ตอนที่159 ป่วยหนัก
หลี่เฉินเย่นอยู่ในตำหนักของโหร่วยเฟยเป็นเวลานานมากจะไปกินข้าวที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยแต่ว่าตั้งแต่ที่ทะเลาะกันวันนั้นเขาก็ไม่ไปเหยียบที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยเลย
ชูเซี่ยเย็นชาและไม่สนใจแล้วความทุกข์ทรมาณนี้มันช่างยาวนานมากนางก็ต้องทนต่อไปและรอเปิดเผยสาเหตุการตายของเฉินอวี่จู๋
หลวี่หนิงก็จะส่งข่าวมาให้บ้างแต่ข่าวก็ไม่มีเรื่องใหม่ๆเลยแต่ว่าสิ่งทำให้ชูเซี่ยรู้สึกสงสัยนั้นก็คือเหมือนโหร่วยเฟยจะเริ่มสนิทกับฉ่ายเวินแล้วหรืออาจเปลี่ยนคำพูดก็คือเป็นฉ่ายเวินที่ตั้งใจไปใกล้กับโหร่วยเฟย
โหร่วยเฟยสุขภาพก็ไม่ค่อยดีอยู่แล้วบวกกับที่ชูเซี่ยบอกให้นางออกกำลังกายบ้างกินของที่มีประโยชน์ นางก็จะไม่มีโรคภัยแล้วแต่ว่าช่วงนี้ก็มีข่าวส่งมาว่าตำหนักเพียวสวี่เชิญหมอไปบอกว่าโหร่วยเฟยสุขภาพแย่ลง
ชูเซี่ยเกิดสงสัยขึ้นมานางก็เลยไปที่ตำหนักเพียวสวี่เองเลยพอหมอพึ่งออกไปในตำหนักก็มีกลิ่นยาลอยออกมา ชูเซี่ยดมสักพักก็ได้กลิ่นสมุนไพรต่างๆเป็นกลิ่นของไอเย่ซังจี่เซิงจาว ชูเซี่ยเงียบสักพักถ้าเดาไม่ผิดน่าจะเป็นยาที่ช่วยรักษาครรภ์ โหร่วยเฟยท้องเหรอ?
นางพึ่งเดินเข้าไปเสียวชิงก็เดินออกมาต้อนรับและมองไปที่ชูเซี่ยจากนั้นนางก็พูดเบาๆว่า:“ท่านหมอเวินมาแล้วเหรอเจ้าค่ะ!”
โหร่วยเฟยนอนอยู่ที่บนที่นอนของกุ่ยเฟยพอได้ยินก็หันมามองสีหน้าเหมือนเกิดความกังวล
ชูเซี่ยเห็นสีหน้านางในใจก็เข้าใจแล้วจากนั้นนางก็ยิ้มและ:“โหร่วยเฟยได้ยินว่าเรียกหมอมาตรวจเป็นเช่นไรบ้าง?”
โหร่วยเฟยลุกขึ้นมาและพูดอย่างอ่อนโยนว่า:“ขอบคุณท่านหมอเวินที่เป็นห่วงเคาไม่เป็นไรแล้ว!”
ชูเซี่ยดมยาในห้องยาแบบนี้ทำเอานางมึนหัวและเจ็บกระเพาะอยากอ้วกนางถอนหายใจเบาๆตอนที่พวกเขารักกันอยู่นางอยากมีลูกมากแต่ว่าก็ไม่มีสักทีคิดไม่ถึงเลยว่าเวลาสั้นๆแค่เดือนกว่านางก็ตั้งครรภ์แล้ว
หญิงคนอื่นท้องเพื่อผู้ชายที่ตนรักนี่เป็นความรู้สึกยังไงกัน?ชูเซี่ยไม่เคยคิดเลยว่าวันนี้จะต้องทนทุกข์ทรมาณกับเรื่องนี้แต่ก็ยังคงต้องทำเป็นไม่รู้สึกอะไรและต้องยิ้มตอบรับจากนั้นก็รอทุกคนประกาศข่าวดี
ชูเซี่ยดึงมือโหร่วยเฟยนั่งลงและถามว่า:“นานเท่าไหร่แล้ว?”
โหร่วยเฟยอึ้งสักพักและยิ้มออกมาจากนั้นก็พูดว่า:“ท่านหมอบอกว่าข้าท้อง!”
“ดีใจด้วยนะ!”ชูเซี่ยแสดงความยินดีอย่างจริงใจในใจกลับเจ็บปวดรวดร้าว
“ขอบคุณนะ!”โหร่วยเฟยมองนางอย่างระแวง“ท่านหมอเวินคงไม่เกลียดข้าใช่หรือไม่?”
ชูเซี่ยยิ้ม “พูดเยี่ยงนี้ได้อย่างไร?เจ้าเป็นผู้หญิงของฮ่องเต้ตั้งครรภ์เพื่อเขามันก็ถูกแล้วข้าจะเกลียดเจ้าทำไม?และข้ามัสิทธิ์อะไรมาว่าเจ้าล่ะ”
โหร่วยเฟยยิ้ม“แต่ว่าท่านหมอเวินกับฮ่องเต้รักกัน เรารู้สึกผิดต่อท่านหมอเวิน!”
ชูเซี่ยส่ายหน้าและพูดว่า:“ไม่แล้วล่ะก่อนที่ข้าจะเจอเขาเจ้ากับเขาก็รักกันก่อนแล้ว ข้าเป็นแค่มือที่สาม!”
โหร่วยเฟยยิ้มอย่างอ่อนโยนสีหน้านางช่างมีความสุขมากสายตามีแต่ความสุขแพร่กระจายออกมา ผู้หญิงคนหนึ่งที่กำลังท้องกำลังจะได้เป็นแม่คนและเป็นภรรยาที่โชคดีมากเมื่อก่อนนางก็อยากเป็นแบบนี้
เห็นนางมีความสะขไม่ได้แล้วไม่เช่นนั้นนางก็คงทุกข์ใจกับเรื่องนี้มาก
นางรีบบอกลา“ข้านึกได้ว่าต้องไปจัดการเรื่องนึงต้องไปก่อน เจ้าต้องระหวังร่างกายให้ดีนะ!”
โหร่วยเฟยรีบเรียกเสียวชิงและบอกว่า:“เสียวชิงไปส่งท่านหมอเวินสิ!”
เสียวชิงตอบรับและพูดกับท่านหมอเวินว่า:“ท่านหมอเวินเดี๋ยวข้าไปส่งเจ้าค่ะ!”
นางส่งชูเซี่ยไปจนถึงหน้าประตูและยื่นมือไปลากเสื้อของชูเซี่ยไว้ ชูเซี่ยหันกลับไปมองอย่างสงสัยเห็นสายตาของเสียวชิงลำบากใจเหมือนมีเรื่องอะไรอยากจะพูดกับนางและนางก็ถามว่า:“ทำไมเหรอ?”
เสียวชิงถอนหายใจและพูดว่า:“โหร่วยเฟยเหนียงเหนียงความจริงแล้วน่าสงสารมากนะเจ้าค่ะ ท่านหมอเวินก็โปรดเห็นใจด้วยเถิด!”
ชูเซี่ยมองเสียวชิงด้วยสายตาที่สงสัย เสียวชิงไม่กล้าสบตาชูเซี่ย
ชูเซี่ยก็ถามต่อว่า:“เจ้าพูดเรื่องนี้หมายความว่าอย่างไร?ชูเซี่ยน่าสงสารยังไง?”
เสียวชิงพูดเบาๆว่า:“บ่าวไม่กล้าพูดเยอะเจ้าค่ะแต่ขอแค่ท่านหมอเวินช่วยดูแลโหร่วยเฟยเหนียงเหนียงดีๆหน่อยเจ้าค่ะ!”
ไม่กล้าพูดมาก?ชูเซี่ยกำลังจะถามต่อแต่ด้านนอกก็มีเสียงดังมาว่า:“ฝ่าบาทเสด็จ!”
เสียวชิงปรับสีหน้าและรีบไปรับเสด็จ:“ท่านหมอเวินข้าไปก่อนแล้วนะเจ้าค่ะ!”
ชูเซี่ยรู้ว่านางไม่ควรพูดอะไรเยอะแล้วก็เลยต้องถามลัง นางไม่อยากเจอกับหลี่เฉินเย่นก็เลยจะออกประตูข้างๆและนางพึ่งจะเดินไปแต่เสียงเท้าเดินที่คุ้นเคยก็ดังมามีร่างกายคนที่ใส่เสื้อสีเหลืองส้มอารามเดินเข้าไปในตำหนักเพียวสวี่
ชูเซี่ยโค้งคำนับ:“ฝ่าบาท!”
หลี่เฉินเย่นเดินมาข้างๆนางเห็นนางทำเหมือนไม่สนิทกันสายตาเขาก็ปรับเป็นเรียบเฉยและพูดอย่างเย็นชาว่า:“เจ้ามาแล้วเหรอ!”
“เพค่ะ!”ชูเซี่ยโค้งคำนับและตอบอย่างมีมารยาท
ชูเซี่ยเห็นสีหน้าหว่านเหนียงในใจก็รู้ว่าหว่านเหนียงต้องรู้เรื่องอะไรแน่นอนและนางก็รีบถามว่า:“เกิดเรื่องอะไรขึ้น?เชียนซานเกิดเรื่องแล้วใช่หรือไม่?”
หว่านเหนียงเงียบสักพักและพูดว่า:“ใช่เจ้าค่ะเชียนซานได้ไข้ทรพิษตอนนี้อยู่ที่บ้านซือคงฮ่องเต้ออกคำสั่งว่าอย่าบอกเจ้านายเจ้าค่ะ!”
“ยังดีๆอยู่ทำไมถึงได้โรคนั้นล่ะ?”ชูเซี่ยตกใจมากนางรู้ว่าโรคนี้ตอนนี้ไม่มียารักษาส่วนใหญ่คนที่ได้โรคนี้ก็จะตายจากไปหมดขนาดหมอยังไม่กล้าเข้าใกล้โรคนี้ในประเทศจีนมันหายไปหมดแล้วผู้คนก็หาวิธีแก้ได้แต่ว่าที่นี้โรคนี้ก็ยังคงเป็นโรคที่แปลกและไม่มียารักษาโรคนี้ยังสามารถแพร่กระจายได้ด้วย
“ไม่รู้เจ้าค่ะเริ่มต้นนางแค่ตัวร้อนเจ็บคอจากนั้นก็ไปหาหมอรักษาได้สองวันอาการก็แย่ลงต่อมาท่านซือคงก็เข้าวังและเชิญหมอไปรักษาหมอก็บอกว่าเป็นโรคทรพิษ ฮ่องเต้รีบออกคำสั่งให้ปิดข่าวให้หมดไม่ให้ใครรู้เจ้านายน่าจะรู้ถ้าคนในเมืองรู้ฆ่าคนที่เป็นแน่นอนและยังเผาร่างทิ้งกลัวว่าโรคจะแพร่กระจาย”หว่านเหนียงพูดอย่างเป็นกังวล
อีกอย่างถ้าโรคที่เชียนซานเป็นอยู่แพร่กระจายออกไปไม่งั้นก็โดนฆ่าไม่เช่นนั้นก็จะถูกส่งไปเกาะร้าง
บวกกับโหร่วยเฟยท้องอีกทุกคนคงจะขับไล่นางไปสุดท้ายฮ่องเต้ต้องส่งชูเซี่ยไปที่เกาะร้างแน่นอน
พอรู้เรื่องของเชียนซานชูเซี่ยก็อยู่นิ่งไม่ได้?แต่ว่านางรู้ว่าหว่านเหนียงต้องไม่ปล่อยให้นางไปแน่นอนเพราะว่าใครๆก็รู้ว่าโรคนี้เลวร้ายแค่ไหนถึงแม้ว่าหว่านเหนียงจะเอ็นดูสงสารเชียนซานแต่เชียนซานตอนนี้นางป่วยอยู่และยังเป็นโรคที่รักษาไม่หายดังนั้นนางไม่ให้ชูเซี่ยไปเด็ดขาดกลัวโรคนี้แพร่ใส่ชูเซี่ย
พอนางปล่อยสูดหายใจเข้าและสงบลงมาจากนั้นก็ถามว่า: “วันนี้หลวี่หนิงไปหานางใช่หรือไม่?”
หว่านเหนียงตอบกลับว่า:“กลัลมานานแล้วคนของบ้านซือคงไม่ให้เขาเข้าไปเลย”
ชูเซี่ยทำสีหน้าเครียดดูแล้วเหมือนเรื่องจะไม่ธรรมดาในใจนางนั้นกังวลมากโรคนี้อยู่ได้ไม่ถึงเดือนและการแพร่กระจายก็รุนแรงมากเชียนซานพึ่งออกจากวังไปได้หกวันก็โดนโรคนี้แล้วสองวันก็คืออาจจะเป็นตอนนางอยู่ที่วังก็น่าจะติดโรคนี้ไปแล้ว
ในวังจะมีโรคนี้ได้ยังไง?ไม่มีทางถ้าในวังมีโรคนี้นางกับหว่านเหนียงก็ต้องติดโรถนี้ด้วยแต่ว่าตอนนี้นางก็ไม่ได้เป็นอะไร
“เจ้าไปเรียกหลวี่หนิงมาข้าจะถามให้แน่ใจ!”ชูเซี่ยนั่งลงอย่างใจสั่นและพูดกับหว่านเหนียงว่า
หว่านเหนียงพูดอย่างลำบากใจว่า:“ตอนนี้ท่านหลวี่หนิงอยู่ที่ห้องหนังสือฮ่องเต้เขาบอกว่าจะให้ฮ่องเต้สั่งหมอให้ไปดูเชียนซานหน่อยแต่กลัวว่าทางฝ่ายฮ่องเต้นั้นก็คงไม่ตอบตกลงง่ายๆเพราะว่าโรคนี้ไม่มียารักษาและไม่ใครกล้าเข้าใกล้”
“ถ้าฮ่องเต้ออกคำสั่งแล้วท่านหมอก็คงไม่ยอมไปหรอก?อีกอย่างคนเป็นหมอคงไม่สนขนาดนั้น?”ชูเซี่ยพูด
หว่านเหนียงพูดอย่างหมดหวังว่า:“ฮ่องเต้ก็ออกคำสั่งไม่ได้ถ้าหากหมอเกิดแค้นขึ้นมาเอาเรื่องนี้พูดออกไปบ้านซือคงและยังมีตำหนักฉ่ายเหว่ยอีกคงโดนประณามเป็นแน่”
ชูเซี่ยทำสีหน้าจริงจังนางไม่อยากมองดูเชียนซานตายนางจะต้องออกจากวังให้ได้แต่ว่าตอนนี้ก็ให้หวั่นดหนียงรู้ไม่ได้ว่าตอนนี้นางคิดอะไรอยู่นางต้องซ้อนความกังวลไว้ไม่ให้นางเห็นและพูดว่า:“ถ้าเป็นเช่นนี้ก็หวังว่านางจะสู้กับโรคนี้ได้!”
การเป็นโรคนี้ต้องตายทุกคนไม่มียารักษาไม่มีหมอก็คือมีความตายอย่างเดียวเรื่องนี้เป็นเรื่องที่ใครๆก็รู้พอหว่านเหนียงได้ยินนางพูดเช่นนี้ก็ถอนหายใจและพูดว่า:“เจ้าค่ะ ก็คงต้องหวังเช่นนี้ไปก่อน!”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...