ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 156

สรุปบท ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา: ชายาเกิดใหม่ของข้า

อ่านสรุป ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา จาก ชายาเกิดใหม่ของข้า โดย ลิ่วเยว่

บทที่ ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา คืออีกหนึ่งตอนเด่นในนิยายโรแมนซ์ ชายาเกิดใหม่ของข้า ที่นักอ่านห้ามพลาด การดำเนินเรื่องในตอนนี้จะทำให้คุณเข้าใจตัวละครมากขึ้น พร้อมกับพลิกสถานการณ์ที่ไม่มีใครคาดคิด เขียนโดย ลิ่วเยว่ อย่างเฉียบคมและลึกซึ้ง

ตอนที่ 156 แสดงความสามารถออกมา

แต่คืนนั้นคนของตำหนักฉ่ายเหว่ยถูกเปลี่ยนไปหมดดังนั้นตอนวันพระราชสมภพของไทเฮาก็ไม่ได้แพร่กระจายออกไปและฉ่ายเวินก็ไม่ได้พูดอะไรเช่นกัน นี่ทำให้เสียภาพลักษณ์ของฮ่องเต้ได้นางไม่ทำแน่นอน

ดังนั้นไทเฮาก็สือเรื่องอะไรมาไม่ได้เลยสุดท้าย นางกับหรงกุ้ยไท่เฟยมาที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยทั้งสองพึ่งเข้ามาข้ารับใช้ก็เขามาทูลว่า: “นายท่าน ฉ่ายเวินมา!”

ชูเซี่ยพึ่งเคารพและนั่งลงก็ได้ยินข้ารับใช้มาทูลนางกพูดอย่างเย็นชาว่า:“เชิญเข้ามาเถอะ!”จะมาดูให้หัวเราะสะใจหรือจะมาสืออะไรอีกล่ะ?เมื่อคืนเรื่องดังมากนางก็ต้องได้ยินมาบ้างไม่ว่าอย่างไรสรุปแล้วนางต้องมาไม่ดีแน่!

เชียนซานยังไม่ตื่นเมื่อวานนางเมาหนักมากเป็นเวลาเกือบเที่ยงนางก็ไม่ได้ตื่นเพราะนางเป็นหลานสาวของใต้เท้าซือคงจางก็เลยถามอย่างเป็นห่วงไปชูเซี่ยก็เลยบอกว่านางดื่มหนักเกินเมื่อวานวันนี้เลยไม่ค่อยสบาย

ฉ่ายเวินเข้ามาพร้อมกับหลวี่หนิง ฉ่ายเวินน่าจะไม่รู้ว่าไทเฮากับหรงกุยไท่เฟยก็อยู่ตรงนี้ด้วยก็เลยรับทำควมเคารพ “ไทเฮา หรงกุยไท่เฟย!”

หลวี่หนิงของทำความเคารพเช่นกัน

ไทเฮามองฉ่ายเวินและยิ้ม “เจ้าดีมากเลยนะเช้าขนาดนี้ก็ยังมาดูพี่สาว!”นางก็ดูหลวี่หนิงด้วย “หลวี่หนิงเจอกับฉ่ายเวินเหรอ?”

หลวี่หนิงก็ไม่ได้ปิดบังและตอบไปว่า: “ไม่ใช่พ่ะย่ะค่ะกระหม่อมมาพร้อมกับฉ่ายเวินพ่ะย่ะค่ะ!”

ไทเฮาก็ตอบไปว่า“เป็นอย่างนี้นี่เอง!”ในสายตานั้นนางเข้าใจแล้วจากนั้นก็หัวเราะออกมาพร้อกับหรงกุยไท่เฟย: “วัยรุ่นตอนนี้ไม่เหมือนกับวัยรุ่นสมัยเราเลยเนอะ!”

หรงกุ้ยไท่เฟยหัวเราะออกมาอย่างไม่มีปี่มีขรุ่ยและพูดว่า“ชายหญิงที่ถึงเวลาแต่งงานใกล้กันหน่อยก็คงไม่เป็นไร!”พอสักพักนางก็มองหน้าฉ่ายเวินและพูดต่อว่า “อายุของเจ้าก็ไม่น้อยแล้ว ฮ่องเต้ก็จริงๆเลยทำไมไม่หาคนดีๆให้เจ้าแล้วแต่งงานเลยเล่า?”

ไทเฮาหัวเราะและพูดว่า:“จะหาใหม่ทำไมเล่าคนที่อยู่ตรงหน้าเจ้าคู่นี้ก็เหมาะสมกันดีออก หลวี่หนิงให้ข้าเป็นฝ่ายจัดงานให้เจ้าเลยไหม จัดงานแต่งไปเลย!”

ฉ่ายเวินรีบเลยหน้าและมองไทเฮาอย่างตกใจ นางรีบส่ายหัวและพูดว่า:“ขอบพระคุณไทเฮาที่จะทรงหาคู่ให้ฉ่ายเวินแต่ว่าตอนนี้ฉ่ายเวินยังไม่พร้อมแต่งงานเพค่ะ!”

หรงกุยไท่เฟยพูดต่อว่า“พูดบ้าอะไรเจ้าอายุตั้งเท่าไหร่แล้ว?หญิงสาวเขาแต่งงานตอนอายุสิบหกกันถ้าผ่านสิบหกไปแล้วพ่อแม่คงรีบหน้าดู?ถ้าเป็นเช่นนี้พ่อแม่ก็คงไปหาให้แล้วล่ะ พ่อแม่เจ้าไม่อยู่ฮ่องเต้ก็เป็นศษย์พี่ของเจ้าตามหลักแล้วศิษย์พี่ก็เหมือนดั่งบิดา เจ้าก็ควรจะฟังเขา!”

หรงกุ้ยไท่เฟยนางรู้ว่าฉ่ายเวินชอบหลี่เฉินเย่นเพราะเย่เอ๋อชอบพาอันหร่านเข้าวังและนางก็พูดว่าฉ่ายเวินน่าจะชอบหลี่เฉินเย่นทั้งสองพูดเรื่องนี้กัน หรงกุยไท่เฟยคิดว่าฉ่ายเวินก็เป็นเด็กดีพอสำรวจนางไปสักพักก็เห็นว่านางน่าจะร้ายมากก็เลยไม่ค่อยชอบนางแล้ว

สีหน้าของฉ่ายเวินเริ่มเปลี่ยนไปและพูดว่า “ขอบพระคุณกุ่ยไท่เฟยที่ทรงเป็นห่วงหม่อมฉันเพค่ะแต่ตอนนี้ฉ่ายเวินยังไม่อยากคิดเรื่องแต่งงานจริงๆอีกอย่าง ศิษย์พี่ยังไม่เคยบังคับหม่อมฉันเลย ถ้าหม่อมฉันเจอคนที่ใช่แล้วหม่อมฉันก็จะบอกศิษย์พี่เองเพค่ะ!”

หรงกุยไท่เฟยทำเป็นไม่เห็นตอนที่นางทำตัวไม่มีมารยาทและพูดต่อว่า: “หึ ตอนนี้เจ้ากับท่านหลวี่หนิงก็เหมาะสมกันดีนี่!”

หลวี่หนิงพูดขึ้นมาว่า: “กุ่ยไท่เฟยพ่ะย่ะค่ะ กระหม่อมกับฉ่ายเวินเป็นแค่เพื่อนกัน เราไม่ใช่อย่างที่ท่านคิดพ่ะย่ะค่ะ!”

“แปลกจังเลยนะระหว่างชายหยิงเป็นเพื่อนกันได้ด้วยเหรอ?พวกเจ้าเป็นเพื่อนกันก็สนิทกันเกินไปแล้วล่ะ!”หรงกุ้ยไท่เฟยพูดประชด

ฉ่ายเวินเงยหน้าขึ้นมามองชูเซี่ยเปนสายตาที่เคียดแค้น ชูเซี่ยเข้าใจความหมายของนาง นางคงนึกว่าตัวเองวางแผนมากับไทเฮาและกุ่ยไท่เฟย นางก็ไม่ได้อธิบายและพูดยิ้มๆว่า: “พอเถอะเพค่ะไท่เฟย ดูหนูน้อยนั้นสินางก็คงเขินมาก ท่านก็ไม่ต้องไปหัวเราะนางหรอกเพค่ะ ถ้าเช่นนั้นพวกเขากำลังเข้าด่ายเข้าเข้มกันถ้าเราขืนพูดอีกเดี๋ยวพวกเขาจะไม่กล้าไปต่อนะเพค่ะ”

หรงกุ้ยไท่เฟยหัวเราะ“ใช่สิ ข้าคงแก่มากแล้วหน้าหนา ลืมไปเลยว่านางคงจะอายแต่ว่าฉ่ายเวินก็ไม่นับว่าเป็นเด็กน้อยแล้วเจ้าอายุยี่สิบแล้วใช่หรือไม่?น่าจะเป็นสาวแก่แล้ว งานแต่งคงต้องรีบจัดแล้วล่ะอย่าให้คนเขาต้องเป็นห่วงนะ!”

ฉ่ายเวินมองนางอย่างโหรธแค้นและพูดอย่างโกรธๆว่า:“ทำไมพี่ถึงเข้าใจฉ่ายเวินจังเลยเจ้าค่ะ ฉ่ายเวินดีใจจังเลยแต่ว่าพี่สาวไม่ต้องมาเป็นห่วงฉ่ายเวินหรอกเจ้าค่ะเป็นห่วงตัวเองก่อนเถอะ ได้ยินว่าเมื่อวานศิษย์พี่อารมณ์เสียไม่รู้ว่าพี่สาวทำอะไรให้ศิษย์พี่ข้ากรธเหรอเจ้าค่ะ?”

ชูเซี่ยยังไม่ได้พูดหว่านเหนียงที่ยืนข้างๆก็ตอบแทนว่า:“สองคนนี้เขาโกรธงอนกันเป็นธรรมดาไม่มีอะไรหรอกเพค่ะ?เจ้านายข้าทำให้ฝ่าบาทโกรธ?ก็คงไม่ใช่อาจจะเป็นนายบ่าวโกรธฝ่าบาทก็เพค่ะ ต้องรู้ว่าวฝ่าบาทกับนายหญิงรักกันเป็นเรื่องที่ในวังนอกวังก็รู้”

ฉ่ายเวินหัวเราะ“ใช่เหรอ?”

ไมเฮาถามหว่านเหนียงต่อว่า“ข้าก็พอได้ยินเรื่องนี้มาบ้าง หว่านเหนียง เจ้าอยู่ในตำหนักฉ่ายเหว่ยตลอดไหนลองเล่ามาสิว่าเมื่อคืนเกิดเรื่องอะไรขึ้น?”คนที่อยู่ในเหตุการณ์ก็อยู่ที่นี้แต่ไทเฮาไม่ถามกลับไปถามหว่านเหนียงแทน นางรู้นิสัยของชูเซี่ยดีถึงแม้ว่าจะน้อยใจมาแค่ไหนนางก็ไม่มีทางพูดแน่นอนถามหว่านเหนียงแทนดีกว่า

หว่านเหนียงยิ้มและพูดว่า:“ไทเฮาไม่ต้องเป็นห่วงหรอกเพค่ะ พวกเขาแค่งอนกันนิดหน่อยผ่านไปสองสามวันเดี๋ยวก็ดีขึ้นเองเพค่ะ ใช่หรือเปล่าเพค่ะเจ้านาย?”หว่านเหนียงพูดเส็จก็หันไปถามชูเซี่ย

ชูเซี่ยก็ไม่อยากให้ไทเฮาทรงเป็นห่วงก็เลยพูดตามน้ำไปว่า:“เป็นเพราะหม่อมฉันตามใจตัวเองเกินเพค่ะเมื่อคืนเลยทะเราะกันนิดหน่อย!”

ชูเซี่ยพูดต่อว่า: “ใช่สิ!”พูดแค่คำเดียวก็หยุดพูดแล้ว

ฉ่ายเวินเงียบสักพักและพูดว่า; “เป็นเพราะว่าเรื่องของโหร่วยเฟยกับศิษย์พี่ใช่หรือไม่เจ้าค่ะ อันที่จริงพวกเขาก็เป็นสามีภรรยากันอยู่แล้ว พี่สาวก็อย่าไปหึงเลยเจ้าค่ะ”

ชูเซี่ยหัวเราะและพูดประชดไปว่า“อืม!”

เห็นว่าชูเซี่ยเย็นชาและทำท่าเหมือนไม่อยากพูดกับนางฉ่ายเวินก็ไม่ได้คิดว่าหมดสนุกกลับกันนางก็คิดว่าสนุกขึ้นและพูดต่อว่า: “ที่จริงหัวใจของศิษย์พี่ก็ยังอยู่ที่พี่สาวอยู่นั้นแหละเจ้าค่ะ ผู้ชายเป็นเรื่องปกติที่ต้องมีภรรยาสามสี่ห้าคนและเขาก็ยังเป็นฮ่องเต้อีก พี่สาววันนี้ก็ไม่อยากอยู่กับนางแล้ววันหลังพี่สาวจะอยู่ร่วมกับนางอื่นในวังได้เหรอเจ้าค่ะ?”

ชูเซี่ยได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็มองนางและถามว่า: “ฟังน้องพูดเช่นนี้แล้ว น้องเหมือนเป็นคนใจกว้างน่าดูถ้าเรื่องนี้เกิดขึ้นกับน้อง น้องจะทำเป็นเหมือนไม่มีอะไรเลยงั้นเหรอ?”

ฉ่ายเวินยิ้มและพูดว่า: “ถ้าได้อยู่กับชายที่ตนรักมากที่สุด ข้าก็ไม่เป็นห่วงหรอกว่าเขาจะมีผู้หญิงกี่คน ขอแค่ในใจเขามีข้า ถ้าพี่สาวไม่ใจกว้างก็ไม่เหมาะจะเป็นฮองเฮานีเจ้าค่ะ”

คำนี้นางลงเสียงหนักมากแต่วว่าเหมือนกับพูดท้าทาย

ชูเซี่ยพูดต่อว่า: “ใช่เหรอ?ฮองเฮานีเป็นหญิงที่คนทั้งระเทศเทิดทูลให้เกรียติ ข้าไม่เคยคิดที่จะเป็นฮองเฮานีหรอกนะ”

ฉ่ายเวินหัวเราะและเหมือนจะเปลี่ยนเรื่องพูดว่า: “ใช่เหรอ?พี่สาวทำไมต้องทำท่าไม่ชอบน้องด้วยเจ้าค่ะ?ที่พี่สาวทำขนาดนี้ก็เพื่อได้อยู่กับศิษย์พี่และด้ขึ้นคลองบัลลังค์ฮองเฮานี?ก็เหมือนที่พี่สาวพูดว่าตำแหน่งฮองเฮานีนั้นสูงศักดิ์ไม่ว่าหญิงใดก็อยากเป็นไม่ใช่เหรอเจ้าค่ะ?”

หว่านเหนียงได้ยินก็พูดแทรกขึ้นมาว่า: “ได้ยินคุณหนูฉ่ายเวินพูดเช่นนี้แล้วเหมือนคุณหนูฉ่ายเวินอยากเป็นมากกว่านะเจ้าค่ะเสียดายคุณหนูฉ่ายเวินเป็นศิษย์น้องของฮ่องเต้และฮ่องเต้ก็มองคุณหนูฉ่ายเวินเป็นเพียงแค่น้องสาวให้เป็นเจ้าหญิงก็ยังได้แต่ถ้าเป็นตำแหน่งราชินีก็ไม่เหมาะเจ้าค่ะ!และก็ในใจไทเฮาก็มีฮองเฮานีในใจแล้วและนั้นก็เป็นเจ้านายของบ่าวเจ้าค่ะก็ไม่ต้องพูดถึงนายหญิงของบ่าวแต่ก็ยังมีโหร่วยเฟยไม่ใช่เหรอเจ้าค่ะ?ตอนโหร่วยเฟยอยู่ที่หวังฟู่ก็ได้เป็นภรรยารองทั้งสองคนก็รักกันดี ถึงแม้ว่าจะมีเรื่องเข้าใจผิดกันแต่ตอนนี้ก็แก้ไขได้แล้ว ตำแหน่งฮองเฮานีถ้าให้คิดยังไงก็คิดไม่ถึงคุณหนูฉ่ายเวินหรอกเจ้าค่ะ”

สีหน้าฉ่ายเวินเปลี่ยนไปและมองไปที่หว่านเหนียงอย่างอาฆาตแค้น

ชูเซี่ยมองหว่านเหนียงที่ทำท่าทางสายตาเหมือนกวนโอ้ย และนางก็คิดว่าเมื่อก่อนหว่านเหนียงเป็นคนคิดก่อนพูดไม่เหมือนวันนี้นางพูดอย่างไม่คิดเลย

และนางยังพูดถึงโหร่วยเฟยนี้นางอยากให้ฉ่ายเวินไปยุ่งกับโหร่วยเฟยงั้นเหรอ?

ประวัติการอ่าน

No history.

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า