ตอนที่ 168 พูดความจริงออกมา
หลี่เฉินเย่นยังคงรออยู่ในจวนซือคง เขาได้สั่งให้เหล่าขุนนางแยกย้ายกันกลับไปแล้ว เหลือเพียงเสนาบดีหลี่และหลวี่หนิงที่รอคอยอยู่ที่จวนซือคงพร้อมกัน
หลี่เฉินเย่นได้เรียกตัวขู่เอ่อร์มา วิเคราะห์อย่างละเอียดอยู่ครู่หนึ่ง แล้วเอ่ยถามว่า “เจ้าไม่ใช่ชิงเอ๋อจริงๆใช่หรือไม่”
ขู่เอ่อร์ไม่ได้มีอาการกลัวคนแปลกหน้าดังเช่นก่อนหน้านี้แล้ว แต่ยังเขินอายอยู่บางส่วน เอ่ยอย่างกล้าๆกลัวขึ้นว่า “ขู่เอ่อร์ก็คือขู่เอ่อร์ ไม่ใช่ชิงเอ๋อแน่นอนเพคะ”
“ใต้หล้านี้จะมีคนที่เหมือนกันขนาดนี้เลยหรือ” หลี่เฉินเย่นถอนใจ มองใบหน้าที่เหมือนกับชิงเอ๋ออย่างคือคนเดียวกัน ในหัวของเขาจึงคิดถึงวันนั้นที่อยู่ในภูเขาช่วงเวลาที่ทั้งสามคนเบิกบานใจกันขึ้นอีกครั้ง ขณะนั้นฉ่ายเวินยังเป็นคนที่ไร้เดียงสาใสซื่อบริสุทธิ์ ทุกวันลากเขาวิ่งวนอยู่บนเขาที่กว้างใหญ่ ไล่จับผีเสื้อ ขุดโพรงหนูจับไส้เดือน แต่ชิงเอ๋อคือคนที่ขยันหมั่นเพียร ทุกวันนางล้วนสามารถสร้างสันอาหารที่เลิศรสขึ้นมามากมาย แถมยังเดินทางลงไปที่หมู่บ้านเพื่ออยู่บ่อยๆ ขยันขันแข็งแถมใจกว้าง ผู้คนในหมู่บ้านจึงล้วนชื่นชอบนางอย่างมาก และก็ยังชอบนำเนื้อรมควันปลาแห้งและสิ่งของเล็กน้อยอื่น ๆ มามอบให้นาง เพื่อนำกลับมาบนเขาทำให้พวกเขาได้กินอย่างเต็มอิ่ม
ช่วงเวลานั้นความรักของเขาก็งอกเงยขึ้น เขาคิดมาตลอดว่าสตรีเช่นชิงเอ๋อนั้นคือรูปแบบของภรรยาที่ดี ดังนั้นเวลานั้นเขาจึงพูดกับชิงเอ๋อว่าภายภาคหน้าที่จะแต่งภรรยานั้นจะต้องเลือกแต่งกับชิงเอ๋อแน่นอน เวลานั้นประมาณว่าก็คือมีความชื่นชอบที่เหมือนแสงจันทร์ที่มัวสลัวเลือนลาง
เขาได้ลืมไปแล้วว่าตอนนั้นฉ่ายเวินได้เอ่ยอะไรกับตน เพราะเวลาผ่านมาเนิ่นนานแล้ว เขาไม่ได้ตั้งใจที่จะไปนึกถึงว่าตอนนั้นเขาคิดว่าเป็นการสนทนาที่ไม่มีความหมายอะไรเลย
เขาหวังอย่างยิ่งว่าขู่เอ่อร์ที่อยู่ตรงหน้าก็คือชิงเอ๋อ อย่างนั้นก่อนหน้านี้ที่คาดการณ์กันว่าฉ่ายเวินได้สังหารชิงเอ๋อไปแล้วก็เป็นสิ่งที่ไม่เคยเกิดขึ้น ในใจของเขาแต่ไหนแต่ไรมาไม่ยอมรับว่าศิษย์น้องของตนเป็นคนที่เหี้ยมโหดเช่นนั้น
“ทูลฝ่าบาท ชิงเอ๋อคือผู้ใดหรือพะย่ะค่ะ” เสนาบดีหลี่เห็นหลี่เฉินเย่นดูสะเทือนใจอย่างมาก จึงเอ่ยปากถามขึ้น
หลวี่หนิงและเชียนซานล้วนรู้จักชิงเอ๋อ เมื่อได้ยินหลี่เฉินเย่นถามขู่เอ่อร์ว่าใช่ชิงเอ๋อหรือไม่ ทั้งสองคนล้วนหูผึงขึ้นทันที นี้ยังจะเป็นบุคคลที่ชี้ขาดได้ว่าถ้าหากนางคือชิงเอ๋อ นั้นก่อนหน้านี้ที่สงสัยฉ่ายเวินก็ไม่อาจที่จะเกิดขึ้นจริง
หลี่เฉินเย่นรู้สึกผิดหวังเล็กน้อยเงยหน้ามองที่ขู่เอ่อร์แวบหนึ่ง แล้วเอ่ยตอบอย่างช้าๆว่า “ชิงเอ๋อคือศิษย์น้องของข้า”
ขู่เอ่อร์จึงเอ่ยถามขึ้นอย่างอยากรู้ว่า “ฝ่าบาทเพคะ ศิษย์น้องของพระองค์คล้ายกับหญิงสามัญชนเช่นหม่อมฉันมากขนาดนั้นเลยหรือเพคะ”
หลี่เฉินเย่นมองขู่เอ่อร์ ด้วยสายตาที่ลึกล้ำ “เหมือนอย่างยิ่ง เหมือนมากจริงๆ”
ขู่เอ่อร์ร้องโอ้ออกมาอย่างตกใจ “แต่ว่าหญิงสามัญชนผู้นี้แต่ก่อนก็มีชื่อว่าขู่เอ่อร์ ตั้งแต่เด็กก็ใช้ชีวิตอยู่กับบิดาเพคะ”
“ช่างมีคนที่มีความคล้ายคลึงกัน” หลีเฉินเหลี่ยนเอ่ยขึ้นเบาๆ สายตามองยังใบหน้าของขู่เอ่อร์อย่างอาลัยอาวรณ์อยู่ตลอดเวลา ชิงเอ๋อในความทรงจำเปรียบเทียบกับขู่เค่อร์ที่ดูเยาว์วัยตรงหน้า แต่เขาเชื่อว่าตอนนี้ชิงเอ๋ออายุน่าจะเพิ่มขึ้นแล้ว เมื่อตัดความวัยเยาว์ออกไป ก็ควรที่จะสามารถเหมือนกับชิงเอ๋ออย่างมากอยาดี เขาจึงเอ่ยถามอีกครั้งว่า “ปีนี้เจ้าอายุเท่าใดแล้วหรือ”
ขู่เอ่อร์เอ่ยว่า “หม่อมฉันยี่สิบสองแล้วเพคะ”
หลี่เฉินเย่นตกตะลึงอยู่ชั่วครู่ อายุก็ยังเหมือนกันเช่นนั้นหรือ เขาจึงเอ่ยถามว่า “เคยมีคู่ครองมาก่อนหรือไม่”
ขู่เอ่อร์ยิ้มเศร้าออกมา “ที่บ้านเกิดมีคู่หมั้นเพคะ แต่เพราะเกิดอุทกภัยใหญ่ คู่หมั้นของข้าจึงเสียชีวิตแล้วเพคะ”
“ยี่สิบสองแล้วใยถึงยังไม่แต่งงานอีกหรือ” หลี่เฉินเย่นเอ่ยถามอย่างประหลาดใจ หญิงสาวสามัญชนทั่วไปอายุประมาณสิบหกปีก็ต้องแต่งงานออกไปแล้ว แต่นางมีคู่หมั้นอยู่ก่อนแล้ว กลับยี่สิบสองแล้วยังไม่แต่งงาน
ขู่เอ่อร์เอ่ยขึ้นอย่างประหม่าว่า “เดิมทีก็ต้องการที่จะแต่งงานเพคะ แต่เพราะว่าตลอดเวลาที่ผ่านมาไม่มีเงินสินสอด ท่านพ่อจึงพูดว่าหญิงสาวไม่สามารถแต่งออกไปโดยที่ไม่มีสินสอด ดังนั้นฤกษ์แต่งงานจึงไม่ได้กำหนดขึ้นวาเป็นเมื่อใดเพคะ”
“ถ้าอย่างนั้นบิดาของเจ้าละ”
ดวงตาของขู่เอ่อร์จึงเอ่อคลอด้วยน้ำตา เอ่ยอย่างเศร้าโศกเสียใจว่า “หลังจากที่เข้ามาเมืองหลวง ท่านพ่อได้ป่วยหนักเพคะ ไม่มีเงินที่จะไปหาหมอ เลยเสียชีวิตลง เป็นนายหญิงที่ให้คนของจวนซือคงช่วยเหลือข้าจัดการศพบิดาตามธรรมเนียม ดังนั้นขู่เอ่อร์จึงต้องการที่จะติดตามนายหญิง”
“นายหญิงเช่นนั้นหรือ” หลี่เฉินเย่นหันหน้าเอ่ยถาม
ขู่เอ่อร์จึงพยักหน้าอย่างหนักแน่น “นายหญิง นายหญิงก็คือหญิงสาวที่ดีที่ดีมากๆ ผู้หนึ่งเพคะ”
เชียนซานที่พิงตัวอยู่ข้างประตูเอ่ยขึ้นว่า “นายหญิงที่นางพูดถึงก็นายท่านเพคะ”
หลี่เฉินเย่นจึงร้องอ่อขึ้นมา แล้วเอ่ยว่า “เดิมทีวันนั้นหญิงสาวที่นางช่วยเหลือเอาไว้บนถนนก็คือเจ้าหรอกหรือ” คำพูดนี้ของเขา เป็นการบอกกับทุกคนกลายๆ ว่าเขาล้วนสั่งคนติดตามซูเซี่ยอยู่ตลอดเวลา
เชียนซานมองหลี่เฉินเย่นแวบหนึ่ง “ในใจของฝ่าบาทล้วนมีนายท่านอยู่ตลอดเช่นนี้ กลับไม่เชื่อในตัวนาง ทำให้คนรู้สึกขัดแย้ง ไม่เหนื่อยหรือเพคะ”
หลี่เฉินเย่นไม่เอ่ยพูด เขาไม่ได้หวังว่าเชียนซานจะสามารถเข้าใจถึงจิตใจของเขา
หลี่เฉินเย่นเอ่ยถามขู่เอ่อร์ว่า “เจ้ายินยอมที่จะเข้าวังหรือไม่”
ขู่เอ่อร์งงงันอยาครู่หนึ่ง หลังจากนั้นก็เอ่ยว่า “นายหญิงไปที่ใด ขู่เอ่อร์ก็จะไปที่นั่นเพคะ”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...