ชายาเกิดใหม่ของข้า นิยาย บท 220

ตอนที่220 รู้ตนเองดี

หรงท่ายกุ้ยเฟยส่ายหัว: “คนอื่นก็บอกว่าต้องภักดีต่อฮ่องเต้ แต่ว่าฮ่องเต้ครองราชย์ได้แค่ห้าปี เมื่อก่อนขอแค่ตระกูลที่โด่งดังร่ำรวยก็ไม่อยากส่งลูกสาวตัวเองเข้าวังนออกจากว่าเข้าวังแล้วจะได้เป็นเฟยเลยไม่เช่นนั้นใครจะมาทนอยู่ได้?แต่ว่าตอนนี้พึ่งผ่านไปไม่กี่ปี?ขุนนางพวกนี้ก็ส่งลูกสาวเข้าวังกันหมด ทำไมกัน?”

ไทเฮาพูดต่อว่า: “ฮ่องเต้ครองราชไม่นาน เมื่อก่อนก็ไม่ได้เป็นรัชทายาท ไม่มีอำนาจอะไร ใครๆก็อยากมีลูกกับฮ่องเต้กันทั้งนั้น จากนั้นก็แต่งตั้งเป็นองค์รัชทายาท?ลูกสาวตัวเองก็ได้แต่งตั้งเป็นเฟยเป็นฮองเฮา ฮ่องเต้ไม่มีอำนาจและไม่แข็งแรง ญาติพวกนั้นก็อาจจะสั่งรัชทายาทยึดอำนาจจากพ่อตัวเองมาให้หมดและโค่นบัลลังค์”

“ความจริงก็มีแค่ไม่กี่บ้านที่เป็นเช่นนี้แต่พอยิ่งอยู่ก็ยิ่งเยอะขึ้นก็คิดว่าจะส่งลูกสาวตัวเองเข้าวังมา เฮ้อ หลังวังนี้มีสนมเยอะแยะมากมายแต่ว่าฮ่องเต้ก็ไม่เคยไปเหยียบเลย ”

ไมเฮายิ้ม: “พวกเราเมื่อก่อนก็เป็นเช่นนี้ไม่ใช่เหรอ?แต่ว่าพวกเราก็มีเป้าหมายเพื่อแย่งกัน”

“ท่านไม่เหมือนพวกเราเลยข้าไม่เคยเห็นท่านแย่งชิงอะไรกับใครเลย”หรงท่ายกุ้ยเฟยพูด

“นั้นเป็นเพราะข้ามองออกมาแล้ว ข้ามองอกทุกอย่าง?แย่งกันไปทำไม?ข้าเกิดมาก็ออกจากวังนี้ไม่ได้แล้วไม่ว่าตำแหน่งเป็นยังไง ก็กินข้าวสามมื้อและนอนชีวิตเรียบง่าย”

“เพค่ะ!”หรงท่ายกุ้ยเฟยนึกถึงตอนอันหรานเกิดมา ตัวเองก็แย่งมาเหมือนกันเพื่อให้หยุนกางเป็นรัชทายาท นางก็คิดมาหมด เกือบทำให้เย่เอ๋อกับอันหราน โชคดีที่มีชูเซี่ยเตือน

ดังนั้นไทเฮาพูดถูกชูเซี่ยเป็นตัวนำโชคของเราจริงๆ

ถึงแม่หลี่เฉินเย่นจะเล่นกับเด็กๆอยู่แต่ว่าเขาก็ฟังทั้งสองคนพูดอยู่

เขาไม่เคยอยากเป็นฮ่องเต้เลย ตอนนั้นที่เขาอยากเป็นฮ่องเต้เพียงเพื่ออยากให้ชูเซี่ยเป็นฮองเฮา

สิ่งที่ตลกมากที่สุดคือ เขากลายเป็นฮ่องเต้แต่ชูเซี่ยไม่ได้เป็นฮองเฮาของเขา

ชีวิตก็เป็นเช่นนี้พลิกผันไปได้ทุกเมื่อ

เขาไม่กล้าไปคิดอะไรแล้ว คนที่เขารักตอนนี้จากไปหมดแล้วทีล่ะคนๆ

เฉินอวี่จู๋ โหลยี มี่เหอ ชิงเอ๋อ ฉ่ายเวิน ถึงแม้ว่าบางคนเขาก็ไม่เคยสนใจแต่ว่าก็ตายเพราะเขาหมด

ขนาดคนที่ภักดีที่สุดอย่างจงเจิ้งก็ตายเพราะเขาเช่นกัน

พอแล้ว เขาทำคนตายหลายคนแล้วเขาจะให้ชูเซี่ยตายไปอีกคนไม่ได้

ถ้าให้เขาเลือก เขายอมเป็นแบบนี้ก็ไม่ยอมให้ชูเซี่ยอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ปลอดภัย

ฮ่องเต้มีส่วนเกี่ยวข้องกับคนตายเยอะมาก แต่เขาไม่เคยคิดเลยแต่ว่าอาจจะเป็นเพราะนิสัยเปลี่ยนไปหรือเป็นเพราะเขาอยู้กับชูเซี่ยนานแล้ว ชีวิตในสายตาเขามีค่ามากขึ้น

เขาไม่ได้ตั้งใจทำร้ายสนมพวกนั้นดังนั้นตอนนี้เขาก็ไม่ไปแตะพวกสนมถ้ารับผิดชอบไม่ไหวก็อย่าไปยุ่ง

เขาปฏิเสธไม่ได้ที่พ่อพวกนางจะส่งพวกนางเข้ามาในวัง หรงท่ายกุ้ยเฟยพูดถูก เริ่มต้นก็แค่ขุนนางพวกนั้นอยากจะควบคุมเขาไว้แต่ว่าพอนานไป ขุนนางพวกนั้นก็ภูมิใจมากเหมือนลูกสาวตัวเองได้เข้าวังแล้วก็เป็นเรื่องที่ภาคภูมิใจ

เขาต้องการเวลา อย่างน้อยประมาณสามปี

จูฟางหยวนกับเข้าเมืองมาไหว้บรรพบุรุษเขาเคยเล่าเรื่องหนึ่งให้เขาฟังเกี่ยวกันเรื่องฮ่านวู่ฝ่าบาทถึงแม้ว่าเขาจะไม่รู้จักว่าเป็นใครแต่ว่าเรื่องนี้สอนเขาหลายอย่างมาก จูฟางหยวนบอกว่า ห่านวูฝ่าบาทครองราช ไทเฮาก็เข้ามายุ่งเรื่องงานราชการมากมาย จนกว่านางจะตายถึงจะปล่อยมือ ห่านวูฝ่าบาทถึงจะได้ครองราชด้วยตัวเอง

จูฟางหยวนยังบอกอีกว่าถ้าเขาลองดีกับไทเฮาเขาก็คงโดนปลดไปนานแล้วคงไม่มี ห่านเช่าที่ดีขนาดนี้หรอก?

ตอนนี้ เขาก็คงเป็นเช่นนี้ถึงแม้ว่าญาติจะอยู่แต่ญาตพวกนี้ก็ทำอะไรเขาไม่ได้แล้ว มีขุนนางอำนาจเยอะอยู่เต็มไปหมดและขุนนางเก่าก็ไม่ยอมออกไปเสียทีพูดเมื่อไหร่พวกเขาก็ใช้เรื่องเก่าๆมาขู่เขา เขาก็เลยต้องอดทนไว้ก่อน

แต่ว่าความอดทนของเขาก็มีขีดจำกัดเหมือนกัน เขารอโอกาสเท่านั้น

เขาจะเอาอำนาจทางทหารคืนมาให้หมด

แต่ว่าอำนาจทางทหารนี้เอามาไม่ง่ายเลย?มีกฏหมายไว้ ถ้าเขาแย่งมาก็จะโดนอวีสือต้าฟูสอบสวนได้

“ท่านพ่อ คิดอะไรอยู่ครับ?”ชงโหลเห็นเขาใจลอยก็เลยดึงแขนเสื้อและถาม

หลี่เฉินเย่นยั่งลงและพูดว่า: “ไม่มีอะไร กำลังคิดอยู่ว่าแม่เจ้าจะกลับมาเมื่อไหร่?”

“กำลังออกรักษามั้งเพค่ะ”จิงโม่พูด

ชูเซี่ยไม่อยู่บ้านก็คือออกไปตรวจ ฝาแฝดชินแล้ว

หลี่เฉินเย่นยืนมือไปจับหน้าพวกเขาอย่างเอ็นดู ในใจก็คิดว่าเขาจะประกาศเรื่องนี้ยังไงว่าเขามีลูกสองคนแล้ว

แต่ว่าเขาก็คิดว่าไม่อยากให้ชงโหลเป็นรัชทายาท งานของฮ่องเต้นั้นไม่ใช่ใครๆก็ทำได้ ถ้าเป็นฮ่องเต้แล้วก็ต้องปล่อยวางบ้าง

“ทำไมถึงออกตรวจล่ะ?ตอนนี้ท่านแม่ไม่ออกไปรักษาแล้ว”ชงโหลพูด “ท่านพ่อเป็นฮ่องเต้ ท่านพ่อมีเงินเยอะมากไม่ต้องให้ท่านแม่ออกไปหาเงินก็ได้”

จิงโม่มองตาโต“ใช่สิ?ฮ่องเต้มีเงินเยอะมาก?งั้นข้าก็อยากเป็นฮ่องเต้เช่นกัน”

ไทเฮาได้ยินก็หัวเราะและพูดว่า“เด็กน้อย เจ้าเป็นผู้หญิงจะเป็นฮ่องเต้ได้อย่างไร ถ้าจะเป็นก็ต้องเป็นชงโหลสิ”

ฉองเหลาปัดมือ“ข้าไม่อยากเป็น ข้าอยากเป็นหมอ”

หรงท่ายกุ้ยเฟยถามอย่างสงสัย: “หึตอนนี้ทั้งสองฝ่ายก็มีคนสืบทอดแล้วสิ จิงโม่เป็นฮ่องเต้ฉองเหลาเป็นหมอ นี่กำลังจะสืบทอดงานของพ่อแม่เหรอ?”

“อะไรคืองานครับ/ค่ะ?”จิงโม่กับชงโหลถามขึ้นมา

“งานก็คือ……”หรงท่ายกุ้ยเฟยคิด “ไอหย่า ข้าก็ไม่ค่อยเข้าใจ ใครเข้าใจช่วยอธิบายสิ งั้นหว่านเหนียงเจ้าลองอธิบายสิ”

หว่านเหนียงยิ้มและพูดว่า: “ท่านไม่เข้าใจ งั้นก็คงไม่มีใครเข้าใจแล้วเพค่ะ ไทเฟยไม่เข้าบ่าวจะเข้าใจได้อย่างไร?”

หรงท่ายกุ้ยเฟยยิ้มและพูดว่า“ดูสิยายแก่นี่ตัวเองตามไทเฮามานานขนาดข้าเจ้าก็ยังกล้าหัวเราะงั้นเหรอ”

“บ้าวไม่กล้าเพค่ะ บ่าวขออภัย!”หว่านเหนียงพูด

“พอแล้วๆ ข้าไม่โทษเจ้าหรอก”หรงท่ายกุ้ยเฟยมองจิงโม่ “จิงโม่เด็กน้อย เจ้าอยากเป็นฮ่องเต้งั้นหรือ?”

จิงโม่เอียงหัวและคิด“ไม่รู้เพค่ะ งั้นข้าก็เป็นหมอให้น้องชายเป็นฮ่องเต้”

“ไม่เอาๆ ฟูจือบอกแล้วว่า อย่าเพียงแต่ฟังแค่ลมปากคนอื่น พี่สาวทำไมถึงเป็นเช่นนี้กัน”

“พ่อบุญธรรมบอกว่าคำของฟูจือเชื่อไม่ได้ ฟูจืออยากจะขอท่านแม่แต่งงานก็เป็นคนไม่ดีเหมือนกัน”

หลี่เฉินเย่นก็พูดขึ้นมาว่า“ฟูจืออยากแต่งงานกับท่านแม่?ฟูจือเป็นผู้ใดกัน”

“ฟูจือเป็นคนป่วยของท่านแม่ ก็คือฟูจือเป็นคนสอนหนังสือให้พวกเรา”ชงโหลดึงเสื้อของหลี่เฉินเย่นและพูดเบาๆว่า : “แต่ว่า พ่อบุญธรรมบอกว่าฟูจือเป็นคางคกเป็นสัตว์ประหลาด”

“สตว์ประหลาด?”

“ใช่ครับ พ่อบุญธรรมบอกว่าเขาอยากกินเนื้อนางฟ้า เป็นสัตว์ประหลาด ให้พวกเราไม่ต้องไปเรียนกับฟูจือแล้ว”ชงโหลพูด

จิงโม่ก็ถามหลี่เฉินเย่นว่า“ท่านพ่อค่ะ มีคางคกที่กลายเป็นคนจริงเหรอค่ะ?”

หลี่เฉินเย่นพูดต่อว่า“มีสิ ฟูจือนั้นเป็นคางคกที่น่าเกียจมากทีเดียว!”

ความคิดเห็น

ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า