ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 176

ตอนที่ 176 การสู้สุดท้าย

ดวงตาของชูเซี่ยเป็นประกายแข็งกร้าวยามที่ตวัดสายตามองเหล่าองครักษืเบื้องหน้า เหล่าองครักษ์เมื่อเห็นสายตากดดันของนางก็ไม่กล้าผลีผลาม

ชูเซี่ยหันมามองหลี่เฉินเย่นก่อนเอ่ยถาม “ข้าขอถามท่านแค่คำเดียว ท่านคิดว่าข้าเป็นคนลงมือสังหารเฉินอวี่จู๋และโหร่วยเฟยใช่หรือไม่”

หลี่เฉินเย่นมองนางอย่างปวดใจ “เราก็หวังให้ไม่ใช่อย่างนั้น!”

“ไม่อยากให้เป็นเช่นนั้น? ท่านรู้จักข้ามานานถึงเพียงนี้ท่านไม่รู้เชียวหรือว่าแท้จริงแล้วข้าเป็นคนแบบไหนกันแน่ หลี่เฉินเย่น พวกเราสองคนผ่านเรื่องราวด้วยกันมามากมายแต่ท่านกลับมีความเชื่อมั่นในตัวข้าต่ำเหลือเกิน” ชูเซี่ยส่ายหน้าอย่างขมขื่น “ข้ามองท่านผิดไปจริงๆ”

หัวใจของหลี่เฉินเย่นเจ็บปวดยิ่งนัก เหตุใดเขาจึงคิดสงสัยนางกันนะ แต่ทว่าใบชาที่ค้นมาได้จากตำหนักของนางมีพิษเจือปนอยู่จริงๆทั้งยังเป็นชนิดเดียวกันกับที่โหร่วยเฟยได้รับ เขาเองก็หวังอย่างยิ่งว่าจะไม่ใช่ฝีมือของนาง

“เราจะสืบค้นเรื่องนี้ให้ถึงที่สุด หากว่าเจ้าไม่ได้ทำจริงๆเราจะคืนความเป็นธรรมให้แก่เจ้าแน่” หลี่เฉินเย่นเอ่ยยืนกราน

ชูเซี่ยยิ้มออกมา นางรู้สึกอยากร้องไห้เหลือเกิน แต่ทว่าน้ำตาของนางกลับเหือดแห้งไปหมด นางร้องไห้ไม่ออกอีกต่อไปแล้ว

หว่านเหนียงก้าวมาข้างหน้าและคุกเช่าลงกับพื้น “ฝ่าบาท เมื่อคืนโหร่วยเฟยมาที่ตำหนักก็จริงแต่ทว่านางก็ไม่ได้ดื่มชาเลยสักถ้วย นางไม่ได้ถูกพิษที่ตำหนักฉ่ายเหว่ยแน่นอนเพคะ ในวังหลวงแห่งนี้หากจะมีใครสักคนที่เที่ยววางยาพิษผู้อื่นไปทั่วคนผู้นั้นก็ย่อมเป็นหวงกุ้ยเฟยจึงจะถูก นายหญิงของข้านางเป็นแต่ช่วยคนนางทำร้ายคนเป็นเสียที่ไหน หากฝ่าบาทยังทรงไม่รับรู้เรื่องนี้อีกถ้าเช่นนั้นท่านก็ไม่คู่ควรกับความรักที่นายหญิงของข้ามอบให้แก่ท่านเลยแม้แต่น้อย!”

ฉ่ายเวินนางเกิดโทสะขึ้นมา นางก้าวมาข้างหน้าเตะลงที่หน้าท้องของหว่านเหนียงอย่างแรง เชียนซานที่อยู่ข้างกายหว่านเหนียงเห็นเช่นนั้นก็ระเบิดความโกรธตวัดฝ่ามือตบเข้าที่ใบหน้าของฉ่ายเวินอย่างแรง ฉ่ายเวินที่ไม่มีวรยุทธถึงกับกระเด็นไปข้างๆ กระแทกเข้ากับกำแพงและกระอักเลือดออกมาคำโต

หลี่เฉินเย่นเห็นเช่นนั้นก็โกรธจนเลือดขึ้นหน้า ชายหนุ่มชัดกาบออกมาและพุ่งเข้าหาเชียนซาน แม้ว่าเชียนซานจะเป็นยอดฝีมือของพรรคมังกรเหินแต่นางก็ยังไม่ใช่คู่ต่อสู้ของฮ่องเต้อยู่ดี พูดอีกอย่างก็คือนางรู้ว่าวรยุธของหลี่เฉินเย่นเก่งกล้ากว่านางมากนางไม่มีทางสู้ได้แน่จึงทำได้เพียงก้าวถอยหลังและหลับตารอดาบของอีกฝ่ายปักลงมายังร่างนางเท่านั้น

ในชั่วขณะนั้นเองที่ชูเซี่ยรีบถลามาข้างหน้าและขวางหน้าเชียนซานเอาไว้ หลี่เฉินเย่นตกใจคิดจะชักดาบกลับมาแต่ทว่าก็ไม่ทันเสียแล้ว ปลายดาบของเขาพุ่งตรงมายังหน้าท้องของนาง ชูเซี่ยตื่นตระหนกไปหมด นางกลัวว่าจะมีอันตรายต่อเด็กในท้องของตนจึงใช้มือเปล่าของตนเองยึดดาบของเขาไว้อย่างไม่ทันคิด

ด้วยแรงดาบของหลี่เฉินเย่นต่อให้เขาจะพยายามออมแรงมากเพียงใดก็ทำให้คมมีดบาดมือชูเซี่ยลึกไปถึงกระดูกอยู่ดี

ดาบของเขาตกลงสู่พื้น หลี่เฉินเย่นจ้องมองมืดของชูเซี่ยที่เต็มไปด้วยเลือดก็ตกใจรีบตะโกน “หมอหลวง หมอหลวง!”

ชายหนุ่มถลาเข้ามาหวังจะกอดนางไว้แต่ชูเซี่ยกลับข่มความเจ็บปวดและก้าวถอยออกมาจากเขา หัวใจของนางเต็มไปด้วยความหวาดกลัว ดาบเมื่อครู่หากแทงลงบนท้องของนางเกรงว่านางก็คงไม่อาจรักษาเด็กไว้ได้แน่

หัวใจของเชียนซานแทบหลุดออกมาจากอก นางรีบดึงมือของชูเซี่ยไว้และสกัดจุดห้ามเลือดเอาไว้ นางส่ายหน้าซีดเผือดของตนก่อนเอ่ยอย่างลนลาน “นายหญิง ท่านไม่ควรมารับดาบแทนข้าเลย สวรรค์! เลือดออกมาเหลือเกิน”

ตอนนั้นเองที่จูฟางหยวนบุกเข้ามาในห้อง เขาพอจะได้ยินเรื่องราวทั้งหมดมาบ้างแล้ง ก่อนหน้านี้เขาเอาแต่ฝึกวรยุทธอยู่ที่ค่ายทหารมาโดยตลอดเพราะเอาแต่คิดว่าชูเซี่ยคงจะสุขสบายดีอยู่ในวัง แต่พอตกเที่ยงเขาก็ได้ยินว่าโหร่วยเฟยตายแล้วจึงคิดจะมาดูนางเสียหน่อยพอดีกับที่มาเห็นเหตุการณ์นี้เข้า

ชายหนุ่มดึงชูเซี่ยเข้ามาในอ้อมแขนก่อนจะฉีกชายผ้าอย่างรวดเร็วและผูกข้อมือของนางเอาไว้จากนั้นก็พูดกับนางด้วยใบหน้าซีดเผือด “ไม่ต้องกลัวนะ ข้าจะพาเจ้าไปจากที่นี่!”

เขาช้อนร่างของชูเซี่ยขึ้นมาก่อนจะจ้องหลี่เฉินเย่นด้วยแววตาดุร้าย “ดียิ่ง ตอนนี้ได้เป็นถึงฮ่องเต้แล้วก็ลืมเรื่องราวความรักและบุญคุญของนางไปจนหมด หากชูเซี่ยเป็นอะไรขึ้นมาต่อให้ข้าต้องแลกด้วยชีวิตข้าก็จะให้เจ้าต้องพินาศไปด้วย!”

ใบหน้าของหลี่เฉินเย่นฉายแววล้ำลึก เดิมทีเขาก็ไม่ชอบจูฟางหยวนอยู่แล้วแต่เป็นเพราะเห็นแก่อดีตแม่ทัพจูจึงไม่เคยทำอะไรเขาแต่มายามนี้เมื่อเขาเห็นว่าอีกฝ่ายกำลังอุ้มชูเซี่ยอีกทั้งท่าทางของเขาก็ดูเป็นห่วงเป็นใยชูเซี่ยเหลือเกิน เห็นได้ชัดว่าชายหนุ่มคงจะมีใจให้ชูเซี่ย หลี่เฉินเย่นจึงเอ่ยคำสั่งเสียงเด็ดขาด “เจ้าเป็นใครกันถึงกล้ามาขัดรับสั่งของเรา ปล่อยนางลงเดี๋ยวนี้!”

เชียนซานไม่อยากเสียเวลาไปมากกว่านี้อีกแล้ว นางหยิบนกหวีดออกมาจากสาบเสื้อและเป่ามันครั้งหนึ่ง เพียงครู่เดียวเท่านั้นก็ปรากฎร่างชุดดำหลายสิบร่างทะยานเข้ามาในตำหนักล้อมรอบร่างของชูเซี่ยไว้ทั้งยังหันดาบเข้าเผชิญหน้ากับหลี่เฉินเย่นและเหล่าองครักษ์ในวัง

เชียนซานออกคำสั่ง “คุ้มครองนายหญิงออกจากวัง!”

“ทราบ!” เหล่าคนชุดดำรับคำสั่งกันอย่างพร้อมเพรียง

จูฟางหยวนอุ้มร่างของชูเซี่ยออกไปทางประตูตำหนักทันที

เหล่าองครักษ์คิดจะตามไป แต่หลี่เฉินเย่นทำเพียงยืนหน้าซีดอยู่กับที่ไม่เคลื่อนไหวไม่ออกคำสั่ง ใบหน้าที่เต็มไปด้วยความโกรธจางหายไปหมดแล้วเหลือไว้เพียงความกังวลและความเจ็บปวดฉายชัดอยู่บนนั้น

“ไม่ต้องตาม ปล่อยนางไปเถิด!” เขาออกคำสั่งเสียงหนักแน่น

หลี่เฉินเย่นหวนนึกถึงคำพูดของอาจารย์ของชูเซี่ยที่เคยกล่าวกับเขาว่าหากยังให้นางอยู่ข้างกายเข้าไม่ช้าก็เร็วนางก็จะต้องตาย

“ศิษย์พี่ ท่านจะปล่อยพวกมันไปเช่นนี้หรือเจ้าคะ โหร่วยเฟยตายอย่างน่าเวทนาเกินไปแล้ว!” ฉ่ายเวินที่ยืนอยู่ข้างกายเขาเอ่ยอย่างขุ่นเคือง

หลี่เฉินเย่นหันมามองฉ่ายเวินนิ่ง ไม่รู้ว่าเพราะเหตุใดเขาจึงบังเกิดความรู้สึกประหลาดในใจของตน ราวกับว่าร่างและจิตใจของเขาไม่ใช่ของเขา เหมือนถูกควบคุมอยู่ ทำไมเขาจึงเชื่อคำพูดของฉ่ายเวินถึงเพียงนี้นะ แล้วเหตุใดเขาถึงได้หวาดระแวงและสงสัยในตัวชูเซี่ยขึ้นมาได้กัน เขาและนางผ่านเรื่องราวลำบากมาด้วยกันมากมาย เขารู้ซึ้งดียิ่งกว่าผู้ใดว่านางมีนิสัยอย่างไร เพียงเพื่อช่วยคนนางถึงขั้นพร้อมจะอุทิศทั้งชีวิตของตนเองด้วยซ้ำ แต่ว่านี่เขาทำอะไรลงไป เขากล่าวหาว่านางเป็นคนทำให้โหร่วยเฟยและเฉินอวี่จู๋ต้องตาย เมื่อนึกถึงแววตาที่เต็มไปด้วยความผิดหวังและเจ็บปวดของนางยามที่จ้องมาที่เขาก็ทำให้เลือดในกายของเขาเย็นเฉียบไปหมด ในท้ายที่สุดชายหนุ่มก็กระอักเลือดออกมาคำโตและสิ้นสติไป

ก่อนที่สติของเขาจะขาดสะบั้นสิ่งสุดท้ายที่เขาได้เห็นก็คือใบหน้าซีดเผือดของฉ่ายเวินที่มองมา

ไม่รู้ว่าผ่านไปนานแค่ไหนชายหนุ่มก็ค่อยๆฟื้นขึ้นมา สิ่งแรกที่ปรากฎสู่สายตาของเขาก็คือไทเฮาและฉ่ายเวิน

ลำคอของเขาแห้งผากและแสบร้อนไปหมด เขาอยากเอ่ยอะไรออกมาแต่ก็แสบจนไม่อาจเอื้อนเอ่ยคำใดออกมาได้

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า