ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 179

ตอนที่ 179 ความจริงเปิดเผย

เมื่อกลับเข้ามาในวังชูเซี่ยก็ไม่ได้ไปหาหลี่เฉินเย่นก่อน นางรู้มาว่าไทเฮาเองก็ทรงถูกพิษเช่นกันอีกทั้งพระวรกายยามนี้ก็อ่อนแอจึงเลือกที่จะไปเข้าเฝ้าพระองค์ก่อน

เมื่อเห็นไทเฮาก็ทำชูเซี่ยตกใจจนหน้าถอดสี เพียงแค่ช่วงเวลาสั้นๆไม่กี่วันก็ทำให้ฮองเฮาทรงเปลี่ยนเป็นคนละคน ใบหน้าอวบอิ่มงดงามในเวลานี้กลับกลายเป็นหมองคล้ำ ดวงตาลึกโบ๋ใต้ตาดำคล้ำ ริมฝีปากแห้งผากราวกับเปลือกไม้

“ดีเหลือเกิน เจ้ากลับมาแล้ว!” ไทเฮาทรงทอดพระเนตรเห็นชูเซี่ยกลับมาก็ยิ้มออกมาทั้งที่สีพระพักตร์เหนื่อยล้า นางดึงมือของชูเซี่ยเข้ามาใกล้ๆเตียงบรรทม

ชูเซี่ยพินิจมองพระพัตร์ของไทเฮาก่อนเอ่ยถามอย่างเป็นกังวล “พระองค์รู้สึกไม่สบายตรงไหนบ้างเพคะ”

ไทเฮาทรงส่ายพระพักตร์ “ไม่เป็นไร ไม่ต้องเป็นห่วงเราหรอก เราสบายดี”

ชูเซี่ยเหลียวหลังไปมองหมอหลวงหลัน “ไม่ใช่ว่าถอนพิษไปได้แล้วหรือ เหตุใดจึงยังมีสภาพเช่นนี้”

หมอหลวงหลันจึงเอ่ยตอบ “พิษชนิดนี้ร้ายกาจนัก แม้ว่าไทเฮาจะได้รับพิษนี้ปริมาณน้อยแต่ทว่าก็ส่งผลต่อร่างกายมากพอสมควร ขณะนี้พระวงกายของไทเฮายังทรงหลงเหลือพิษอยู่เล็กน้อยแต่ก็ไม่อาจเร่งถอนได้เพราะว่าการถอนพิษชนิดนี้ค่อนข้างเป็นอันตรายต่อร่างกายเช่นกัน ข้าจึงได้จัดเทียบยาถอนพิษให้แก่ไทเฮาในปริมาณที่วรกายของพระองค์รับได้ ดังนั้นจึงใช้เวลาในการถอนพิษนานไปสักหน่อย”

ไทเฮาทรงถอนพระปัสสาสะ “เมื่อก่อนนางเป็นเด็กสาวที่น่ารักอ่อนหวานถึงเพียงนั้นแท้ๆเหตุใดจึงกลับกลายเป็นเช่นนี้ได้นะ น่าเสียดายเหลือเกิน!”

ใบหน้าของชูเซี่ยแปรเปลี่ยนเป็นโกรธแค้น ตลอดชีวิตนางไม่เคยเกลียดชังใครมาก่อน แต่ทว่าตอนนี้นางเกลียดเหลือเกิน นางเกลียดเสียจนอยากให้ฉ่ายเวินตายๆไปเสีย

นางกุมพระหัตถ์ของไทเฮาเอาไว้ “วางใจเถิดเพคะ คนชั่วย่อมต้องรับผลกรรมของตนเอง!”

ไทเฮาทรงส่ายพระพักตร์น้อยๆ สายพระเนตรทอประกายโหดเหี้ยม “ครั้งนี้หากว่าเฉินเย่นใจแข็งไม่พอที่จะฆ่านาง เรานี่ล่ะจะเป็นคนสังหารนางกับมือของเราเอง” ไทเฮาทรงเข้าพระทัยว่าฉ่ายเวินคงถูกจับขังในคุกหลวงไปแล้ว พระองค์ยังไม่ทราบว่าจนถึงตอนนี้ฉ่ายเวินยังคงไม่ได้สติขึ้นมาและไม่รู้ว่าหลี่เฉินเย่นถูกลอบทำร้าย ทั้งยังไม่รู้ว่าชิงเอ๋อถูกสังหารไปแล้วเช่นกัน

หรงกุ้ยไท่เฟยปิดบังพระองค์ไว้เพราะพิษที่พระองค์ได้รับร้ายแรงไม่อาจทำให้จิตใจได้รับการกระทบกระเทือนดังนั้นจึงปิดบังไม่ให้พระองค์รู้เรื่องที่เกิดขึ้นทั้งหมดเอาไว้ชั่วคราว

และกล่าวว่าที่หลี่เฉินเย่นไม่ได้มาเยี่ยมพระองค์เลยสักครั้งก็เพราะว่าตัวเขาเองก็ถูกพิษเช่นกัน คงต้องรออีกสองสามวันให้หายดีเสียก่อนจึงมาเยี่ยมพระองค์ได้

หลี่เฉินเย่นทราบว่าชูเซี่ยเข้ามาในวังแล้ว บาดแผลของชายหนุ่มยังคงไม่หายดี เดิมทีตั้งใจจะไปหาชูเซี่ยแต่ทว่าหลี่อวิ่นกังที่อยู่ในวังด้วยถึงตายก็ไม่ยอมให้เขาลงจากเตียง หลายวันที่ผ่านมาเขาอยู่แต่ในค่ายทหารจึงไม่รู้ว่าระยะนี้ในวังหลวงเกิดเรื่องมากมายเหลือเกิน จนกระทั่งกลับมาที่จวนจึงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดจาดเย่เอ๋อ เขาก็รีบร้อนเข้ามาในวังทันที

ชายหนุ่มเอ่ยตำหนิน้องชายของตนเองเสียงเข้ม “เป็นลูกผู้ชาย เมื่อถึงเวลาหักก็ต้องหักไม่มีอะไรที่เสียไปไม่ได้ เจ้าให้ความสำคัญกับนางดุจน้องสาวแล้วนางเล่านางได้คิดเช่นนั้นหรือไม่ อีกอย่างนางวิธีที่นางแสดงความรักต่อเจ้าก็ช่างโหดเหี้ยมยิ่งนัก นางทำร้ายผู้คนมากมายแต่เจ้าก็ยังปล่อยให้นางลอยนวลอยู่เช่นนี้ เจ้าจะรอให้คนตายในเงื้อมมือนางอีกกี่คนกัน หรือเจ้าคิดจะให้ชูเซี่ยเดินตามรอยของโหร่วยเฟยและเฉินอวี่จู๋ไปอีกคนเล่า”

หลี่เฉินเย่นเองก็ทราบดีว่าถึงเวลาแล้วที่เขาจะต้องจัดการกับฉ่ายเวินจริงๆจังๆเสียที ชายหนุ่มถอนหายใจออกมาอย่างหนักอึ้ง “หากไม่ใช่ว่าก่อนที่อาจารย์จะเสียฝากฝังนางไว้กับข้าทุกวันนี้ข้าก็คงไม่ต้องเดินมาจนถึงจุดนี้หรอก โหร่วยเฟยและชิงเอ๋อก็คงไม่ต้องพบจุดจบเช่นนั้น” ดวงตาคมเป็นประกายกล้า “แต่ว่าข้าก็จะไม่ยอมให้เกิดอะไรขึ้นกับชูเซี่ยเช่นกัน ข้ากำลังสงสัยว่าฉ่ายเวินใช้ ‘หัวใจสีชาด’ กับข้า!”

หลี่อวิ่นกังได้ยินเช่นนั้นก็นิ่งไป “หัวใจสีชาด? คืออะไรกัน เป็นยาพิษงั้นหรือ นางหรือจะกล้าวางยาพิษเจ้าทั้งๆที่นางรักเจ้ามากถึงเพียงนี้หรือ?”

หลี่เฉินเย่นจึงเอ่ยอธิบาย “หัวใจสีชาดเป็นยาพิษชนิดหนึ่งที่อาจารย์ไปศึกษาเคล็ดวิชามาจากเหมียวเจียง หลายปีก่อนอาจารย์ให้ความสนใจในเรื่องพิษมาก หัวใจสีชาดในเหมียวเจียงจัดว่าเป็นยาเสน่ห์ชนิดหนี่ง มันสามารถควบคุมความนึกคิดของคนได้ อาจารยเห็นว่าพิษชนิดนี้มีฤทธิ์รุนแรงและครอบงำจิตใจของผู้ที่ได้รับอย่างง่ายดายจึงตั้งชื่อมันว่าหัวใจสีชาด พิษชนิดนี้สามารถควบคุมจิตใจของคนได้ก็จริงแต่ก็ไม่ได้ส่งผลร้ายกับร่างกายเลยแม้แต่น้อย พิษหัวใจสีชาดนี้ทั้งชิงเอ๋อและฉ่ายเวินต่างก็ทำเป็น ตอนอยู่บนเขาชิงเอ๋อเรียนวิชาการแพทย์แต่ก็พอจะรู้เรื่องการใช้พิษอยู่บ้าง ส่วนฉ่ายเวินนางเรียนรู้ที่จะใช้พิษเพียงอย่างเดียวเท่านั้น นางค่อนข้างหลงไหลในวิชาพิษมากเลยทีเดียว”

หลี่อวิ่นกังเอ่ยอย่างดูหมิ่น “แม่นางผู้หนึ่งแทนที่จะเรียนรู้สิ่งที่มีประโยชน์กลับเอาแต่ศึกษาสิ่งที่ทำร้ายผู้อื่น ดูท่าจิตใจของนางก็คงอำมหิตมาตั้งแต่ต้นแล้วล่ะ”

หลี่เฉินเย่นนิ่งไปก่อนจะค่อยๆเอ่ยออกมาเสียงเบา “แต่เมื่อก่อนนางเป็นเพียงเด็กสาว...”

“พอแล้ว!” เจิ้งกั๋วอ๋องหลี่อวิ่นกังเอ่ยขัดขึ้นมาอย่างโมโห “จนถึงตอนนี้เจ้าก็ยังคิดว่านางเป็นศิษย์น้องหญิงที่อ่อนหวานของเจ้า ศิษย์น้องหญิงที่อ่อนหวานผู้นั้นตายไปจากเจ้านานแล้ว ตอนนี้เหลือเพียงแค่หญิงสาวจิตใจอำมหิตเท่านั้น!”

หลี่เฉินเย่นเงยหน้ามองพี่ชายของตนเองอย่างอับจนคำพูด ทุกคำที่หลี่อวิ่นกังกล่าวมาล้วนเป็นความจริงที่เขาไม่อาจแก้ต่างได้เลย

หลี่อวิ่นกังก็เอ่ยขึ้นมาอีก “จงเจิ้งเองก็เป็นคนที่คอยอยู่รับใช้เจ้ามาตลอด จัดการและช่วยเหลือเจ้ามากมาย ก่อนหน้านี้ก็คอยปกป้องเจ้าอยู่เสมอ มาตอนนี้เพราะเจ้าเขาก็ต้องถูกพิษของฉ่ายเวินจนถึงแก่ความตาย แม้กระทั่งคำพูดสั่งเสียก็ไม่มีโอกาสได้พูด ตอนนี้สิ่งที่เจ้าควรเอ่ยคำยกย่องสรรเสริญแก่เขาให้ชนรุ่นหลังรู้จักและเคารพเขาจึงจะถูก!”

หลี่เฉินเย่นนึกถึงจงเจิ้งก็ปวดใจ ตลอดเวลาที่ผ่านมาของเขาก็มีจงเจิ้งคอยอยู่เคียงข้างมาตลอด ไม่ว่าเรื่องใดที่เขาสั่งจงเจิ้งก็จำได้ขึ้นใจและทำมันอย่างดีมาโดยตลอด อีกทั้งยังเคารพรักชูเซี่ยอย่างสุดหัวใจ จงเจิ้งมักพูดกับเขาอยู่เสมอว่าให้เขาประกาศราชโองการให้ชูเซี่ยเป็นฮองเฮาเสียที จงเจิ้งปรารถนาให้ชูเซี่ยเป็นฮองเฮามาตลอด แต่ว่าตอนนี้เขาคงไม่มีโอกาสได้เห็นอีกแล้ว

เมื่อคิดมาถึงตรงนี้เขาก็คิดไปถึงโหร่วยเฟยและชิงเอ๋อ ในหัวใจของเขาบังเกิดความแค้นขึ้นมาเต็มหัวใจก่อนจะกัดฟันเอ่ย “รอให้นางฟื้นขึ้นมาเราจะถามว่าเหตุใดนางจึงได้ทำร้ายชิงเอ๋อโหดเหี้ยมถึงเพียงนี้ เราจะให้นางคุกเข่าลงตรงหน้าหลุมศพของชิงเอ๋อเพื่อขอขมานาง!”

“ก็ดีอย่างน้อยก็สมควรทำอะไรให้แก่ชิงเอ๋อบ้าง ในเมื่อพวกนางทั้งสองคนต่างก็เป็นศิษย์น้องหญิงของเจ้าทั้งคู่ หากเจ้าใจอ่อนกับฉ่ายเวินก็ย่อมผิดต่อชิงเอ๋อ!” หลี่อวิ่นกังเอ่ยเสียงเหี้ยม

“ฝ่าบาท ท่านหมอเวินมาขอเข้าเฝ้าพะย่ะค่ะ” ราชองครักษืนอกห้องวิ่งเข้ามาทูล

ดวงตาของหลี่เฉินเย่น ก่อนจะรีบเอ่ย “รีบให้นางเข้ามา!”

หลี่เฉินเย่นก็ลุกขึ้น “พวกเจ้าก็ค่อยๆปรับความเข้าใจกันก็แล้วกัน หลังจากผ่านเรื่องนี้ไปข้าก็หวังว่าพวกเจ้าจะเข้าใจกันมากขึ้นและรู้ว่าความไว้เนื้อเชื่อใจเป็นสิ่งสำคัญมากเพียงใดในการใช้ชีวิตอยู่ด้วยกัน!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า