ตอนที่ 223 ความสนับสนุนของเพื่อน
หลี่เฉินเย่นชักสีหน้าก่อนที่จะเอ่ยขึ้นด้วยน้ำเสียงเย็นเฉียบ “เจ้าคิดว่าจะสามารถปิดบังทุกคนได้อย่างนั้นหรือ เรื่องที่เจ้าพาเด็กๆกลับเข้าเมืองหลวงข่าวต่างก็แพร่กระจายกันถ้วนทั่วแล้ว ต่อให้ข้าจะป่าวประกาศว่าเจ้าไม่ใช่มารดาของคู่แฝดก็ไม่มีผู้ใดเชื่อหรอก”
ชูเซี่ยก็เอ่ยเสียงเบา “นั่นยังไม่เพียงพออีกหรือ ในเมื่อทุกคนต่างก็รู้กันหมดแล้วว่ามารดาของคู่แฝดก็คือข้าแล้วเหตุใดท่านยังต้องป่าวประกาศอีกเล่า รับรู้อีกเรื่องหนึ่งแต่การที่ประกาศอย่างเป็นทางการก็อีกเรื่องหนึ่ง หากว่าท่านยังให้พวกเขาใช้ชีวิตอย่างมีความสุขอยู่ข้างกายท่าน ท่านก็ควรหามารดาที่เหมาะสมให้แก่พวกเขาไม่ใช่มารดาที่เคยตายไปแล้วเช่นข้า”
หลี่เฉินเย่นกล่าวอย่างโมโห “เรื่องนี้ไม่อาจต่อรองได้!” กล่าวจบชายหนุ่มก็เดินสะบัดชายเสื้อจากไป
ชูเซี่ยถอนหายใจออกมาอย่างหนักใจ นางรู้อยู่แล้วว่าเขาไม่มีทางที่จะยอมรับเหตุผลไร้สาระของนาง แต่ทว่านี่ก็เป็นทางออกที่ดีสำหรับทุกฝ่ายไม่ใช่หรือไงเล่า
หลี่เฉินเย่นกลับมาถึงวังหลวงด้วยอารมณ์ขุ่นมัวอย่างยิ่ง
เขาคิดไม่ถึงจริงๆว่าชูเซี่ยจะกล้าเสนอความคิดเช่นนี้กับเขา
ความสุขในชีวิตของหลี่เฉินเย่นก็คือช่วงเวลาที่เขาเป็นเพียงหนิงอานอ๋อง ช่วงเวลาที่เขามีภรรยาเพียงผู้เดียวที่ชื่อว่า ชูเซี่ย
และนั่นก็เป็นความสำเร็จที่สุดในชีวิตของเขา
มาตอนนี้ความสุขและความสำเร็จเก่าๆเหล่านั้นกลับมาในความนึกคิดของเขาอีกครั้ง เพราะว่าพระชายาหนิงอานชูเซี่ยของเขาได้ให้กำเนิดเด็กแฝดเฉลียวฉลาดน่ารักน่าชังให้แก่เขา เขาอดบอกกับตนเองไม่ได้จริงๆว่าเรื่องนี้ต่างหากเล่าจึงจะเรียกได้ว่าเป็นความสำเร็จที่แท้จริงในชีวิตของเขา
หากว่าเขาไม่มีความสามารถที่จะปกป้องคุ้มครองลูกๆของตนเองได้แล้วล่ะก็ ตำแหน่งฮ่องเต้นี้ก็ช่างมันเถิด
“ฝ่าบาทมีเรื่องไม่สบายพระทัยหรือพะย่ะค่ะ” หลวี่หนิงสังเกตเห็นใบหน้าหมองคล้ำของพระองค์นับตั้งแต่กลับมาจากจวนอ๋องก็อดไม่ได้ที่จะถามขึ้นมา
หลี่เฉินเย่นไม่ได้ตอบเขาเพียงแต่เอ่ยคำสั่ง “ไปโรงหมอ”
ตอนนี้ในใจของเขามีเรื่องราวมากมายอัดอั้นตันใจเต็มไปหมด เขาอยากได้สหายสักคนไว้คอยรับฟังและให้ความเห็น ซึ่งคนผู้นั้นย่อมไม่ใช่หลวี่หนิง
เรื่องบางเรื่องคงมีเพียงจูเก๋อหมิงที่เข้าใจ
จูเก๋อหมิงได้ยินเรื่องราวทั้งหมดก็นิ่งไปครู่หนึ่ง “ความจริงแล้วสิ่งที่ชูเซี่ยกล่าวมาก็ใช้ว่าจะไร้เหตุผล แม้ว่าผู้คนต่างก็รู้ดีว่าชูเซี่ยเป็นมารดาแท้ๆของคู่แฝด แต่ทว่าหากจะให้เจ้าประกาศออกมาเป็นทางการก็จะกลายเป็นผลลัพธ์อีกแบบหนึ่งอยู่ดี”
ใบหน้าของหลี่เฉินเย่นฉายแววผิดหวัง “แม้แต่เจ้าก็คิดเช่นนี้หรือ”
จูเก๋อหมิงก็เอ่ยขึ้นอีกครั้ง “ข้าเพียงแค่คิดว่าการที่นางกล่าวเช่นนี้ก็นับว่าไม่ผิด นางทำเช่นนี้ก็เพราะเห็นแก่เจ้า เห็นแก่เด็กๆ แน่นอนว่าหากเจ้ามาถามความเห็นของข้า ในฐานะสหายแล้วข้าก็ไม่อยากให้เจ้าป่าวประกาศเรื่องนี้เช่นกัน ชูเซี่ย
นางเป็นสตรีที่ดีนางไม่สมควรต้องมาทนคำครหานินทามากไปกว่านี้อีกแล้ว”
แม้แต่ลูกแท้ๆของตนเองนางยังไม่อาจได้รับการยอมรับในฐานะของมารดา ในฐานะมารดาผู้หนึ่งแล้วมันก็ช่างโหดร้ายเกินไป
หลี่เฉินเย่นปรายตามองมาที่เขาก่อนจะพยักหน้า “นี่สิจึงจะเหมือนคนพูดหน่อย”
จูเก๋อหมิงยิ้มออกมา “เจ้าอย่าเห็นว่าคนเป็นคนเย็นชานักได้หรือไม่ คู่แฝดเป็นลูกๆที่ชูเซี่ยให้กำเนิดมา นางเลี้ยงดูเด็กๆมากับมือจนเติบใหญ่ เจ้าคิดว่านางจะไม่เสียใจหรือที่เสนอให้เจ้าทำเรื่องเช่นนี้”
หลี่เฉินเย่นรู้สึกปวดใจขึ้นมา “การกลับมาครั้งนี้นางเปลี่ยนไปมากเหลือเกิน นางใจแข็งกว่าเมื่อก่อนมากนัก จูเก๋อ แท้จริงแล้วข้าช่างไร้ความสามารถ ใต้หล้าอยู่ในกำมือของข้า ห้าปีมานี้สถานการณ์บ้านเมืองก็วุ่นวายเหลือเกิน ครอบครัวและหญิงที่ข้ารักข้ายังไม่มีโอกาสได้ปกป้องพวกเขาด้วยซ้ำ ข้ามันช่างไม่ได้เรื่อง”
จูเก๋อหมิงขมวดคิ้วไม่ชอบใจ “เจ้าจะพูดจาดูถูกตนเองเช่นนี้ให้ได้อะไรขึ้นมากัน อย่างน้อยตลอดห้าปีมานี้ เจ้าก็ร่างนโยบายใหม่ขึ้นมามากมาย ตอนนี้ไม่ว่าจะเป็นเศรษฐกิจหรือการเกษตรก็ล้วนก้าวหน้าและมั่นคงภายใต้การปกครองของเจ้า บ้านเมืองในยามนี้นับว่าเจริญรุ่งเรืองยิ่งกว่ายามที่อดีตฮ่องเต้ปกครองเสียอีก ชื่อเสียงของเจ้าไม่ว่าผู้ใดก็ล่วงรู้และยอมรับด้วยกันทั้งนั้น”
“เหล่าขุนนางแบ่งพรรคแบ่งพวก แก่งแย่งชิงผลงานกัน คนรอบๆตัวข้ามีแต่คนที่ทะเยอทะยานมักใหญ่ใฝ่สูงเฝ้ารอวันที่ข้าเผลอจะได้เหยียบย้ำข้าขึ้นไปเสียมากกว่า”
“ทนอีกสักหน่อยเถิด ขอเพียงยึดครองอำนาจทางการทหารมาได้ก็ไม่มีอะไรน่าห่วงอีกแล้ว”
ความคิดเห็น
ความคิดเห็นของผู้อ่านเกี่ยวกับนิยาย: ชายาเกิดใหม่ของข้า
ฉากนี้คือ..เจ็บหัวใจ😭😭😭...