจึงตวัดสายตามองด้วยความรู้สึกที่ไม่พอใจเท่าใดนักทั้งยังกวาดสายตามองปิ่นในมือของหญิงสาวแบบผ่านๆแวบหนึ่ง แต่ทว่าก็กลับมาหยุดดูและนั่นก็ทำให้หัวใจของเขาแทบหยุดเต้นขึ้นมา ชายวัยกลางคนรีบพุ่งเข้าไปกระชากปิ่นมาไว้ในมือทั้งยังพลิกดูรายละเอียดไปมาอย่างระมัดระวัง
เชียนซานตื่นตระหนกไปหมดรีบคว้าปิ่นปักผมในมืออีกฝ่ายกลับมา ทั้งยังเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงไม่พอใจ “ท่านคิดจะทำอะไร”
ทุกคนในที่นี้มองท่านใต้เท้าซือคงเป็นตาเดียว รวมไปถึงบุตรชายทั้งสามคนของเขาด้วยเพราะตั้งแต่เกิดมาไม่เคยมีครั้งใดที่เห็นบิดาของตนเสียมารยาทถึงเพียงนี้
แต่ทว่าท่านใต้เท้าซือคงก็หาได้สนใจไม่ เขารีบร้อนเอ่ยถามหญิงสาวตรงหน้า “เจ้าไปนำปิ่นนี่มาจากที่ใดหรือ เจ้าชื่ออะไร ปีนี้อายุเท่าใดแล้ว”
เชียนซานปักปิ่นกลับไปที่ผมของตนเช่นเดิมจากนั้นก็ตอบเสียงเย็น “ท่านจะสนใจไปทำไมกันว่าข้าได้ปิ่นมาจากที่ใด จะถามอะไรเยอะแยะกัน สำรวจสำมะโนครัวหรือ”
ใต้เท้าซือคงไม่ยอมแพ้ง่ายๆพยายามเอื้อมมือหมายจะไปดึงปิ่นปักผมของนางแต่เชียนซานก็หลบได้ ชายวัยกลางคนพยายามแย่งอีกหลายครั้งจนสุดท้ายก็ล้มลงไปกองกับพื้น
คุณชายจางทั้งสามคนถลาเข้าไปพยุงร่างของท่านเสนาไว้ หลวี่หนิงรู้สึกโมโหเชียนซานขึ้นมาจึงตวาดลั่น “เจ้าคิดจะทำอะไร อายุเขาก็ไม่น้อยแล้วเจ้ายังกล้าลงไม้กับเขางั้นหรือ”
เชียนซานก็บันดาลโทสะไม่แพ้กัน “ข้าลงไม้ลงมือกับเขาที่ไหนกัน หากเขาไม่พยายามแย่งของของข้า ข้ามีหรือจะผลักเขาล้ม หรือท่านไม่เห็นว่าเขาพยายามแย่งของของข้าเล่า”
คุณชายใหญ่ตระกูลจากที่พยุงบิดาของตนเองอยู่ก็อดเอ่ยถามไม่ได้ “ท่านพ่อ ท่านคิดจะทำอะไรกันแน่”
ดวงตาของใต้เท้าซือคงมองตรงไปข้างหน้าจ้องเขม็งไปที่เชียนซาน เขาชี้นิ้วไปที่เชียนซานและเอ่ยถามด้วยน้ำเสียงตื่นเต้น “เจ้าชื่อจางหมิงจู ปีนี้อายุยี่สิบเอ็ดใช่หรือไม่”
เชียนซานยิ้มเย็น “ผายลมเถิด ข้าชื่อเชียนซาน แต่ปีนี้อายุเท่าไหร่ข้าก็ไม่ทราบเช่นกัน ท่านจะรู้ไปทำไมกัน ตาเฒ่าเจ้าเล่ห์ อย่ามาพูดพล่ามให้มากความและอย่าหวังจะได้แตะต้องของของข้าอีก!”
คุณชายใหญ่ได้ยินคำพูดของบิดาก็นิ่งงัน ชายหนุ่มเงยหน้าจับจ้องไปที่เชียนซานจากนั้นก็เอ่ยถามอย่างสงสัย “ท่านพ่อ ท่านดูผิดหรือไม่”
ใต้เท้าซือคงปัดมือของบุตรชายออกและเอ่ยสั่ง “เร็ว ไปนำปิ่นปักผมนั่นมาให้ข้าดูชัดๆ เมื่อครู่ข้าเห็นว่าตัวปิ่นถูกสลักอักษรคำว่า ‘ยิง’ ลงไป ตัว ‘ยิง’ นั้นข้าเป็นคนสลักมันลงไปเองกับมือ มันเป็นของที่ข้ามอบให้แก่มารดาของเจ้าเป็นของขวัญวันเกิดและปิ่นมันมีเป็นคู่”
เชียนซานเองก็รู้สึกประหลาดใจไม่น้อย ปิ่นปักผมชินนี้นางปักไว้บนผมตลอดเวลา นางรู้มานานแล้วว่าบนตัวปิ่นมีจารึกอักษรตัวเล็กๆไว้และตัวนั้นก็คือ ‘ยิง’ จริงๆ แต่ทว่าตัวอักษรมันก็เล็กมาเสียจนหากไม่เพ่งดูให้ดีๆก็ดูแทบไม่ออก
คุณชายจางลุกขึ้นยืนเต็มความสูงก่อนจะกวาดสายตาพิจารณาเชียนซานจากนั้นก็เอ่ยเสียงทุ้มนุ่ม “แม่นาง ข้าขอดูปิ่นปักผมของเจ้าหน่อยเถิด!”
เชียนซานส่ายหน้าแทบจะทันที !
คุณชายจางก็เริ่มร้อนใจขึ้นมา “ถ้าเช่นนั้นแม่นางก็บอกเราหน่อยเถิดว่าได้ปิ่นปักผมมาจากที่ใด เจ้าบอกพวกเราได้หรือไม่”
เชียนซานจ้องมองใบหน้าของคุณชายตระกูลจางสลับกับใบหน้าของใต้เท้าซือคงอย่างหวาดระแวง สายตาของเขาที่จ้องมองมาทำให้นางถอยหลังไปก้าวหนึ่งอย่างหวาดระแวง “ปิ่นนี่เป็นของข้า เป็นของดูต่างหน้าที่ท่านแม่ของข้าทิ้งไว้ให้ พวกท่านคิดจะทำอะไรกันแน่”
คุณชายใหญ่ตระกูลจางร้องออกมาอย่างตกใจ “ขอพวกเราดุปิ่นนั่นหน่อยเถิด แค่ดูครู่เดียวเท่านั้น ข้ารับรองว่าจะไม่เอามันไปทำอะไรทั้งนั้น!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...