ตอนที่ 162 ขอยารักษาคน
หลังจากที่ฉ่ายเวินจากไปแล้ว หลี่เฉินเย่นจึงเรียกให้ตามหลางเยว่ให้มาเข้าพบ เขาเดินมือไขว้หลังอย่างร้อนใจอยู่ในห้องทรงพระอักษร ฉ่ายเวินมาในวันนี้เพื่อสืบข่าวซึ่งอาจจะไม่ใช่เรื่องบังเอิญ แม้ว่านางไม่ได้เอ่ยถึงเจตนาของตนออกมา แต่กลับเอ่ยถึงสถานะที่แท้จริงของซูเซี่ยครั้งแล้วครั้งเล่า หากเขายังพบเรื่องที่มีพิรุธอย่างมากอีกด้วย นั่นก็คือการที่นางเรียกหยิงหลงที่เป็นคนผลักนางตกน้ำว่าพี่สาว แต่กลับคบหากับโหร่วยเฟยที่เมื่อก่อนไม่ได้สนิทสนมขึ้นมา ทุกประโยคล้วนเอ่ยขึ้นว่าโหร่วยเฟยไม่ใช่พี่มี่เหอ
ในเรื่องนี้ จะต้องมีบางอย่างที่เขาไม่รู้อย่างแน่นอน
“หลางเยว่ เจ้าไปตรวจสอบดูว่าผู้ใดคือคนที่ปล่อยข่าวลือพวกนี้” หลี่เฉินเย่นคิดว่างานมากมายหลายอย่างนี้ เดิมทีแล้วล้วนต้องจัดการทีละขั้นตอน ซึ่งเขาก็ได้วางแผนเอาไว้หมดแล้ว แต่การหยั่งเชิงของฉ่ายเวินในวันนี้ ทำให้ในใจของเขาว้าวุ่นอย่างมาก มีบางคนหรือบางสิ่งที่เขาไม่ได้คิดคำนวณไว้ในแผนอีกหรือ
“ฝ่าบาท ไม้ต้องตรวจสอบหรอกพะย่ะคะ ในวังหลวงไม่มีผู้ใดเอ่ยถึงเรื่องนี้เลยพะย่ะค่ะ” หลางเยว่เอ่ยขึ้น
“งั้นก็ผิดปกติแล้วละ นางจะรู้ได้อย่างไร เมื่อครู่นางมาเพื่อหยั่งเชิงจับพิรุธข้าเป็นแน่ เรื่องนี้หากไม่มีความชัดเจน นางก็คงไม่สามารถมาโดยปราศจากการไตร่ตรองหรอก ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยขึ้นอย่างกังวล
หลางเยว่เอ่ยขึ้นด้วยความประหลาดใจว่า “ไม่ผิดพะย่ะคะ ผู้ที่ทราบถึงสถานะที่แท้จริงของท่านหมอเวิน มีเพียงไม่กี่คน หากล้วนยังไม่สามารถเผยเปิดถึงความลับนี้ได้อีกด้วยพะย่ะคะ”
หลี่เฉินเย่นเอ่ยถามว่า “ช่วงนี้เฉินหยวนชิ่งเคลื่อนไหวอะไรหรือไม่”
“ตอนนี้เขาล้วนยุ่งกับการถ่ายทอดวิชาการต่อสู้ ไม่มีสิ่งใดผิดปกติพะย่ะคะ แต่ว่าบางทีอาจยังสามารถนัดพบกับฉ่ายเวินเป็นการส่วนตัวได้ แต่สังเกตจากสีหน้าของเขาแล้วดูเหมือนว่าจะมีบางอย่างที่ไม่สบายใจพะย่ะคะ ” หลางเยว่เอ่ยขึ้น
“อืม เจ้าเฝ้าติดตามความเคลื่อนไหวของเขาต่อไป หากมีเขามีการเคลื่อนไหวอะไร รีบเข้าวังมากราบทูลทันที” หลี่เฉินเย่นเอ่ยกำชับ
“พะย่ะคะ” หลางเยว่ถวาบบังคมแล้วถอยหลังจากไป
ในใจของหลี่เฉินเย่นนั้นกระวนกระวาย คิดอยู่ตลอดเวลาว่าฉ่ายเวินกำลังวางแผนคิดจะทำสิ่งใด
“ทูลฝ่าบาท หว่านเหนียงมาแล้วพะย่ะคะ ” หลางเยว่เพิ่งออกไปไม่นาน จงเจิ้งก็เข้ามาทราบทูลรายงาน
“รีบให้เข้ามา” หลี่เฉินเย่นหมุนตัวกลับไปนั่งบนเก้าอี้มังกร
เมื่อหว่านเหนียงเข้ามาแล้ว ข้าจงก็รับปิดประตูลง หว่านเหนียงคุกเข่าแสดงความเคารพแล้วเอ่ยขึ้นว่า “หม่อมฉันถวายพระพรฝ่าบาทเพคะ”
“หว่านเหนียงไม่ต้องมากพิธี รีบลุกขึ้นเถิด” หลี่เฉินเย่นเอ่ยขึ้น เขายังคงให้เกียรติหว่านเหนียงอย่างมากเช่นเดิม
หว่านเหนียงลุกขึ้น แล้วเอ่ยขึ้นอย่างช้าๆว่า “ทูลฝ่าบาท คืนวานนี้นายท่านได้ออกจากวังไปแล้วเพคะ”
“ข้าทราบแล้ว” หลี่เฉินเย่นเอ่ย
หว่านเหนียงอืมตอบรับ แล้วเอ่ยว่า “บ่าวรู้ว่าฝ่าบาทสามารถคาดเดาเหตุการณ์ล่วงหน้าได้ วันนี้ที่บ่าวมาเป็นเพราะมีเรื่องที่อยากสอบถามฝ่าบาทเพคะ”
“คือเรื่องราวอันใดหรือ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยถาม
หว่านเหนียงนิ่งไปชั่วครู่ แล้วเอ่ยว่า “ความจริงเดิมทีแล้วเรื่องนี้บ่าวไม่ควรที่จะเอ่ยถามฝ่าบาทเพคะ แต่บ่าวนั้นคิดว่าใช้วิธีการอย่างอื่นตรวจสอบ ก็ยังมิสู้เอ่ยถามกับฝ่าบาทด้วยตัวเอง ฝ่าบาทเพคะบ่าวอยากรู้ว่าพระองค์ทรงมีศิษย์พี่ศิษย์น้องกี่คนกันหรือเพคะ ”
หลี่เฉินเย่นตื่นตกใจเล็กน้อย “เจ้าใยเอ่ยถามเรื่องนี้หรือ”
หว่านเหนียงจึงเอ่ยปากเล่าเรื่องราวในวันนั้นที่หลวี่หนิงได้เอ่ยกับตนให้แก่หลี่เฉินเย่นฟังจดหมดสิ้น หลังจากเอ่ยจบจึงเอ่ยขึ้นอีกครั้งว่า “เดิมทีเรื่องนี้นายท่านได้กล่าวก่อนหน้านี้ว่าห้ามให้ฝ่าบาททรงทราบ แต่ว่าตัวบ่าวเองนั้นขบคิดแล้วว่าเรื่องนี้ช่างใหญ่หลวงและสำคัญยิ่งนัก ควรที่จะมาเอ่ยถามฝ่าบาทด้วยตัวเอง เกรงว่าช่วงนี้หากให้นายท่านวิ่งวุ่นไปทุกแห่งเพื่อตรวจสอบถึงเรื่องนี้ ก็คงจะเหน็ดเหนื่อยมากเกินไปเพคะ” หว่านเหนียงเอ่ยขึ้นมาด้วยน้ำเสียงที่แฝงไว้ด้วยความละอายใจและเสียใจ คิดว่าตนนั้นฝ่าฝืนคำสั่งของซูเซี่ย เพราะซูเซี่ยได้เคยกำชับว่าเรื่องนี้ไม่อาจที่จะทูลให้ฮ่องเต้ทรงรับทราบได้
สีหน้าของหลี่เฉินเย่นเปลี่ยนไปทันที ดวงตาทั้งสองของเขาเบิกกว้างขึ้น ลมหายใจก็ถี่ขึ้นคล้ายมีความโกรธแฝงอยู่บางส่วน “หลวี่หนิงเคยเอ่ยเช่นนั้นจริงหรือ”
“คือความจริงแน่นอนเพคะ ฝ่าบาทสามารถเรียกหลวี่หนิงมาซักถามให้ชัดเจนได้เพคะ” หว่านเหนียงเอ่ยขึ้นอีกว่า “บ่าวกลัวว่าถ้าหากที่คาดเดานั้นคือความจริง นางและศิษย์พี่ศิษย์น้องของตนล้วนสามารถที่จะลงมือได้ นั่นเท่ากับว่านางจะต้องลงมือกับนายท่านแน่นอนเพคะ บ่าวไม่อาจมองดูนายท่านตกอยู่ในอันตรายได้อย่างเด็ดขาดเพคะ ”
หลี่เฉินเย่นปิดตาลงอย่างทุกข์ใจ สูดลมหายใจเข้าช้าๆ แล้วเอ่ยว่า “ไม่แน่ว่าคือเรื่องจริง ชิงเอ๋อและนางมีความสัมพันธ์ที่ลึกซึ้งต่อกัน โปรดปรานนางเหมือนเป็นน้องสาวของตนเอง นางคงไม่สามารถลงมือทำร้ายชิงเอ๋อได้ หากชิงเอ๋อหนีไปกับผู้อื่นก็ไม่ใช่ตายไปแล้วหรือ”
“หากนางมีเพียงงศิษย์พี่ผู้นั้น ถ้าอย่างนั้นในวังของนางป้ายวิญญาณก็ควรที่จะเป็นศิษย์พี่ผู้นี้” หว่านเหนียงเอ่ยอย่างมั่นใจ
“ข้าจะตรวจสอบเอง เจ้ากลับไปก่อนเถิด” หลี่เฉินเย่นยกมือมือที่คล้ายกับไม่มีกำลังของตนขึ้นโบกให้หว่านเหนียงออกไป เรื่องนี้ทำให้เขาหวั่นไหวเป็นอย่างมาก ปีนั้นที่บนเขาพวกเขาทั้งสามคนล้วนสบายใจและสุขใจอย่างยิ่งมีใช่หรือ ตอนนั้นเป็นช่วงเวลาหนึ่งในชีวิตที่เขามีความสุขมากที่สุด ความทรงจำในตอนนั้นในใจของเขาล้วนสำคัญอยู่เสมอ
ในใจของเขาอาจารย์เปรียบเสมือนบิดา ผู้มอบความรักความเอ็นดูให้กับเขาในช่วงวัยเด็ก ฉ่ายเวินชิงเอ๋อคือน้องสาวของเขา คือคนในครอบครัว นับเป็นพี่น้องที่คลานตามกันมา ตอนเขาอายุยังน้อยนั้นอารมณ์ร้อน ไม่เข้าใจว่าความรู้สึกนั้นคือสิ่งใด เขาหวั่นไหวกับชิงเอ๋อ แต่ว่าหากเป็นเช่นนั้นอาจทำให้ชิงเอ๋อเสียชีวิตไป เขาก็คงสำนึกในความผิดของตนไปชั่วชีวิต
หว่านเหนียงทำได้เพียงถอยหลังเดินออกไป นางมิใช่คนที่มากความเหมือนเมื่อก่อนอีกแล้ว หากนายท่ายกำชับนางไม่ให้พูด นางย่อมมิพูดออกมาอย่างแน่นอน แต่นางนั้นกลัวว่าหากฉ่ายเวินผู้นี้กล้าที่จะลงมือกับศิษย์พี่ของตนแล้วละก็ นางจะต้องไม่เลือกวิธีการที่จะรับมือกับนายท่าน และยิ่งกว่านั้นตอนนี้นายท่านอยู่นอกวังกับเชียนซาน ซึ่งเรื่องนี้ไม่เอ่ยพูดออกไปจะเป็นการดี หากหลุดรอดออกไป กลัวว่าจะมีคนที่เจตนาต้องทำให้เรื่องนี้เกิดเป็นเรื่องราวที่ใหญ่โตขึ้นเป็นแน่
หลี่เฉินเย่นสั่งให้หลางเยว่ประกาศออกไปยังผู้ใต้บังคับบัญชา ให้สืบหาการหายตัวไปของชิงเอ๋อและอานุ่ยเกอ แต่เรื่องนี้จะต้องดำเนินการอย่างเงียบเชียบที่สุด ห้ามเอิกเกริก เขาวาดภาพเหมือนของชิงเอ๋อและอานุ่ยเกอ ออกคำสั่งให้องค์รักษ์เงาไถ่ถามทั่วทุกแห่งหน แม้ว่าแผ่นดินนี้จะกว้างใหญ่ แต่พวกเขาทั้งสองคนนั้นเรียกว่าเป็นการหนีตามกันไปของคู่รัก ไม่ใช่หนีตาย ดังนั้นไม่อาจที่จะหลบซ่อนอยู่ทุกหนทุกแห่งได้ จะต้องใช้ชีวิตอยู่ที่ใดสักแห่งเป็นแน่ เพียงตั้งรกรากอยู่เป็นเวลานาน ก็สามารถหาร่องรอยนั้นพบได้
ค่ำคืนนี้ เขามาที่ตำหนักหยงหมิง เป็นครั้งแรกที่เขามาที่นี่หลังจากที่ฉ่ายเวินได้โยกย้ายเข้ามา เพื่อที่มาตรวจสอบป้ายวิญญาณที่หลวี่หนิงได้เอ่ยไว้ เมื่อตอนพลบค่ำเขาได้เรียกหลวี่หนิงให้มาเข้าพบแล้ว หลวี่หนิงก็ยืนยัยว่าตนไม่ได้มองผิดแน่นอนเช่นกัน
ดังนั้น เขาจึงตัดสินใจมาที่นี่ด้วยตนเองสักครั้ง
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...